บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40
  41. 41
  42. 42
  43. 43
  44. 44
  45. 45
  46. 46
  47. 47
  48. 48
  49. 49
  50. 50

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ปฐมกาล 48 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

มนัสเสห์และเอฟราอิม

1. ต่อมามีคนมาบอกโยเซฟว่า “บิดาของท่านป่วย” เขาจึงพาบุตรสองคนคือมนัสเสห์และเอฟราอิมไปเยี่ยม

2. เมื่อมีคนมาบอกยาโคบว่า “โยเซฟบุตรชายของท่านมาหา” อิสราเอลจึงรวบรวมกำลังพยุงกายขึ้นนั่งบนเตียง

3. ยาโคบกล่าวกับโยเซฟว่า “พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ได้ปรากฏแก่เราที่ลูสในดินแดนคานาอัน และที่นั่นพระองค์ทรงอวยพรเรา

4. ตรัสว่า ‘เราจะทำให้เจ้ามีลูกมีหลานทวีจำนวนขึ้นมากมาย เราจะทำให้เจ้าเป็นประชาคมของชนชาติทั้งหลาย และจะยกดินแดนนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์นิรันดร์แก่วงศ์วานของเจ้าสืบไป’

5. “บัดนี้ เอฟราอิมและมนัสเสห์ ลูกทั้งสองคนของเจ้าซึ่งเกิดในอียิปต์ก่อนที่เราจะมาถึง เขาจะถูกนับว่าเป็นลูกของเรา เขาทั้งสองจะเป็นลูกของเราเหมือนรูเบนและสิเมโอน

6. ส่วนลูกคนอื่นๆ ของเจ้าที่เกิดมาภายหลังเขาทั้งสองจะเป็นทายาทของเจ้าเอง และจะรับมรดกส่วนของเอฟราอิมและมนัสเสห์

7. ที่เราทำเช่นนี้ก็เพราะเมื่อครั้งเรากลับมาจากปัดดาน เราเศร้าเสียใจมากที่ราเชลเสียชีวิตในดินแดนคานาอันขณะเดินทาง ไม่ไกลจากเอฟราธาห์นัก เราจึงฝังนางไว้บนเส้นทางไปเอฟราธาห์” (คือเบธเลเฮม)

8. เมื่ออิสราเอลเห็นบุตรชายของโยเซฟก็ถามว่า “นี่ใคร?”

9. โยเซฟตอบบิดาของเขาว่า “นี่คือลูกชายที่พระเจ้าประทานให้เราที่นี่”แล้วอิสราเอลจึงพูดว่า “จงนำพวกเขามาหาเรา เพื่อเราจะได้อวยพรเขา”

10. บัดนี้อิสราเอลตาฝ้าฟางเพราะอายุมาก มองอะไรแทบไม่เห็น โยเซฟจึงพาบุตรชายทั้งสองคนเข้าไปใกล้และบิดาของโยเซฟก็จูบและกอดพวกเขา

11. แล้วอิสราเอลพูดกับโยเซฟว่า “เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นหน้าเจ้าอีกครั้งหนึ่ง แล้วเดี๋ยวนี้พระเจ้ายังทรงอนุญาตให้เราได้เห็นลูกของเจ้าอีกด้วย”

12. โยเซฟเอาบุตรทั้งสองออกจากตักอิสราเอล แล้วโยเซฟหมอบซบหน้าลงกับพื้น

13. แล้วจูงบุตรทั้งสองเข้าไปใกล้บิดา มือขวาจับเอฟราอิมให้อยู่ทางซ้ายมือของอิสราเอล ส่วนมือซ้ายจับมนัสเสห์ให้อยู่ทางขวามือของอิสราเอล

14. แต่อิสราเอลไขว้แขนเอามือขวาวางบนศีรษะของเอฟราอิมทั้งที่เขาเป็นน้อง และมือซ้ายวางบนศีรษะของมนัสเสห์ทั้งๆ ที่มนัสเสห์เป็นบุตรหัวปี

15. แล้วเขาจึงอวยพรโยเซฟว่า“ขอพระเจ้าของบรรพบุรุษของเราผู้ที่อับราฮัมและอิสอัคได้ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์อยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงของเรามาตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้

16. พระองค์ผู้เป็นทูตสวรรค์ผู้ทรงช่วยให้เราพ้นจากอันตรายทั้งสิ้นขอพระองค์ทรงอวยพรเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้ขอให้เขาทั้งสองเป็นผู้สืบสกุลของเราและสืบสกุลของบรรพบุรุษของเราคืออับราฮัมและอิสอัคขอให้เขาเพิ่มทวีขึ้นมากมายบนแผ่นดินเถิด”

17. เมื่อโยเซฟเห็นบิดาเอามือขวาวางบนศีรษะของเอฟราอิมก็เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกไม่ควร ดังนั้นเขาจึงเอามือของบิดาออกจากศีรษะของเอฟราอิมไปวางบนศีรษะของมนัสเสห์

18. โยเซฟกล่าวกับบิดาว่า “ไม่ใช่ พ่อขอรับ คนนี้ต่างหากเป็นบุตรหัวปี โปรดวางมือขวาของพ่อลงบนหัวคนนี้เถิด”

19. แต่อิสราเอลปฏิเสธว่า “พ่อรู้ ลูกเอ๋ย พ่อรู้ เขาก็จะกลายเป็นชนชาติหนึ่งและจะยิ่งใหญ่ด้วย แต่น้องชายจะยิ่งใหญ่กว่า และลูกหลานของเขาจะเป็นกลุ่มประชาชาติ”

20. ยาโคบจึงอวยพรพวกเขาในวันนั้นว่า“อิสราเอลจะให้พรกันในนามของเจ้าว่า‘ขอพระเจ้าบันดาลให้ท่านเป็นเหมือนเอฟราอิมและมนัสเสห์’ ”ดังนั้นยาโคบจึงเอ่ยชื่อเอฟราอิมก่อนมนัสเสห์

21. แล้วอิสราเอลจึงพูดกับโยเซฟว่า “พ่อกำลังจะตายแล้ว แต่พระเจ้าจะสถิตกับพวกเจ้า และจะนำเจ้าทั้งหลายกลับไปยังคานาอันดินแดนของบรรพบุรุษของพวกเจ้า

22. และสำหรับเจ้า โยเซฟ ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้อยู่เหนือพี่น้องของเจ้า เราจะยกดินแดนเชเคมซึ่งเราได้มาจากชาวอาโมไรต์ด้วยดาบและธนูของเราให้เจ้า”