พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

สดุดี 39:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

1. ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะระแวดระวังทางของตนและจะไม่ปล่อยให้ลิ้นทำบาปข้าพเจ้าจะไม่ปริปากตราบใดที่คนอธรรมอยู่ตรงหน้า”

2. ดังนั้นข้าพเจ้าจึงนิ่งและเงียบอยู่ไม่ปริปากพูดแม้แต่จะเอ่ยถึงความดีใดๆแต่ความทุกข์ใจของข้าพเจ้าก็ทวีขึ้น

3. ความร้อนใจรุมเร้าอยู่ภายในขณะที่ข้าพเจ้าใคร่ครวญ ไฟก็สุมอกจนกระทั่งลิ้นของข้าพเจ้าได้เอ่ยออกมา

4. “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงให้ข้าพระองค์เห็นบั้นปลายของชีวิตขอให้รู้ว่าวันเวลาของข้าพระองค์มีจำนวนเท่าใดขอให้ข้าพระองค์รู้ตัวว่าชีวิตของข้าพระองค์นั้นผ่านไปเร็วเพียงใด

5. พระองค์ทรงทำให้วันคืนของข้าพระองค์สั้นแค่คืบชั่วชีวิตของข้าพระองค์ไม่มีค่าอะไรสำหรับพระองค์ชีวิตแต่ละคนอยู่แค่ชั่วลมหายใจเสลาห์

6. มนุษย์เป็นแค่เงาแวบไปแวบมาวิ่งวุ่นทำโน่นทำนี่แต่ก็สูญเปล่าทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ไม่รู้ว่าใครจะได้ไป

7. “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ขณะนี้ข้าพระองค์แสวงหาอะไรเล่า?ความหวังของข้าพระองค์อยู่ในพระองค์

8. ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากการล่วงละเมิดทั้งสิ้นของข้าพระองค์อย่าให้คนโง่เย้ยหยันข้าพระองค์ได้

9. ข้าพระองค์นิ่งเงียบอยู่ ไม่ยอมเปิดปากเพราะพระองค์เองคือผู้ที่กระทำให้ข้าพระองค์เป็นเช่นนี้

10. ขออย่าทรงโบยข้าพระองค์อีกเลยข้าพระองค์สิ้นแรงอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์แล้ว

11. เมื่อพระองค์ทรงกำราบและตีสั่งสอนมนุษย์เพราะบาปของเขาพระองค์ก็ทรงผลาญทรัพย์สมบัติของเขาเหมือนแมลงกัดกินมนุษย์แต่ละคนอยู่แค่ชั่วลมหายใจเสลาห์

12. “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ขอทรงรับคำทูลขอความช่วยเหลือของข้าพระองค์ขออย่าทรงเฉยเมยต่อการคร่ำครวญของข้าพระองค์เพราะข้าพระองค์ก็อาศัยอยู่กับพระองค์ เหมือนคนต่างถิ่นเหมือนคนแปลกหน้าเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของข้าพระองค์

อ่านบทที่สมบูรณ์ สดุดี 39