บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

เพลงคร่ำครวญ 2 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

1. โอ เมฆแห่งพระพิโรธขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมเหนือธิดาแห่งศิโยน!พระองค์ทรงเหวี่ยงความโอ่อ่าตระการของอิสราเอลจากฟ้าลงดินในวันแห่งพระพิโรธพระองค์ไม่ได้ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์

2. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายที่อาศัยทุกแห่งของยาโคบอย่างไร้ความปรานีพระองค์ทรงทลายที่มั่นทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์ด้วยพระพิโรธของพระองค์ทรงนำอาณาจักรและเหล่าเจ้านายของยูดาห์ตกต่ำลงมาถึงดินอย่างน่าอัปยศอดสู

3. พระองค์ทรงล้มล้างอำนาจทั้งสิ้นของอิสราเอลด้วยพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์พระองค์ทรงเพิกถอนการปกป้องรักษาเมื่อศัตรูรุกเข้ามาโจมตีทรงเผาผลาญยาโคบเหมือนเปลวไฟลุกโชนซึ่งแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ มัน

4. พระองค์ทรงน้าวคันศรเหมือนทรงเป็นศัตรูพระหัตถ์ขวาของพระองค์เตรียมพร้อมจะปล่อยลูกศรทรงประหารทุกคนผู้เป็นที่ชื่นตาชื่นใจเหมือนทรงเป็นศัตรูทรงระบายพระพิโรธเหมือนไฟแผดเผาเต็นท์ของธิดาแห่งศิโยน

5. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นเหมือนศัตรูพระองค์ทรงกลืนกินอิสราเอลให้สิ้นไปทรงกวาดล้างปราสาทราชวังและทรงทำลายที่มั่นต่างๆ ในอิสราเอลทรงทำให้การร้องไห้คร่ำครวญทวีเพิ่มขึ้นสำหรับธิดาแห่งยูดาห์

6. พระองค์ทรงทิ้งที่ประทับของพระองค์ให้รกร้างดั่งสวนร้างทรงทำลายสถานนมัสการของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ศิโยนหลงลืมเทศกาลตามกำหนดและสะบาโตทั้งหลายพระองค์ทรงเขี่ยทั้งกษัตริย์และปุโรหิตทิ้งด้วยพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์

7. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิเสธแท่นบูชาและทอดทิ้งสถานนมัสการของพระองค์พระองค์ทรงมอบกำแพงปราสาทราชวังไว้ในมือของศัตรูเหล่าศัตรูส่งเสียงโห่ร้องในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้าราวกับวันฉลองตามเทศกาล

8. องค์พระผู้เป็นเจ้าตั้งพระทัยที่จะทลายกำแพงล้อมรอบธิดาแห่งศิโยนพระองค์ทรงพิจารณาโทษอย่างถี่ถ้วนไม่ได้ทรงยั้งพระหัตถ์จากการทำลายล้างทรงทำให้เชิงเทินและกำแพงพังทลายไปด้วยกันต่อหน้าพระองค์

9. ประตูทั้งหลายของเยรูซาเล็มทรุดจมดินลูกกรงประตูทั้งหลายหักทลายกษัตริย์และบรรดาเจ้านายตกเป็นเชลยในชาติต่างๆบทบัญญัติสูญสิ้นไปแล้วและผู้เผยพระวจนะทั้งหลายไม่ได้รับนิมิตจากองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกต่อไป

10. เหล่าผู้อาวุโสของเยรูซาเล็มนั่งซึมอยู่ที่พื้นท่ามกลางความเงียบสงัดโปรยฝุ่นธุลีบนศีรษะและนุ่งห่มผ้ากระสอบบรรดาหญิงสาวแห่งเยรูซาเล็มซบหน้าลงกับพื้นด้วยความอับอาย

