บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

1พงศ์กษัตริย์ 9 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

องค์พระผู้เป็นเจ้า

1. เมื่อโซโลมอนทรงสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวัง และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดเสร็จสิ้นตามที่ประสงค์แล้ว

2. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏแก่โซโลมอนเป็นครั้งที่สอง เหมือนที่ได้ปรากฏมาแล้วที่กิเบโอน

3. องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโซโลมอนว่า“เราได้ยินคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเจ้าต่อเราแล้ว เราได้ชำระวิหารที่เจ้าสร้างขึ้นนี้ให้บริสุทธิ์ โดยสถาปนานามของเราไว้ที่นั่นชั่วนิรันดร์ ตาและใจของเราจะอยู่ที่นั่นเสมอไป

4. “ส่วนเจ้า หากเจ้าดำเนินอยู่ต่อหน้าเราด้วยใจซื่อสัตย์สุจริตและชอบธรรมเหมือนอย่างดาวิดราชบิดาของเจ้า ทำตามคำบัญชาทั้งสิ้นของเรา และรักษากฎหมายกับบทบัญญัติของเรา

5. เราก็จะสถาปนาราชบัลลังก์ของเจ้าเหนืออิสราเอลตลอดไปตามที่เราได้สัญญาไว้กับดาวิดราชบิดาของเจ้าว่า ‘เจ้าจะไม่ขาดคนครองบัลลังก์อิสราเอลเลย’

6. “แต่หากเจ้าหรือลูกหลานของเจ้าละทิ้งเรา ไม่ได้ปฏิบัติตามคำบัญชาและกฎหมายที่เราได้ให้แก่เจ้า หันไปปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ

7. เราก็จะตัดอิสราเอลออกจากดินแดนซึ่งเราได้ยกให้เขา เราจะทิ้งวิหารแห่งนี้ซึ่งเราได้ชำระให้บริสุทธิ์เพื่อนามของเรา อิสราเอลจะกลายเป็นที่เย้ยหยันและคำเปรียบเปรยในหมู่ประชาชาติ

8. ถึงแม้ว่าบัดนี้วิหารจะตั้งเด่นตระหง่าน คนทั้งปวงที่ผ่านไปมาก็จะตกตะลึงและจะเยาะเย้ยว่า ‘ทำไมหนอองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงกระทำต่อวิหารและดินแดนนี้ถึงเพียงนี้?’

9. ผู้คนจะตอบว่า ‘เพราะพวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงนำบรรพบุรุษของพวกเขาออกจากอียิปต์ หันไปฝักใฝ่ปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ แทน ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงนำเหตุร้ายทั้งหมดนี้มาสู่พวกเขา’ ”

พระราชกิจอื่นๆ ของโซโลมอน

10. ในตอนปลายของช่วงยี่สิบปีที่โซโลมอนทรงก่อสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระราชวังของพระองค์เอง

11. กษัตริย์โซโลมอนทรงมอบเมืองยี่สิบแห่งในกาลิลีให้กษัตริย์ฮีรามแห่งไทระเป็นค่าตอบแทนสำหรับไม้สนซีดาร์ ไม้สนอื่นๆ และทองคำซึ่งกษัตริย์โซโลมอนทรงประสงค์

12. แต่เมื่อฮีรามเสด็จจากไทระมาทอดพระเนตรเมืองเหล่านี้ที่โซโลมอนมอบให้ก็ไม่พอพระทัยเลย

13. ฮีรามตรัสว่า “น้องเอ๋ย เอาเมืองอะไรมายกให้พี่กันนี่” เมืองเหล่านั้นจึงได้ชื่อว่าดินแดนคาบูล มาจนทุกวันนี้

14. ฮีรามได้ส่งทองคำมาให้โซโลมอนถึงประมาณ 4 ตัน

15. โซโลมอนทรงเกณฑ์แรงงานโยธามาก่อสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระราชวัง ป้อมมิลโล กำแพงกรุงเยรูซาเล็ม เมืองฮาโซร์ เมกิดโด และเกเซอร์

16. (ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ทรงโจมตีและเข้ายึดเกเซอร์แล้วเผาทิ้ง ประหารชาวคานาอันผู้อาศัยอยู่ในเมือง ต่อมาได้ประทานเมืองนี้เป็นสินสมรสแก่ราชธิดาซึ่งเป็นมเหสีของโซโลมอน

17. และโซโลมอนทรงซ่อมแซมเมืองเกเซอร์) ทรงสร้างเบธโฮโรนล่าง

18. บาอาลัทและทัดโมร์ในถิ่นกันดารในดินแดนยูดาห์

19. ทั้งยังทรงสร้างเมืองต่างๆ เพื่อเป็นคลังเสบียงของพระองค์ และสร้างเมืองสำหรับรถม้าศึกและม้า พระองค์ทรงสร้างทุกๆ สิ่งที่ทรงประสงค์ในเยรูซาเล็ม เลบานอน และที่ต่างๆทั่วอาณาเขตที่พระองค์ทรงปกครอง

20. ส่วนบรรดาคนที่เหลืออยู่ที่เป็นชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส (คนเหล่านี้ไม่ใช่ชาวอิสราเอล)

21. คือลูกหลานที่เหลืออยู่ของคนเหล่านี้ซึ่งชนอิสราเอลไม่สามารถทำลายล้างให้หมดสิ้นได้ โซโลมอนทรงเกณฑ์คนเหล่านี้มาเป็นแรงงานทาสจนถึงทุกวันนี้

22. แต่โซโลมอนไม่ได้ทรงเกณฑ์ให้พลเมืองอิสราเอลคนใดเป็นทาส แต่ให้เป็นพลรบ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นายทัพ ผู้บัญชาการรถรบ และพลรถรบ

23. และมีเจ้าหน้าที่ 550 คน เป็นผู้ควบคุมดูแลแรงงานโยธาในโครงการต่างๆ ของโซโลมอน

24. หลังจากราชธิดาของฟาโรห์เสด็จจากเมืองดาวิดมายังพระราชวังที่โซโลมอนทรงสร้างให้ โซโลมอนก็ทรงสร้างป้อมมิลโล

25. โซโลมอนทรงถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาปีละสามครั้ง บนแท่นซึ่งทรงสร้างขึ้นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเผาเครื่องหอมต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย ก็เป็นอันเรียบร้อยตามภาระหน้าที่ซึ่งมีต่อพระวิหาร

26. กษัตริย์โซโลมอนยังได้ทรงสร้างกองเรือขึ้นที่เอซีโอนเกเบอร์ ซึ่งใกล้เอลัทในเอโดม บนชายฝั่งทะเลแดงด้วย

27. และกษัตริย์ฮีรามประทานกะลาสีผู้ช่ำชองให้ร่วมทำงานในกองเรือกับคนของโซโลมอน

28. พวกเขาเดินเรือไปที่เมืองโอฟีร์ แล้วนำทองคำกลับมาถวายกษัตริย์โซโลมอนหนักถึงประมาณ 14.5 ตัน