พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

อิสยาห์ 37:18-38 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

18. “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นความจริงที่ว่าบรรดากษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายล้างชนชาติทั้งปวงนี้ และแผ่นดินของพวกเขา

19. และได้เผาทำลายพระของพวกเขาทิ้งเพราะพระเหล่านั้นไม่ใช่พระเจ้า เป็นเพียงแต่ไม้และหินที่ทำขึ้นด้วยมือมนุษย์

20. บัดนี้ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของเขา เพื่อมวลอาณาจักรในโลกนี้จะได้รู้ว่า พระยาห์เวห์พระองค์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า”

21. จากนั้นอิสยาห์บุตรอาโมศจึงให้นำความมาทูลเฮเซคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เพราะเจ้าได้อธิษฐานเรื่องกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียต่อเรา

22. องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสถึงเขาดังนี้ว่า“ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนดูหมิ่นและเยาะเย้ยเจ้าธิดาแห่งเยรูซาเล็มส่ายหน้าเมื่อเจ้าเตลิดหนี

23. ใครนะที่เจ้าเย้ยหยันและลบหลู่?เจ้าขึ้นเสียงและทำตาหยิ่งยโสใส่ใคร?ก็องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะสิ!

24. เจ้าใช้ผู้สื่อสารของเจ้ามากล่าววาจาลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้าและเจ้าได้กล่าวว่า‘ด้วยรถม้าศึกมากมายของข้าข้าได้ขึ้นไปถึงบรรดายอดเขาสูงสู่สุดยอดแห่งเลบานอนข้าได้โค่นบรรดาสนซีดาร์ที่สูงที่สุดและต้นสนที่ดีเยี่ยมที่สุดข้าได้ขึ้นไปถึงยอดที่สูงที่สุดคือป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด

25. ข้าได้ขุดบ่อน้ำหลายบ่อในต่างแดนและดื่มน้ำที่นั่นด้วยส้นเท้าของข้าลำธารทั้งหลายของอียิปต์ก็แห้งเหือด’

26. “เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือ?เราได้บัญชาไว้ตั้งนานมาแล้วเราได้วางแผนไว้ตั้งแต่อดีตและบัดนี้เราก็ทำให้เป็นไปตามนั้นคือให้เจ้าพิชิตเมืองป้อมปราการทั้งหลายทำให้กลายเป็นกองหิน

27. ชาวเมืองเหล่านั้นหมดอำนาจถดถอยและอับอายพวกเขาเหมือนพืชในทุ่งนาเหมือนหน่ออ่อนเขียวสดเหมือนหญ้างอกขึ้นบนหลังคาถูกแดดแผดเผาก่อนจะโตขึ้นมา

28. “แต่เรารู้จักเจ้าดีไม่ว่าความเป็นมาหรือความเป็นไปของเจ้าและรู้ที่เจ้าฉุนเฉียวใส่เรา

29. เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เราและเพราะวาจาโอหังของเจ้าเข้าหูเราเราจะเอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของเจ้าและเอาบังเหียนใส่ปากของเจ้าและเราจะทำให้เจ้าหันกลับไปตามเส้นทางที่เจ้ามา

30. “เฮเซคียาห์เอ๋ย นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้าคือ“ปีนี้เจ้าจะกินพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นเองและปีที่สองก็จะกินพืชพันธุ์ที่ออกผลตามมาแต่ในปีที่สาม จงหว่านและเก็บเกี่ยวจงทำสวนองุ่นและกินผลของมัน

31. ประชากรยูดาห์ที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนั้นจะหยั่งรากและเกิดผลอีกครั้งหนึ่ง

32. เพราะจะมีคนที่เหลือรอดอยู่หยิบมือหนึ่งมาจากเยรูซาเล็มและผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจะมาจากภูเขาศิโยนความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะกระทำให้สำเร็จตามนี้

33. “ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงกษัตริย์อัสซีเรียดังนี้ว่า“เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้หรือยิงธนูที่นี่เขาจะไม่มาถือโล่อยู่หน้าเมืองหรือสร้างเชิงเทินล้อมโจมตีมัน

34. เขามาทางไหนก็จะกลับไปทางนั้นเขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

35. “เราจะปกป้องและช่วยเมืองนี้ไว้เพื่อเห็นแก่เราเองและเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา!”

36. แล้วทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ออกไปประหารคนในค่ายของอัสซีเรีย 185,000 คน วันรุ่งขึ้นเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ก็เห็นซากศพเกลื่อนกลาด!

37. กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียจึงทรงให้รื้อค่ายและถอนทัพกลับไปยังเมืองนีนะเวห์และประทับอยู่ที่นั่น

38. วันหนึ่งขณะที่ทรงนมัสการอยู่ในวิหารของพระนิสรอคของพระองค์ อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์โอรสของพระองค์เองได้ปลงพระชนม์พระองค์ด้วยดาบ แล้วหนีไปยังดินแดนอารารัต และเอสารฮัดโดนโอรสอีกองค์หนึ่งของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

อ่านบทที่สมบูรณ์ อิสยาห์ 37