บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ปัญญาจารย์ 4 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

การกดขี่ข่มเหง การตรากตรำ และการไร้ญาติขาดมิตร

1. แล้วข้าพเจ้าได้มองดูและได้เห็นการกดขี่ข่มเหงทั้งปวงซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ข้าพเจ้าเห็นน้ำตาของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหงและไม่มีใครปลอบโยนเขาอำนาจทั้งหลายก็อยู่ในมือของคนที่กดขี่และไม่มีใครปลอบโยนเขา

2. ข้าพเจ้าจึงประกาศว่าคนที่ตายไปแล้วมีความสุขมากกว่าคนเป็นซึ่งยังต้องมีชีวิตอยู่

3. แต่คนที่ยังไม่เกิดมาที่ยังไม่เคยเห็นความชั่วร้ายที่เขาเคยทำกันมาภายใต้ดวงอาทิตย์ก็ยังดีกว่าคนทั้งสองจำพวกนั้น

4. และข้าพเจ้าได้เห็นว่าการงานทั้งหลายและความสำเร็จทั้งปวงเกิดขึ้นจากการอิจฉาเพื่อนบ้านด้วยกัน นี่ก็อนิจจัง เหมือนวิ่งไล่ตามลม

5. คนโง่งอมืองอเท้าและทำลายตัวเอง

6. มีทรัพย์เพียงกำมือเดียวแต่มีความสงบสุขก็ดีกว่ามีเต็มสองมือแต่ต้องตรากตรำและวิ่งไล่ตามลม

7. ข้าพเจ้ายังเห็นความอนิจจังบางอย่างภายใต้ดวงอาทิตย์

8. คนหนึ่งที่อยู่ตามลำพังไม่มีลูก ไม่มีพี่น้องเขาตรากตรำไม่จบสิ้นถึงอย่างนั้นตาของเขาก็ไม่พึงพอใจกับทรัพย์สมบัติที่ตนมีเขาถามตนเองว่า “ฉันจะตรากตรำไปเพื่อใครและฉันจะทำตัวอดอยากปากแห้งไปทำไม?”นี่ก็อนิจจังเป็นเรื่องน่าสังเวช!

9. สองคนช่วยกันทำดีกว่าทำคนเดียวเพราะจะได้ผลงานที่ดีกว่า

10. หากคนหนึ่งล้มลงเพื่อนของเขาก็สามารถพยุงเขาขึ้นแต่น่าสงสารคนที่อยู่คนเดียวเพราะเมื่อเขาล้มลงก็ไม่มีใครพยุงเขาขึ้น!

11. นอกจากนี้หากสองคนนอนด้วยกัน ก็ได้ไออุ่นจากกันและกันแต่คนที่นอนอยู่คนเดียวจะอุ่นได้อย่างไร?

12. ตัวคนเดียวอาจถูกปราบลงสองคนปกป้องกันได้เชือกสามเกลียวย่อมไม่ขาดง่ายๆ

ความก้าวหน้าก็อนิจจัง

13. เป็นคนหนุ่มยากจนแต่เฉลียวฉลาดดีกว่าเป็นกษัตริย์ชราผู้โง่เขลาที่ไม่รับฟังคำตักเตือน

14. หนุ่มคนนั้นอาจไต่เต้ามาจากการเป็นคนคุกสู่การเป็นพระราชาหรือเขาอาจจะเกิดมาในหมู่ยาจกที่อยู่ในราชอาณาจักรของเขาเอง

15. ข้าพเจ้าเห็นบรรดาผู้ที่มีชีวิตและดำเนินอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ติดตามชายหนุ่มคนนั้นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของกษัตริย์

16. ใครต่อใครมาเข้าเฝ้าเขาไม่จบสิ้น แต่แล้วคนรุ่นต่อไปก็ขึ้นมาและไม่ยอมรับเขา นี่ก็อนิจจังเช่นกัน เหมือนวิ่งไล่ตามลม