บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

โรม 14 ฉบับ1971 (TH1971)

อย่า​ตัด‍สิน​พี่‍น้อง​ของ​ตน

1. ส่วน​คน​ที่​ยัง​มี​ความ​เชื่อ‍น้อย​อยู่​นั้น จง​รับ​เขา​ไว้ แต่​มิ​ใช่​เพื่อ​ให้​โต้‍เถียง​กัน​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ที่​แตก‍ต่าง​กัน​นั้น

2. คน‍หนึ่ง​ถือ​ว่า​จะ​กิน​อะไร​ก็​ได้​ทั้ง​นั้น แต่​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ‍น้อย​ก็​กิน​แต่​ผัก​เท่า​นั้น

3. อย่า​ให้​คน​ที่​กิน​นั้น​ดู‍หมิ่น​คน​ที่​ไม่​ได้​กิน และ​อย่า​ให้​คน​ที่​มิ​ได้​กิน​กล่าว​โทษ​คน​ที่​ได้​กิน เพราะ‍ว่า​พระ‍เจ้า​ได้​ทรง​โปรด​รับ​เขา​ไว้​แล้ว

4. ท่าน​เป็น​ใคร​เล่า จึง​กล่าว​โทษ​บ่าว​ของ​คน‍อื่น บ่าว​คน​นั้น​จะ​ได้​ดี​หรือ​จะ​ล่ม‍จม​ก็​สุด​แล้ว​แต่​นาย​ของ​เขา และ​เขา​ก็​จะ​ได้​ดี​แน่‍นอน เพราะ‍ว่า​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง‍ฤทธิ์​อาจ​ให้​เขา​ได้​ดี​ได้

5. คน‍หนึ่ง​ถือ‍ว่า​วัน‍หนึ่ง​ดี‍กว่า​อีก​วัน‍หนึ่ง แต่​อีก​คน‍หนึ่ง​ถือ‍ว่า​ทุก‍วัน​เหมือน​กัน ขอ​ให้​ทุก‍คน​มี​ความ​แน่‍ใจ​ใน​ความ​คิด‍เห็น​ของ​ตน​เถิด

6. ผู้​ที่​ถือ‍วัน​ก็​ถือ​เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แด่​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​ที่​กิน​ก็​กิน​เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แด่​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า เพราะ​เขา​ขอบ‍พระ‍คุณ​พระ‍เจ้า และ​ผู้​ที่​ไม่​ได้​กิน ก็​มิ​ได้​กิน​เพื่อ​ถวาย​เกียรติ​แด่​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า และ​ยัง​ขอบ‍พระ‍คุณ​พระ‍เจ้า

7. ใน​พวก​เรา​ไม่​มี​ผู้​ใด​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อ​ตน​เอง​ฝ่าย​เดียว และ​ไม่​มี​ผู้​ใด​ตาย​เพื่อ​ตน​เอง​ฝ่าย​เดียว

8. ถ้า​เรา​มี​ชีวิต​อยู่ ก็​มี​ชีวิต​อยู่​เพื่อ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า และ​ถ้า​เรา​ตาย​ก็​ตาย​เพื่อ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า เหตุ​ฉะนั้น​ไม่​ว่า​เรา​มี​ชีวิต​อยู่​หรือ​ตาย​ไป​ก็​ตาม เรา​ก็​เป็น​คน​ของ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า

9. เพราะ​เหตุ​นี้​เอง พระ‍คริสต์​จึง​ได้​ทรง​สิ้น​พระ‍ชนม์​และ​ได้​ทรง​คืน​พระ‍ชนม์​อีก เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​คน​ตาย​และ​คน​เป็น

10. แต่​ตัว​ท่าน​เล่า เหตุ​ไฉน​ท่าน​จึง​กล่าว​โทษ​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน หรือ​ท่าน​ผู้​เป็น​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง เหตุ​ไฉน​ท่าน​จึง​ดู‍หมิ่น​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน เพราะ‍ว่า​เรา​ทุก‍คน​ต้อง​ยืน​อยู่​หน้า​บัล‌ลังก์​พิพาก‌ษา​ของ​พระ‍เจ้า

11. เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​ใน​พระ‍คัม‌ภีร์​ว่า องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ได้​ตรัส​ว่า “เรา​มี​ชีวิต​อยู่​แน่​นอน​ฉัน​ใด ทุก​คน​จะ​คุก​เข่า​กราบ​เรา และ​ทุก​ลิ้น​จะ​สรร‌เสริญ​พระ‍เจ้า”

