บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40
  41. 41
  42. 42
  43. 43
  44. 44
  45. 45
  46. 46
  47. 47
  48. 48
  49. 49
  50. 50
  51. 51
  52. 52
  53. 53
  54. 54
  55. 55
  56. 56
  57. 57
  58. 58
  59. 59
  60. 60
  61. 61
  62. 62
  63. 63
  64. 64
  65. 65
  66. 66

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

อิสยาห์ 26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

บทเพลงสรรเสริญ

1. ในวันนั้นทั่วแดนยูดาห์จะร้องเพลงบทนี้ว่าเรามีเมืองแข็งแกร่งเมืองหนึ่งพระเจ้าทรงทำให้ความรอดเป็นกำแพงและเชิงเทินของมัน

2. เปิดประตูเถิดเพื่อชนชาติที่ชอบธรรมซึ่งรักษาความเชื่อไว้จะได้เข้ามา

3. จิตใจที่แน่วแน่นั้นพระองค์จะทรงปกป้องไว้ในสันติภาพอันสมบูรณ์เพราะเขาไว้วางใจในพระองค์

4. จงวางใจองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไปเพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระศิลานิรันดร์

5. พระองค์ทรงทำให้คนที่อยู่สูงตกต่ำลงทรงดึงนครที่ยโสโอหังลงมาพระองค์ทรงปราบมันให้ราบคาบและทรงเหวี่ยงมันลงมาคลุกฝุ่น

6. เท้าของผู้ยากไร้และผู้ถูกข่มเหงก็เหยียบย่ำมัน

7. หนทางของคนชอบธรรมราบเรียบข้าแต่องค์ผู้เที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้วิถีของคนชอบธรรมราบรื่น

8. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระองค์โดยดำเนินอยู่ในทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์พระนามและกิตติศัพท์ของพระองค์เป็นความปรารถนาในใจของข้าพระองค์ทั้งหลาย

9. ยามค่ำคืนจิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหาพระองค์ยามเช้าจิตวิญญาณของข้าพระองค์ใฝ่หาพระองค์เมื่อคำพิพากษาของพระองค์มายังโลกชาวโลกจึงได้เรียนรู้ความชอบธรรม

10. แม้ทรงแสดงพระคุณแก่คนชั่วร้ายพวกเขาก็ไม่ได้เรียนรู้ความชอบธรรมแม้ในดินแดนแห่งความเที่ยงธรรม พวกเขาก็ยังคงทำชั่วต่อไปและไม่คำนึงถึงพระบารมีขององค์พระผู้เป็นเจ้า

11. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเงื้อพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นสูงแต่พวกเขาไม่เห็นขอทรงให้พวกเขาเห็นพระทัยอันกระตือรือร้นที่ทรงมีต่อประชากรของพระองค์ แล้วเขาจะได้ละอายอดสูขอให้ไฟที่ทรงสงวนไว้สำหรับเหล่าศัตรูเผาผลาญพวกเขา

12. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานสันติสุขแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายสิ่งสารพัดที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำสำเร็จ พระองค์ทรงเป็นผู้กระทำเพื่อข้าพระองค์ทั้งหลาย

13. ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้เคยมีเจ้านายอื่นๆ ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลายแต่ข้าพระองค์ทั้งหลายเทิดทูนพระนามของพระองค์เท่านั้น

14. บัดนี้เขาเหล่านั้นตายแล้ว ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปวิญญาณที่จากไปไม่ได้กลับมาอีกพระองค์ทรงลงโทษและนำพวกเขาไปสู่หายนะทรงกวาดล้างทุกอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของพวกเขา

15. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเพิ่มพูนประชากรพระองค์ทรงขยายประเทศชาติพระองค์ทรงได้รับพระเกียรติสิริของพระองค์พระองค์ได้ทรงขยายพรมแดนของแผ่นดิน

16. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขามาหาพระองค์ยามทุกข์ลำเค็ญเมื่อทรงตีสั่งสอนพวกเขา พวกเขาก็ทุกข์จนแทบอธิษฐานไม่ออก

17. ดั่งหญิงมีครรภ์ใกล้คลอดบิดกาย กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้นต่อหน้าพระองค์

18. เหล่าข้าพระองค์เจ็บท้อง ทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแต่ก็เบ่งออกมาได้แต่ลมข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้นำความรอดมาสู่โลกและไม่ได้ให้กำเนิดมวลมนุษย์

19. แต่ผู้ที่เป็นของพระองค์ แม้ตายแล้วจะยังมีชีวิตอยู่ร่างกายของเขาจะลุกขึ้นมาท่านผู้นอนอยู่ในฝุ่นธุลีจงลุกขึ้นและโห่ร้องยินดีน้ำค้างสำหรับท่านเหมือนน้ำค้างยามเช้าโลกจะให้ชีวิตแก่ผู้ที่ตายแล้ว

20. ประชากรของข้าเอ๋ย จงเข้าไปในห้องของพวกท่านเถิดแล้วปิดประตูซ่อนตัวอยู่สักระยะหนึ่งจนกว่าพระพิโรธของพระองค์ผ่านพ้นไป

21. ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังเสด็จออกมาจากที่ประทับของพระองค์เพื่อลงโทษชาวโลกเพราะบาปของพวกเขาโลกจะเผยโลหิตซึ่งหลั่งนองและจะไม่ซ่อนผู้ที่ถูกเข่นฆ่าไว้อีกต่อไป