บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40
  41. 41
  42. 42

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

โยบ 31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

1. “ข้าได้ทำพันธสัญญากับนัยน์ตาของตัวเองว่าจะไม่มองหญิงสาวด้วยใจกำหนัด

2. เพราะอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าเบื้องบนทรงกำหนดให้มนุษย์?อะไรคือมรดกจากองค์ทรงฤทธิ์เบื้องบน?

3. ก็คือหายนะสำหรับคนชั่วและภัยพิบัติสำหรับคนทำผิดไม่ใช่หรือ?

4. พระองค์ไม่ได้ทอดพระเนตรเห็นหนทางของข้าและทรงนับทุกย่างก้าวของข้าหรอกหรือ?

5. “หากข้าได้ดำเนินชีวิตในความเท็จหรือเท้าของข้ามุ่งสู่การหลอกลวง

6. ขอพระเจ้าทรงชั่งข้าด้วยตราชูที่เที่ยงตรงแล้วจะทรงทราบว่าข้าไร้ตำหนิ

7. หากข้าเตลิดจากทางของพระเจ้าหากตาของข้าพาใจมัวเมาหรือหากมือของข้าแปดเปื้อนมลทิน

8. ก็ขอให้คนอื่นกินสิ่งที่ข้าได้หว่านและขอให้พืชผลของข้าถูกถอนรากถอนโคน

9. “หากจิตใจของข้าถูกผู้หญิงล่อไปหรือหากข้าซุ่มอยู่ที่ประตูของเพื่อนบ้าน

10. ก็ขอให้ภรรยาของข้าไปโม่แป้งให้คนอื่นและให้ชายอื่นหลับนอนกับนาง

11. เพราะสิ่งนั้นน่าละอายเป็นบาปที่ต้องถูกลงโทษ

12. มันเป็นไฟเผาผลาญสู่ความหายนะและจะขุดรากถอนโคนสิ่งที่ข้าปลูกไว้

13. “หากข้าไม่ให้ความยุติธรรมแก่คนรับใช้ชายหญิงซึ่งมากล่าวโทษข้า

14. ข้าจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้า?ข้าจะตอบอย่างไรเมื่อพระองค์ทรงเรียกให้ถวายรายงาน?

15. พระเจ้าผู้ทรงสร้างข้าในครรภ์ก็ทรงสร้างพวกเขาด้วยไม่ใช่หรือ?พระเจ้าองค์เดียวกันนี้ทรงสร้างเราทั้งสองฝ่ายในท้องแม่ไม่ใช่หรือ?

16. “หากข้าบอกปัดความต้องการของผู้ยากไร้หรือปล่อยให้หญิงม่ายคอยเก้อ

17. หากข้าหวงอาหารไว้กับตัวไม่ยอมแบ่งปันแก่ลูกกำพร้าพ่อ

18. ซึ่งอันที่จริงตั้งแต่หนุ่มมา ข้าก็เลี้ยงดูลูกกำพร้าพ่อเหมือนลูกในไส้ตั้งแต่เกิดข้าก็นำทางให้หญิงม่าย

19. หากข้าได้เห็นคนกำลังจะหนาวตายเพราะไม่มีเสื้อผ้าเห็นคนยากไร้ไม่มีผ้าคลุมกาย

20. และเขาไม่ได้อวยพรข้าในใจที่ทำให้เขาอบอุ่นด้วยขนแกะของข้า

21. หากข้าได้ทำร้ายลูกกำพร้าพ่อเพราะถือว่าตนมีอิทธิพลในศาล

22. ก็ขอให้แขนของข้าหลุดออกจากไหล่ขอให้มันหักออกจากข้อต่อ

23. เพราะข้าหวาดกลัวหายนะจากพระเจ้าและเพราะข้ายำเกรงพระบารมีของพระองค์ข้าจึงไม่กล้าทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้

24. “หากข้าไว้วางใจเงินทองหรือพูดกับทองคำบริสุทธิ์ว่า ‘เจ้าเป็นความมั่นคงปลอดภัยของข้า’

25. หากข้าชื่นชมยินดีในความมั่งคั่งมหาศาลของข้าในทรัพย์สมบัติซึ่งมือของข้าหามาได้

26. หากข้ามองดูดวงตะวันส่องแสงเจิดจ้าหรือดวงจันทร์อันงามกระจ่าง

27. แล้วจิตใจของข้าถูกล่อลวงอย่างลับๆและข้าได้กราบไหว้ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์

28. นี่ก็จะเป็นบาปอันควรแก่การลงโทษเพราะเท่ากับว่าข้าไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเบื้องบน

29. “หากข้ากระหยิ่มยิ้มย่องในเคราะห์หามยามร้ายของศัตรูหรือลิงโลดยินดีในความทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้นกับเขา

30. ข้าไม่เคยยอมให้ปากของข้าทำบาปโดยสาปแช่งชีวิตของเขาให้มีอันเป็นไป

31. หากคนในครัวเรือนของข้าไม่เคยกล่าวว่า‘ใครบ้างไม่ได้กินเนื้อที่โยบให้จนอิ่ม?’

32. อันที่จริงข้าไม่เคยแม้แต่ปล่อยให้คนแปลกหน้าต้องค้างคืนอยู่ตามถนนเพราะประตูบ้านของข้าเปิดต้อนรับผู้เดินทางอยู่เสมอ

33. หากข้าปิดบังบาปไว้เหมือนที่คนทั่วไปได้ปฏิบัติโดยซุกซ่อนความผิดของข้าไว้ในใจ

34. เพราะข้ากลัวฝูงชนและหวั่นเกรงการดูแคลนจากวงศ์ตระกูลต่างๆ ยิ่งนักข้าก็เลยเก็บตัวเงียบไม่ออกนอกบ้าน

35. (“อยากให้มีใครสักคนฟังข้าตอนนี้! บัดนี้ข้าขอลงชื่อแก้ข้อกล่าวหาของข้าขอองค์ทรงฤทธิ์ตอบข้าด้วยเถิดขอให้โจทก์เขียนคำฟ้องร้องขึ้นมา

36. แน่ทีเดียว ข้าจะแบกคำฟ้องนั้นไว้บนบ่าข้าจะสวมมันไว้เหมือนมงกุฎ

37. ข้าจะแถลงทุกย่างก้าวของข้าแด่พระองค์ข้าจะเข้าเฝ้าพระองค์เหมือนข้าเป็นเจ้านายองค์หนึ่ง)

38. “หากที่ดินของข้าร้องกล่าวโทษข้าและทุกรอยไถคราดเปียกชุ่มด้วยน้ำตา

39. หากข้ากินพืชผลโดยไม่จ่ายเงินหรือทำร้ายจิตใจผู้เช่า

40. ก็ขอให้หนามงอกขึ้นแทนที่ข้าวสาลีและวัชพืชงอกแทนข้าวบาร์เลย์”โยบพูดจบลงตรงนี้