11. นัยน์ตาของข้าพเจ้าหมองช้ำเพราะการร้องไห้ข้าพเจ้าทุกข์ระทมอยู่ภายในดวงใจของข้าพเจ้าแหลกสลายเพราะพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้าถูกทำลายเพราะลูกเล็กเด็กแดงเป็นลมอยู่ตามถนนหนทางในเมือง

12. “แม่จ๋า ไหนล่ะอาหาร?”เด็กๆ เอ่ยกับแม่ขณะหมดแรงเหมือนคนบาดเจ็บกลางถนนขณะชีวิตหลุดลอยไปจากอ้อมอกแม่

13. ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ยเราจะพูดอะไรเพื่อเจ้าได้?เราจะเปรียบเจ้ากับอะไรหนอ?ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ยเราจะเทียบเจ้ากับสิ่งใดดีเพื่อจะปลอบโยนเจ้าได้?บาดแผลของเจ้าลึกดั่งทะเลใครเล่าจะเยียวยารักษาเจ้าได้?

14. นิมิตของเหล่าผู้เผยพระวจนะของเจ้าล้วนจอมปลอมไร้ค่าพวกเขาไม่ได้ตีแผ่บาปของเจ้าทำให้เจ้าต้องตกเป็นเชลยต่อไปพระดำรัสที่พวกเขาแจ้งเจ้านั้นจอมปลอมและพาให้หลงผิด

15. คนทั้งปวงที่ผ่านไปมาตบมือเยาะเย้ยเจ้าพวกเขาถากถางและส่ายศีรษะสมเพชธิดาแห่งเยรูซาเล็มว่า“นี่น่ะหรือกรุงที่ได้รับการขนานนามว่างามเพียบพร้อมเป็นความชื่นชมยินดีของคนทั้งโลก?”

16. ศัตรูทั้งปวงของเจ้าอ้าปากเย้ยหยันเจ้าส่งเสียงเยาะเย้ย ยิงฟันใส่และกล่าวว่า “ในที่สุดเราก็ทำลายเจ้าลงได้นี่เป็นวันที่เรารอคอยมานานเราอยู่มาจนได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น”

17. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำตามที่ดำริไว้ทรงทำให้สำเร็จตามที่ลั่นวาจาไว้ซึ่งพระองค์มีประกาศิตไว้เมื่อนานมาแล้วพระองค์ทรงล้มเจ้าลงโดยไม่ปรานีทรงยอมให้ศัตรูลิงโลดอยู่เหนือเจ้าพระองค์ทรงเชิดชูพลังของศัตรูของเจ้า

18. จิตใจของพวกเขาร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าปราการของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ยให้น้ำตาของเจ้าหลั่งไหลดั่งแม่น้ำตลอดทั้งวันทั้งคืนอย่าได้หยุดหย่อนอย่าให้ตาของเจ้าได้พักเลย

19. จงลุกขึ้นร่ำไห้ในยามค่ำคืนตั้งแต่เริ่มมืดจงระบายความในใจของเจ้าออกมาเหมือนสายน้ำต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจงชูมือขึ้นอ้อนวอนพระองค์เพื่อชีวิตลูกเล็กเด็กแดงทั้งหลายของเจ้าซึ่งเป็นลมไปเพราะความหิวโหยอยู่ทุกหัวถนน

20. “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงทอดพระเนตรและใคร่ครวญเถิดพระองค์ทรงเคยทำเช่นนี้แก่ใครบ้าง?ควรหรือที่คนเป็นแม่จะกินเลือดเนื้อเชื้อไขของตนคือบรรดาลูกในไส้ที่ตนฟูมฟักเลี้ยงดูมา?ควรหรือที่ปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะจะถูกฆ่าในสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้า?

21. “ทั้งคนหนุ่มคนแก่ทั้งหลายนอนคลุกฝุ่นอยู่ด้วยกันกลางถนนคนหนุ่มคนสาวของข้าพระองค์ล้มตายด้วยคมดาบพระองค์ทรงประหารพวกเขาในวันแห่งพระพิโรธทรงเข่นฆ่าพวกเขาโดยไม่ปรานี