บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

1ซามูเอล 12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

คำอำลาของซามูเอล

1. ซามูเอลกล่าวแก่ปวงชนอิสราเอลว่า “ดูเถิด ข้าพเจ้าได้ทำตามที่ท่านทั้งหลายขอและตั้งกษัตริย์ขึ้นมาปกครองท่าน

2. บัดนี้ท่านมีกษัตริย์เป็นผู้นำ ส่วนข้าพเจ้าเองก็ชราและผมก็หงอกแล้ว บุตรชายของข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ข้าพเจ้าเป็นผู้นำของท่านมาตั้งแต่หนุ่มจวบจนถึงวันนี้

3. ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่นี่แล้ว จงให้การต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและต่อหน้าผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้เถิดว่า ข้าพเจ้าเคยยึดวัวหรือลาของใครไปบ้าง? ข้าพเจ้าเคยโกงหรือเคยข่มเหงรังแกใครบ้าง? ข้าพเจ้าเคยรับสินบนจากใครบ้างเพื่อบิดเบือนความยุติธรรม? หากมี ข้าพเจ้าจะสะสางให้เรียบร้อย”

4. พวกเขาตอบว่า “ไม่เลย ท่านไม่เคยโกงหรือข่มเหงรังแกเรา และท่านไม่เคยรับอะไรจากใคร”

5. ซามูเอลกล่าวกับพวกเขาว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยานและผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งเป็นพยานในวันนี้ด้วยว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ฉกฉวยสิ่งใดจากพวกท่านเลย”พวกเขาตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพยาน”

6. แล้วซามูเอลกล่าวกับประชากรว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าคือผู้ที่ทรงแต่งตั้งโมเสสกับอาโรน พระองค์ทรงนำเหล่าบรรพบุรุษของพวกท่านออกมาจากอียิปต์

7. บัดนี้จงยืนสงบอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพเจ้าจะรื้อฟื้นความทรงจำของท่านเกี่ยวกับพระราชกิจอันชอบธรรมทั้งปวง ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำเพื่อท่านกับเหล่าบรรพบุรุษ

8. “หลังจากที่ยาโคบเข้าสู่อียิปต์ พวกเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงส่งโมเสสกับอาโรนมานำบรรพบุรุษของท่านออกจากอียิปต์และมาตั้งรกรากในแผ่นดินนี้

9. “แต่เหล่าบรรพบุรุษกลับลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา พระองค์จึงทรงขายพวกเขาไว้ในมือสิเสราแม่ทัพของกองทัพแห่งฮาโซร์ และในมือชาวฟีลิสเตียและกษัตริย์แห่งโมอับให้ทำศึกกับพวกเขา

10. เหล่าบรรพบุรุษร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปแล้วที่ได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าไปปรนนิบัติพระบาอัลและพระอัชโทเรท แต่บัดนี้ขอทรงกอบกู้เราจากเงื้อมมือของศัตรู และข้าพระองค์ทั้งหลายจะปรนนิบัติพระองค์’

11. องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงส่งเยรุบบาอัล บาราค เยฟธาห์ และซามูเอลมาช่วยท่านจากเงื้อมมือของศัตรูรอบด้าน เพื่อท่านจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย

12. “แต่เมื่อท่านเห็นกษัตริย์นาหาชแห่งอัมโมนยกมาโจมตี ท่านก็กล่าวกับข้าพเจ้าว่า ‘เราต้องการกษัตริย์ปกครองเรา’ ทั้งๆ ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงเป็นกษัตริย์ของท่าน

13. ดูเถิด นี่คือกษัตริย์ที่ท่านเลือก ผู้ที่ท่านร้องขอ ดูเถิดองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตั้งกษัตริย์ปกครองท่านแล้ว

14. หากท่านยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าปรนนิบัติและเชื่อฟังพระองค์ ไม่ได้ฝ่าฝืนพระบัญชาของพระองค์ ทั้งท่านและกษัตริย์ผู้ปกครองท่านติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน นั่นก็ดีแล้ว!

15. แต่หากท่านไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าและฝ่าฝืนพระบัญชาของพระองค์ พระหัตถ์ของพระองค์จะทรงจัดการกับท่านเหมือนที่ทรงจัดการกับเหล่าบรรพบุรุษของท่าน

16. “บัดนี้จงสงบนิ่งและคอยดูสิ่งยิ่งใหญ่ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำต่อหน้าต่อตาท่าน!

17. ขณะนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวสาลีไม่ใช่หรือ? แต่ข้าพเจ้าจะทูลขอองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงส่งฟ้าร้องและฝนมา แล้วท่านจะตระหนักว่า ท่านทำสิ่งที่ชั่วร้ายเพียงใดในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทูลขอให้มีกษัตริย์”

18. แล้วซามูเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าและในวันนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งฟ้าร้องและฝนมา ดังนั้นประชากรทั้งปวงจึงเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้าและซามูเอลยิ่งนัก

19. ประชากรทั้งปวงกล่าวกับซามูเอลว่า “โปรดอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเพื่อเหล่าผู้รับใช้ของท่านด้วย เพื่อเราจะไม่ตาย เพราะนอกจากบาปอื่นๆ ของเรา เรายังเพิ่มบาปชั่วที่ทูลขอกษัตริย์”

20. ซามูเอลตอบว่า “อย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายได้ทำสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดนี้แล้วก็จริง แต่จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดใจ อย่าหันเหไปจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

21. อย่าหันไปติดตามรูปเคารพอันไร้ค่า ซึ่งไม่สามารถทำสิ่งดีอะไรให้ได้และช่วยอะไรท่านก็ไม่ได้ เพราะพระเหล่านั้นไร้ประโยชน์

22. เพื่อเห็นแก่พระนามอันยิ่งใหญ่ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงละประชากรของพระองค์ เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยที่จะทำให้ท่านเป็นของพระองค์เอง

23. ส่วนข้าพเจ้านั้นขออย่าให้ข้าพเจ้าทำบาปต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยการหยุดอธิษฐานเพื่อท่าน ข้าพเจ้าจะยังคงสั่งสอนแนวทางอันดีงามและถูกต้องแก่ท่าน

24. จงใส่ใจยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและปรนนิบัติพระองค์อย่างซื่อสัตย์ด้วยสุดใจของท่าน จงคิดใคร่ครวญถึงสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่าน

25. แต่หากท่านยังคงทำชั่วต่อไป ทั้งท่านและกษัตริย์ของท่านจะถูกกวาดล้างไป”