บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40
  41. 41
  42. 42
  43. 43
  44. 44
  45. 45
  46. 46
  47. 47
  48. 48
  49. 49
  50. 50

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ปฐมกาล 34 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ดีนาห์กับชาวเชเคม

1. ฝ่ายดีนาห์บุตรสาวของยาโคบกับเลอาห์ออกไปเยี่ยมเยียนผู้หญิงชาวท้องถิ่นนั้น

2. เมื่อเชเคมบุตรชายของฮาโมร์ชาวฮีไวต์ซึ่งเป็นผู้ปกครองเขตนั้นเห็นเธอก็ฉุดเธอไปข่มขืน

3. ใจของเขาก็ผูกพันกับดีนาห์บุตรสาวของยาโคบ เขารักนางและพูดจาอ่อนหวานกับนาง

4. และเชเคมกล่าวกับฮาโมร์บิดาของเขาว่า “ไปเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียลูก”

5. เมื่อยาโคบได้ยินว่าดีนาห์บุตรสาวถูกย่ำยี บุตรชายทั้งหลายของเขากำลังอยู่ในท้องทุ่งกับฝูงสัตว์เลี้ยง ยาโคบจึงเงียบอยู่คอยจนกว่าพวกเขากลับถึงบ้าน

6. แล้วฮาโมร์บิดาของเชเคมก็มาคุยกับยาโคบ

7. เมื่อบุตรชายของยาโคบกลับมาจากท้องทุ่ง ทันทีที่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น พวกเขาเศร้าเสียใจและเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งนัก เพราะเชเคมได้สร้างความเสื่อมเสียขึ้นในอิสราเอล โดยการหลับนอนกับลูกสาวของยาโคบอันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

8. แต่ฮาโมร์บอกกับพวกเขาว่า “เชเคมลูกชายของเราปักใจอยู่กับลูกสาวของท่าน โปรดยกนางให้เป็นภรรยาของเขาเถิด

9. และขอเชิญพวกท่านมาร่วมสมรสกับพวกเรา ยกบรรดาลูกสาวของพวกท่านให้พวกเรา และรับบรรดาลูกสาวของพวกเราไปเป็นภรรยาของพวกท่าน

10. ท่านสามารถจะตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกเรา แผ่นดินนี้เปิดกว้างสำหรับท่าน เชิญท่านอาศัยอยู่ ทำมาค้าขาย และซื้อหาที่ดิน”

11. แล้วเชเคมจึงเอ่ยกับบิดาและพี่ชายน้องชายของดีนาห์ว่า “ขอท่านเมตตาข้าพเจ้าเถิด แล้วข้าพเจ้าจะให้ทุกอย่างตามที่ท่านเรียกร้อง

12. เชิญเรียกสินสอดและของกำนัลมากเท่าใดก็ได้ตามใจชอบ ข้าพเจ้าจะจ่ายให้ตามที่ท่านเรียกร้อง ขอแต่เพียงยกหญิงสาวคนนี้ให้เป็นภรรยาของข้าพเจ้า”

13. เพราะเหตุที่ดีนาห์น้องสาวของพวกเขาถูกย่ำยี บุตรชายของยาโคบจึงหลอกลวงเชเคมและฮาโมร์บิดาของเขา

14. พวกเขาบอกคนเหล่านั้นว่า “เราทำเช่นนั้นไม่ได้ เราไม่อาจยกน้องสาวให้แก่ชายที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต เพราะถือเป็นเรื่องเสื่อมเสียแก่เรา

15. เราจะยินยอมก็ต่อเมื่อพวกท่านทำตามเงื่อนไขข้อนี้ของเราเท่านั้น คือพวกท่านต้องให้ผู้ชายทุกคนในพวกท่านเข้าสุหนัตเพื่อพวกท่านจะเป็นเหมือนพวกเรา

16. แล้วเราจึงจะยกบรรดาบุตรสาวของเราให้พวกท่าน และเราจะรับบรรดาบุตรสาวของพวกท่านมาเป็นภรรยา เราจะตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกท่าน และกลายเป็นชนกลุ่มเดียวกับท่าน

17. แต่ถ้าท่านไม่ตกลงที่จะเข้าสุหนัต เราจะเอาตัวน้องสาวไป”

18. ฮาโมร์กับเชเคมพอใจกับข้อเสนอของพวกเขา

19. เชเคมซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้ได้รับการยกย่องมากที่สุดในครอบครัวของบิดาไม่รีรอที่จะทำตาม เพราะเขาชื่นชอบบุตรสาวของยาโคบ

20. ฉะนั้นฮาโมร์กับเชเคมบุตรชายจึงไปที่ประตูเมืองและพูดกับชาวเมืองของเขาว่า

21. “คนเหล่านี้เป็นมิตรกับเรา ให้เขามาอาศัยและทำมาค้าขายในดินแดนของเราเถิด แผ่นดินนี้กว้างขวางพอที่จะรับเขาไว้ พวกเราก็สามารถแต่งงานกับบุตรสาวของพวกเขา และพวกเขาสามารถแต่งงานกับบุตรสาวของเราได้

22. แต่มีเงื่อนไขข้อเดียวที่พวกเขาจะยอมมาอยู่เป็นชนกลุ่มเดียวกับพวกเราก็คือให้พวกผู้ชายของเราทุกคนเข้าสุหนัตเหมือนพวกเขา

23. แล้วฝูงสัตว์ ทรัพย์สิน และสัตว์อื่นๆ ทั้งสิ้นของพวกเขาจะไม่ตกเป็นของพวกเราหรือ? ให้เราตกลงตามเงื่อนไขของพวกเขาเถิด พวกเขาจะได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ามกลางพวกเรา”

24. ชายทุกคนที่ออกไปจากประตูเมืองเห็นพ้องกับฮาโมร์และเชเคมบุตรชายของเขา ชายทุกคนในเมืองก็เข้าสุหนัต

25. สามวันต่อมา ขณะที่พวกเขาทุกคนยังเจ็บอยู่ บุตรชายสองคนของยาโคบ คือสิเมโอนกับเลวี ซึ่งเป็นพี่ชายของดีนาห์ก็ถือดาบบุกเข้าไปโจมตีเมืองที่ไม่ทันระวังตัว พวกเขาฆ่าผู้ชายทุกคน

26. เขาฆ่าฮาโมร์และเชเคมด้วยดาบ แล้วพาดีนาห์ออกมาจากบ้านของเชเคม

27. บุตรชายทั้งหลายของยาโคบข้ามศพเหล่านั้นเข้ามาและปล้นเมืองที่น้องสาวของตนเคยถูกย่ำยี

28. พวกเขายึดฝูงวัว ฝูงแพะแกะ ฝูงลา ตลอดจนข้าวของทุกอย่างทั้งในเมืองและในทุ่งนา

29. พวกเขากวาดเอาทรัพย์สมบัติ ข้าวของในบ้านทุกอย่าง และกวาดต้อนผู้หญิงกับเด็กมา

30. แล้วยาโคบพูดกับสิเมโอนและเลวีว่า “เจ้าทำให้พ่อเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียงในหมู่ชาวคานาอันและชาวเปริสซีซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนนี้ เรามีกันแค่หยิบมือเดียว ถ้าพวกเขารวมกำลังมาโจมตีเรา เรากับครัวเรือนของเราก็จะถูกทำลาย”

31. แต่พวกเขาตอบว่า “ควรหรือที่เขามาทำกับน้องสาวของเราอย่างกับโสเภณี?”