พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ยอห์น 5:33-47 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

33. “ท่านส่งคนไปหายอห์น และยอห์นได้เป็นพยานถึงความจริง

34. ไม่ใช่ว่าเรายอมรับคำพยานของมนุษย์ แต่เราเอ่ยถึงเรื่องนี้เพื่อท่านจะรอด

35. ยอห์นเป็นตะเกียงที่ลุกอยู่และให้แสงสว่าง และพวกท่านเลือกที่จะชื่นชมความสว่างของยอห์นชั่วขณะหนึ่ง

36. “เรามีคำพยานที่หนักแน่นยิ่งกว่าคำพยานของยอห์น เพราะงานที่พระบิดาทรงมอบหมายให้เราทำให้สำเร็จและเรากำลังทำอยู่นั้นเองเป็นพยานว่าพระบิดาทรงส่งเรามา

37. ทั้งพระบิดาผู้ทรงส่งเรามาพระองค์เองได้ทรงเป็นพยานให้เรา ท่านไม่เคยได้ยินพระสุรเสียงหรือเห็นรูปพรรณสัณฐานของพระองค์

38. ทั้งพระดำรัสของพระองค์ก็ไม่ได้อยู่ในท่านเพราะท่านไม่เชื่อผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา

39. ท่านขยันศึกษาพระคัมภีร์เพราะท่านคิดว่าโดยพระคัมภีร์ท่านจะได้ชีวิตนิรันดร์ พระธรรมเหล่านั้นคือพระคัมภีร์ที่เป็นพยานเกี่ยวกับเรา

40. กระนั้นพวกท่านก็ไม่ยอมมาหาเราเพื่อจะได้ชีวิต

41. “เราไม่ยอมรับการสรรเสริญจากมนุษย์

42. แต่เรารู้จักพวกท่าน เรารู้ว่าท่านไม่ได้มีความรักของพระเจ้าอยู่ในใจ

43. เราได้มาในพระนามของพระบิดาของเราและท่านไม่ยอมรับเรา แต่ถ้าผู้อื่นมาในนามของเขาเอง ท่านจะยอมรับผู้นั้น

44. ท่านจะเชื่อได้อย่างไร ถ้าหากท่านยอมรับคำสรรเสริญกันเอง แต่ไม่ขวนขวายหาคำสรรเสริญจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าแต่องค์เดียว?

45. “แต่อย่าคิดว่าเราจะฟ้องท่านต่อพระบิดา ผู้ที่ฟ้องท่านคือโมเสสซึ่งท่านได้ตั้งความหวังไว้กับเขา

46. หากท่านเชื่อโมเสส ท่านควรจะเชื่อเราเพราะโมเสสได้เขียนเกี่ยวกับเรา

47. แต่เพราะท่านไม่เชื่อสิ่งที่โมเสสเขียนไว้ ท่านจะเชื่อสิ่งที่เราพูดได้อย่างไร?”

อ่านบทที่สมบูรณ์ ยอห์น 5