พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

โรม 9:23-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

23. จะว่าอย่างไรถ้าพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้เพื่อสำแดงพระเกียรติสิริอันอุดมแก่ผู้ที่ได้รับพระเมตตาคุณของพระองค์ ผู้ซึ่งทรงเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อพระเกียรติสิริ?

24. แม้กระทั่งเราทั้งหลายก็เป็นผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกไว้ด้วย ไม่ใช่จากพวกยิวเท่านั้น แต่จากคนต่างชาติเช่นกัน

25. ตามที่พระองค์ตรัสในหนังสือโฮเชยาว่า“เราจะเรียกผู้ที่ไม่ใช่ประชากรของเราว่า ‘ประชากรของเรา’เรียกผู้ที่เราไม่รักว่า ‘ผู้ที่เรารัก’ ”

26. และ“สิ่งนี้จะเกิดขึ้นที่นั่นเอง ที่ซึ่งเราบอกพวกเขาว่า‘เจ้าไม่ใช่ประชากรของเรา’พวกเขาจะได้ชื่อว่า ‘บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่’ ”

27. อิสยาห์ประกาศเกี่ยวกับอิสราเอลว่า“แม้ชนชาติอิสราเอลจะมากมายเหมือนทรายริมทะเลก็จะมีชนหยิบมือเดียวที่เหลืออยู่เท่านั้นที่จะได้รับการช่วยให้รอด

28. เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาลงโทษโลกโดยฉับไวและเฉียบขาด”

29. เหมือนที่อิสยาห์กล่าวไว้ก่อนนี้ว่า“หากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ไม่เหลือวงศ์วานไว้ให้เราบ้างเราก็คงกลายเป็นเหมือนเมืองโสโดมเราก็คงเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์”

30. เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? คนต่างชาติที่ไม่ได้ขวนขวายหาความชอบธรรมกลับได้ความชอบธรรม คือความชอบธรรมโดยความเชื่อ

31. แต่ชนอิสราเอลที่ขวนขวายหาบทบัญญัติแห่งความชอบธรรมกลับไม่ได้รับ

32. ทำไมจึงไม่ได้? ก็เพราะพวกเขาไม่ได้ขวนขวายหาด้วยความเชื่อ แต่ทำราวกับว่าจะได้มาโดยการประพฤติ พวกเขาสะดุด “ก้อนหินที่ทำให้สะดุด”

33. ตามที่มีเขียนไว้ว่า“ดูเถิด เราวางหินก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน ซึ่งทำให้ผู้คนสะดุดและศิลาที่ทำให้เขาทั้งหลายล้มลงและผู้ที่วางใจในพระองค์จะไม่ได้รับความอับอายเลย”

อ่านบทที่สมบูรณ์ โรม 9