พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

เอสรา 9:6-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

6. และอธิษฐานว่า“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อดสูละอายใจเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายสูงท่วมศีรษะ และความผิดของเหล่าข้าพระองค์ขึ้นถึงฟ้าสวรรค์

7. นับแต่สมัยบรรพบุรุษจวบจนบัดนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายมีความผิดใหญ่หลวง เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลายทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกับกษัตริย์และเหล่าปุโรหิตตกเป็นเหยื่อคมดาบ ตกเป็นเชลยถูกย่ำยีและถูกปล้นชิง ได้รับความอัปยศอดสูโดยน้ำมือของบรรดากษัตริย์ต่างชาติดังเช่นทุกวันนี้

8. “แต่บัดนี้ ในชั่วขณะหนึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงเมตตาให้มีชนหยิบมือที่เหลือ ทรงให้เหล่าข้าพระองค์มีที่มั่นคงในสถานนมัสการของพระองค์ และพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งปวงทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ชื่นตาชื่นใจ บรรเทาจากภาวะคับแค้นที่ตกเป็นทาส

9. ถึงแม้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาส พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ทิ้งเหล่าข้าพระองค์ไว้ให้ถูกจองจำ พระองค์ทรงเมตตากรุณาเหล่าข้าพระองค์ต่อหน้าบรรดากษัตริย์แห่งเปอร์เซีย พระองค์ประทานชีวิตใหม่แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายขึ้นใหม่ และซ่อมแซมส่วนที่ปรักหักพัง และประทานปราการป้องกันในยูดาห์และเยรูซาเล็ม

10. “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ถึงขนาดนี้แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายจะกราบทูลว่าอะไรได้? เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ละเลยพระบัญชา

11. ซึ่งพระองค์ประทานไว้ผ่านทางบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ‘ดินแดนที่เจ้าจะเข้าครอบครองนั้นเสื่อมทรามไปเพราะมลทินบาปของชาวดินแดนนั้น พวกเขาทำให้ดินแดนแปดเปื้อนมลทินจากสุดเขตด้านหนึ่งจดอีกด้านหนึ่งโดยการประพฤติอันน่าชิงชัง

12. ฉะนั้นอย่ายกบุตรสาวให้แต่งงานกับบุตรชายของเขา หรือรับบุตรสาวของเขามาเป็นสะใภ้ อย่าทำสัญญาผูกมิตรกับพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเวลาใด เพื่อว่าเจ้าจะได้เข้มแข็งและอิ่มเอมกับความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนและสืบทอดเป็นมรดกแก่ลูกหลานตลอดไป’

อ่านบทที่สมบูรณ์ เอสรา 9