1. เราได้บอกสิ่งเหล่านี้กับพวกคุณล่วงหน้า เพื่อคุณจะไม่เลิกไว้วางใจในตัวเรา
2. พวกเขาจะไล่คุณออกจากที่ประชุม อีกไม่นานทุกคนที่ฆ่าคุณ ก็จะคิดว่านั่นเป็นการรับใช้พระเจ้า
3. ที่พวกเขาทำอย่างนี้ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้จักพระบิดาและไม่รู้จักเรา
4. เราบอกเรื่องเหล่านี้กับพวกคุณตอนนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นจริง พวกคุณจะได้นึกออกว่าเราเคยเตือนพวกคุณแล้ว”ที่เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกคุณตั้งแต่แรก ก็เพราะเรายังอยู่กับคุณ
5. ตอนนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ที่ส่งเรามา แต่ไม่มีใครถามเราว่า ‘อาจารย์จะไปไหน’
6. เพราะคุณกำลังกลุ้มใจในเรื่องที่เราบอก
7. แต่เราจะบอกให้รู้ว่า มันจะดีกับคุณถ้าเราไป เพราะถ้าเราไม่ไป ผู้ช่วยพระองค์นั้นก็จะไม่มา แต่ถ้าเราไป เราก็จะส่งผู้ช่วยมาให้คุณ
8. เมื่อผู้ช่วยนั้นมา พระองค์จะทำให้โลกรู้ความจริงเกี่ยวกับความบาป ให้โลกรู้ว่าที่เราพูดและทำนั้นถูกต้อง และให้โลกรู้ว่าพระเจ้าจะตัดสินลงโทษโลก
9. ในเรื่องความบาปนั้นเกิดจากคนไม่ยอมไว้วางใจเรา
10. ในเรื่องความถูกต้องของเรากับพระเจ้านั้นก็คือการที่เราได้กลับไปหาพระบิดาอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้พวกคุณไม่เห็นเราอีก
11. ในเรื่องการตัดสินลงโทษนั้นก็คือการที่เจ้าผู้ครอบครองโลก นี้ได้ถูกตัดสินลงโทษแล้ว
12. เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอก แต่ถ้าพูดเดี๋ยวนี้มันจะมากเกินกว่าที่พวกคุณจะรับได้
13. แต่เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงมาถึง พระองค์จะนำพวกคุณไปสู่ความจริงทั้งหมด เพราะพระองค์ไม่ได้พูดตามใจตัวเอง แต่จะพูดในสิ่งที่พระองค์ได้ยินมา และพระองค์จะบอกให้พวกคุณรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
14. พระองค์จะทำให้คุณเห็นความยิ่งใหญ่ของเรา เพราะพระองค์จะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเรา ให้คุณฟัง
15. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพระบิดาเป็นของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราพูดว่า ผู้ช่วยจะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเราให้คุณฟัง
16. “อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะเห็นเราอีก”
17. พวกศิษย์บางคนถามกันเองว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะเห็นเราอีก’ กับที่ว่า ‘เรากำลังจะไปหาพระบิดา’”
18. พวกเขาก็ยังถามกันอีกว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่ง’ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าอาจารย์พูดถึงอะไร”
19. พระเยซูรู้ว่าพวกเขาอยากจะถามเรื่องนี้ พระองค์จึงถามว่า “พวกคุณกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า เราหมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่ง พวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะเห็นเราอีก’
20. เราจะบอกให้รู้ว่า คุณจะร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจ แต่โลกจะรื่นเริงยินดี คุณจะทุกข์ใจ แต่ความทุกข์ใจนั้นจะกลับกลายมาเป็นความดีใจ
21. เหมือนกับผู้หญิงที่ถึงกำหนดคลอดก็เป็นทุกข์เพราะความเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อเธอคลอดลูกแล้วก็ลืมความเจ็บปวดไปหมด เพราะดีใจที่ได้เห็นลูกเกิดมาในโลกนี้
22. พวกคุณก็เหมือนกัน ตอนนี้คุณทุกข์ใจ แต่เมื่อเรากลับมาหาพวกคุณอีก พวกคุณก็จะดีใจ และไม่มีใครจะแย่งเอาความดีใจนั้นไปจากคุณได้
23. ในวันนั้นคุณจะไม่ต้องถามอะไรเราอีกแล้ว เราจะบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอเพราะคุณเป็นคนของเรา พระบิดาก็จะให้กับคุณ
24. ตั้งแต่คุณเป็นคนของเรามาจนถึงเดี๋ยวนี้ พวกคุณยังไม่เคยขออะไรเลยในฐานะคนของเรา ขอสิแล้วคุณจะได้ เพื่อคุณจะได้มีความสุขอย่างเต็มที่”
25. “เราได้เล่าเรื่องเหล่านี้โดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ อีกไม่นานเราจะไม่ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว แต่เราจะบอกพวกคุณตรงๆเลยเกี่ยวกับพระบิดา
26. ในวันนั้นพวกคุณจะไม่ต้องขออะไรโดยผ่านทางเราอีกแล้ว คุณขอจากพระเจ้าได้โดยตรงเลย เพราะคุณเป็นคนของเรา
27. เพราะพระบิดาเองก็รักพวกคุณ พระองค์รักพวกคุณทุกคนเพราะว่าพวกคุณรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า
28. เรามาจากพระบิดา และเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้เรากำลังจะไปจากโลกนี้ เพื่อกลับไปหาพระบิดา”
29. แล้วพวกศิษย์ก็พูดว่า “ดูสิ อาจารย์พูดกับพวกเราตรงๆโดยไม่ได้ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว
30. ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าอาจารย์รู้ทุกอย่าง อาจารย์รู้ว่าจะตอบอะไรก่อนที่เราจะถามเสียอีก ถึงไม่ถามอาจารย์ก็รู้อยู่แล้วว่าเราคิดอะไร แค่นี้เราก็เชื่อแล้วว่าอาจารย์มาจากพระเจ้า”
31. พระเยซูตอบพวกเขาว่า “ในที่สุดพวกคุณก็เชื่อแล้วหรือ
32. คอยดูสิเวลากำลังจะมาถึง ที่จริงเวลามาถึงแล้วด้วยซ้ำ เป็นเวลาที่พวกคุณทุกคนจะหนีกระเจิดกระเจิงไปทางใครทางมัน และจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะพระบิดาอยู่กับเราด้วย
33. เราพูดเรื่องพวกนี้เพื่อว่าคุณจะได้มีสันติสุขจากการที่มีส่วนในเรา ในโลกนี้คุณจะมีปัญหาเดือดร้อนสารพัด แต่ให้เข้มแข็งไว้ เพราะเราชนะโลกแล้ว”