12. ฉะนั้น​เรา​ทุก‍คน​จะ​ต้อง​ทูล​เรื่อง‍ราว​ของ​ตัว​เอง​ต่อ​พระ‍เจ้า

อย่า​ให้​พี่‍น้อง​ของ​ตน​สะดุด

13. ดัง‍นั้น​เรา​อย่า​กล่าว​โทษ​กัน​และ​กัน​อีก​เลย แต่​จง​ตัด‍สิน​ใจ​เสีย​ดี‍กว่า ว่า​จะ​ไม่​วาง​สิ่ง​ซึ่ง​ทำ​ให้​สะดุด หรือ​สิ่ง​กีด​ขวาง​ทาง​ของ​พี่​น้อง

14. ข้าพ‌เจ้า​รู้​และ​ปลง‍ใจ​เชื่อ​เป็น​แน่​ใน​องค์‍พระ‍เยซู​เจ้า​ว่า ไม่​มี​สิ่ง‍หนึ่ง​สิ่ง‍ใด​ที่​เป็น​มล‌ทิน​ใน​ตัว​เอง​เลย แต่​ถ้า​ผู้‍ใด​ถือ‍ว่า​สิ่ง‍ใด​เป็น​มล‌ทิน​สิ่ง‍นั้น​ก็​เป็น​มล‌ทิน​สำ‌หรับ​คน‍นั้น

15. ถ้า​พี่‍น้อง​ของ​ท่าน​ไม่​สบาย​ใจ​เพราะ​อา‌หาร​ที่​ท่าน​กิน ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ประ‌พฤติ​ตาม​ทาง​แห่ง​ความ​รัก​เสีย​แล้ว พระ‍คริสต์​ทรง​สิ้น​พระ‍ชนม์​เพื่อ​ผู้‍ใด ก็​อย่า​ให้​ผู้‍นั้น​พินาศ เพราะ​อา‌หาร​ที่​ท่าน​กิน​เลย

16. ฉะนั้น​อย่า​ให้​สิ่ง​ที่​ดี​สำ‌หรับ​ท่าน เป็น​ข้อ‍ตำ‌หนิ​ติเตียน​ของ​ผู้‍อื่น​ได้​เลย

17. เพราะ‍ว่า​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า​นั้น​ไม่​ใช่​การ​กิน​และ​การ​ดื่ม แต่​เป็น​ความ​ชอบ‍ธรรม​และ​สันติ‍สุข และ​ความ​ชื่น‍ชม​ยินดี​ใน​พระ‍วิญ‌ญาณ​บริ‌สุทธิ์

18. ผู้​ที่​ปรน‌นิบัติ​พระ‍คริสต์​ใน​การ​เหล่า​นั้น ก็​เป็น​ที่​พอ‍พระ‍ทัย​พระ‍เจ้า และ​เป็น​ที่​พอใจ​ของ​มนุษย์​ด้วย

19. เหตุ​ฉะนั้น​ให้​เรา​มุ่ง​ประ‌พฤติ ใน​สิ่ง​ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​สงบ‍สุข​แก่​กัน​และ​กัน และ​ทำ‍ให้​เกิด​ความ​เจริญ​แก่​กัน​และ​กัน

20. อย่า​ทำ‌ลาย​งาน​ของ​พระ‍เจ้า​เพราะ​เห็น​แก่​อา‌หาร​เลย อา‌หาร​ทุก‍อย่าง​ปราศ‍จาก​มล‌ทิน​ก็​จริง แต่​ผู้​ใด​ที่​กิน​อา‌หาร​ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ให้​ผู้​อื่น​ทำ​ผิด ก็​มี​ความ​ผิด​ด้วย

21. เป็น​การ​ดี​ที่​จะ​ไม่​กิน​เนื้อ‍สัตว์​หรือ​เหล้า‍องุ่น​หรือ​ทำ​สิ่ง​ใดๆ ที่​จะ​เป็น​เหตุ​ให้​พี่‍น้อง​สะดุด

22. ความ​เชื่อ​ที่​ท่าน​มี​ต่อ​พระ‍เจ้า​นั้น จง​ยึด​ไว้​ให้​มั่น ผู้‍ใด​ไม่​มี​เหตุ​ที่​จะ​ติเตียน​ตัว​เอง​ใน​สิ่ง​ที่​ตน​เห็น​ชอบ​แล้ว​นั้น ก็​เป็น​สุข

23. แต่​ผู้​ที่​มี​ความ​สง‌สัย​อยู่​นั้น​ถ้า​เขา​กิน​ก็​มี​ความ​ผิด เพราะ​เขา​มิ‍ได้​กิน​ตาม​ที่​ตน​เชื่อ ทั้ง‍นี้​เพราะ​การ​กระ‌ทำ​ใดๆ ที่​มิ​ได้​เกิด​จาก​ความ​เชื่อ‍มั่น​ก็​เป็น​บาป​ทั้ง​สิ้น