5. เช่นนั้นแหละบัดนี้ ก็ยังมีพวกที่เหลืออยู่ตามที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้โดยพระคุณ
6. แต่ถ้าเป็นทางพระคุณ ก็หาได้เป็นเพราะทางการประพฤติไม่ ถ้าเป็นทางการประพฤติ พระคุณก็จะไม่เป็นพระคุณอีกต่อไป
7. ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไร พวกอิสราเอลไม่พบสิ่งที่เขาแสวงหา แต่คนที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้นั้น เป็นผู้ได้พบ และคนนอกนั้นก็มีใจแข็งกระด้างไป
8. ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า พระเจ้าได้ทรงประทานใจที่เซื่องซึม ประทานตาที่มองไม่เห็น หูที่ฟังไม่ได้ยิน ให้แก่เขาจนทุกวันนี้
9. กษัตริย์ดาวิดทรงกล่าวว่า ให้งานเลี้ยงของเขาเป็นบ่วงแร้วและเครื่องดัก เป็นสิ่งให้สะดุดและเป็นสิ่งสนองเขา
10. ให้ตาของเขามืดไปเพื่อเขาจะได้มองไม่เห็น และให้หลังของเขางอค่อมตลอดไป
11. ข้าพเจ้าจึงถามว่า พวกอิสราเอลสะดุดจนหกล้มทีเดียวหรือ หามิได้ แต่การที่เขาละเมิดนั้น เป็นเหตุให้ความรอดแผ่มาถึงพวกต่างชาติ เพื่อจะให้พวกอิสราเอลมีใจมานะขึ้น
12. แต่ถ้าการที่พวกอิสราเอลละเมิดนั้นเป็นเหตุให้ทั้งโลกบริบูรณ์ และถ้าการพ่ายแพ้ของเขาเป็นเหตุให้คนต่างชาติบริบูรณ์ หากได้เขามาเพิ่มเข้าด้วย จะดียิ่งกว่านั้นอีกมากหนอ
13. แต่ข้าพเจ้ากล่าวแก่พวกท่านที่เป็นคนต่างชาติ เพราะข้าพเจ้าเป็นอัครทูตมายังพวกต่างชาติ ข้าพเจ้าจึงยกย่องพันธกิจรับใช้ของข้าพเจ้า
14. เพื่อข้าพเจ้าจะได้เร้าใจพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า ให้เขาเอาอย่าง เพื่อให้เขารอดได้บ้าง
15. เพราะว่าถ้าการที่พี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า ถูกพระเจ้าทรงทอดทิ้งเสียแล้ว เป็นเหตุให้คนทั้งโลกกลับคืนดีกับพระองค์ การที่พระองค์ทรงรับเขากลับมาอีกนั้น ก็เป็นเหมือนกับว่าเขาได้ตายไปแล้วและกลับฟื้นขึ้นใหม่
16. ถ้าแป้งดิบก้อนแรกที่ปิ้งบริสุทธิ์ แป้งดิบทั้งอ่างก็บริสุทธิ์ด้วย และถ้ารากบริสุทธิ์ กิ่งทั้งหมดก็บริสุทธิ์ด้วย
17. แต่ถ้าทรงหักกิ่งบางกิ่งออกเสียแล้ว และได้ทรงนำท่านผู้เป็นกิ่งมะกอกเทศป่า มาต่อกิ่งไว้แทนกิ่งเหล่านั้น เพื่อให้เข้าเป็นส่วนได้รับน้ำเลี้ยงจากรากต้นมะกอก
18. ท่านก็อย่าอวดดีต่อกิ่งเหล่านั้น ถ้าท่านอวดดี ใช่ว่าท่านได้เลี้ยงรากนั้นก็หาไม่ แต่รากต่างหากเลี้ยงท่าน