พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มาระโก 6:19-35 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

19. ดังนั้นนางเฮโรเดียสจึงอาฆาตยอห์นและอยากจะฆ่าเขาแต่ก็ทำไม่ได้

20. เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนักแต่ก็ยังอยากฟัง

21. ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ในงานฉลองวันเกิดเฮโรดจัดงานเลี้ยงขุนนาง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และบรรดาคนสำคัญๆ ในแคว้นกาลิลี

22. เมื่อบุตรีของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำก็เป็นที่ถูกใจเฮโรดกับแขกเหรื่อยิ่งนักกษัตริย์จึงกล่าวกับหญิงสาวนั้นว่า “จงขอสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วเราจะให้ตามที่เจ้าขอ”

23. และสัญญาโดยปฏิญาณว่า “ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร เราก็จะให้ทั้งนั้นจนถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักร”

24. นางจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี?”มารดาบอกว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมาสิ”

25. นางรีบมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เดี๋ยวนี้เถิด”

26. กษัตริย์เฮโรดเป็นทุกข์ยิ่งนักแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ

27. จึงบัญชาในทันทีทันใดให้เพชฌฆาตนำศีรษะของยอห์นมา เขาก็ไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก

28. แล้วนำศีรษะใส่ถาดมาให้หญิงนั้นและนางเอาไปให้มารดา

29. เมื่อศิษย์ของยอห์นทราบข่าวจึงมารับศพเขาไปฝังในอุโมงค์

30. ฝ่ายอัครทูตมาเข้าเฝ้าพระเยซูและทูลรายงานสิ่งทั้งปวงที่พวกเขาได้ทำและสั่งสอน

31. เนื่องจากขณะนั้นมีผู้คนไปๆ มาๆ กันแน่นขนัดจนพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะรับประทานอาหาร พระองค์จึงตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ท่านทั้งหลายจงตามเราไปหาที่สงบพักกันสักหน่อยเถิด”

32. ดังนั้นพระองค์กับเหล่าสาวกจึงลงเรือไปยังที่สงบเงียบ

33. แต่หลายคนเห็นพวกเขาก็จำได้และพากันวิ่งจากเมืองต่างๆ ไปถึงที่นั่นก่อน

34. เมื่อพระเยซูทรงขึ้นจากเรือและเห็นคนหมู่ใหญ่ก็ทรงสงสารเพราะพวกเขาเป็นเหมือนแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง ดังนั้นพระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง

35. พอตกเย็นเหล่าสาวกจึงมาทูลว่า “ที่นี่ห่างไกลนักและตกเย็นแล้ว

อ่านบทที่สมบูรณ์ มาระโก 6