บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ปัญญาจารย์ 7 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

สติปัญญา

1. ชื่อเสียงดีมีค่ายิ่งกว่าน้ำหอมราคาแพงและวันตายก็ดีกว่าวันเกิด

2. ไปบ้านที่มีการไว้ทุกข์ก็ดีกว่าไปบ้านที่มีงานเลี้ยงเพราะความตายเป็นจุดหมายปลายทางของทุกคนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ควรใส่ใจในข้อนี้

3. โศกเศร้าดีกว่าหัวเราะเพราะใบหน้าโศกเศร้านั้นเป็นผลดีต่อจิตใจ

4. ใจแบบคนฉลาดพบได้ในบ้านที่มีความโศกเศร้าแต่ใจแบบคนโง่พบได้ในบ้านที่มีความรื่นเริง

5. ฟังคำตำหนิของคนฉลาดดีกว่าฟังคนโง่ร้องเพลงสรรเสริญเยินยอ

6. เสียงหัวเราะของคนโง่ก็เหมือนเสียงแตกปะทุของหนามในไฟใต้หม้อนี่ก็อนิจจัง

7. เมื่อคนฉลาดกดขี่ผู้อื่นเขาก็ทำตัวเหมือนคนโง่และเมื่อรับสินบนก็ทำให้ชีวิตเสื่อมทราม

8. ตอนจบดีกว่าตอนเริ่มความอดทนอดกลั้นดีกว่าความหยิ่งจองหอง

9. อย่าปล่อยให้ใจของเจ้าโกรธเร็วเพราะความโกรธอยู่ในใจของคนโง่

10. อย่าถามว่า “ทำไมสมัยก่อนดีกว่าเดี๋ยวนี้?”เพราะนั่นไม่ใช่คำถามที่ฉลาดเลย

11. สติปัญญาเป็นสิ่งดีเช่นเดียวกับมรดกเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เห็นตะวัน

12. สติปัญญาเป็นที่พักพิงเช่นเดียวกับเงินแต่ข้อได้เปรียบของความรู้ก็คือสติปัญญาสงวนชีวิตของผู้มีปัญญาไว้

13. จงพิเคราะห์ดูพระราชกิจของพระเจ้าสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำให้คดใครจะเหยียดให้ตรงได้?

14. จงสุขใจในยามดีแต่เมื่อถึงยามทุกข์ยากก็จงใคร่ครวญพระเจ้าทรงบันดาลทั้งยามดีและยามร้ายมนุษย์จึงไม่สามารถรู้อะไรเลยเกี่ยวกับอนาคตของตน

15. ในชีวิตอนิจจังนั้น ข้าพเจ้าเห็นทั้งสองสิ่งนี้มาแล้วคนชอบธรรมต้องพินาศทั้งๆ ที่ชอบธรรมและคนชั่วร้ายอายุยืนทั้งๆ ที่ชั่วร้าย

16. อย่าเป็นคนชอบธรรมเกินไปและอย่าฉลาดเกินไปจะทำลายตัวเองทำไม?

17. อย่าชั่วร้ายเกินไปและอย่าโง่เง่าเต่าตุ่นเรื่องอะไรจะต้องตายก่อนกำหนด?

18. เป็นการดีที่จะยึดสิ่งหนึ่งไว้และไม่ปล่อยให้อีกสิ่งหลุดมือไปผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าจะหลีกเลี่ยงเรื่องสุดโต่งทั้งหมดนี้ไปได้

19. สติปัญญาทำให้คนฉลาดมีอำนาจมากยิ่งกว่าผู้ครอบครองสิบคนที่ครองเมือง

20. ไม่มีสักคนเดียวในโลกนี้ที่ดีพร้อมที่ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและไม่เคยทำบาปเลย

21. อย่าใส่ใจทุกถ้อยคำที่ใครๆ พูดกันมิฉะนั้นท่านอาจได้ยินคนใช้ของท่านเองแช่งด่าท่าน

22. เพราะท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวท่านเองแช่งด่าคนอื่นหลายครั้ง

23. ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าทดสอบด้วยสติปัญญาแล้ว และข้าพเจ้ากล่าวว่า“เราตั้งใจจะเป็นคนฉลาด”แต่มันก็เกินไขว่คว้า

24. สติปัญญาจะเป็นอะไรก็ตามแต่มันช่างไกลลิบลับและลึกซึ้งนักใครเล่าจะค้นพบได้?

25. ข้าพเจ้าจึงมุ่งหาความเข้าใจพินิจพิเคราะห์และเสาะหาสติปัญญากับมูลเหตุของสิ่งต่างๆและพยายามเข้าใจความโง่เขลาของความชั่วและความบ้าบอของความโฉดเขลา

26. ข้าพเจ้าพบว่าสิ่งที่ขมขื่นยิ่งกว่าความตายก็คือผู้หญิงซึ่งเป็นกับดักใจของนางเป็นบ่วงแร้วมือของนางคือโซ่ตรวนผู้ที่พระเจ้าโปรดปรานจะรอดพ้นจากนางแต่คนบาปต้องติดกับของนาง

27. ปัญญาจารย์กล่าวว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าค้นพบสิ่งนี้คือ“การนำเอาสิ่งหนึ่งมาปะติดปะต่อกับอีกสิ่งเพื่อหามูลเหตุ

28. ขณะที่หาอยู่แต่ยังไม่พบข้าพเจ้าก็พบว่าในพันคนจะมีผู้ชายซื่อตรงคนหนึ่งแต่ไม่มีผู้หญิงซื่อตรงสักคน