พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

สดุดี 30:1-12 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

1. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะเทิดทูนพระองค์เพราะพระองค์ทรงดึงข้าพระองค์ขึ้นมาจากห้วงลึกและไม่ทรงยอมให้ศัตรูกระหยิ่มยิ้มย่องเหนือข้าพระองค์

2. ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์ทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์และพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้หาย

3. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ ขึ้นมาจากหลุมฝังศพพระองค์ทรงปกป้องข้าพระองค์ไว้ไม่ให้ลงไปยังแดนผู้ตาย

4. ท่านทั้งหลายผู้เป็นประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงร้องเพลงถวายแด่พระองค์เถิดจงสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์

5. เพราะพระพิโรธของพระองค์คงอยู่เพียงชั่วครู่แต่ความโปรดปรานของพระองค์คงอยู่ชั่วชีวิตการร่ำไห้อาจคงอยู่ชั่วข้ามคืนแต่ความชื่นชมยินดีจะมาในเวลาเช้า

6. เมื่อข้าพเจ้ารู้สึกมั่นคงปลอดภัย ข้าพเจ้ากล่าวว่า“เราจะไม่มีวันคลอนแคลนเลย”

7. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระองค์ทรงโปรดปรานข้าพระองค์ก็ทรงกระทำให้ข้าพระองค์มั่นคงดั่งภูผาแต่เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ข้าพระองค์ก็ท้อแท้

8. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ร้องทูลขอความเมตตากรุณาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

9. “จะมีประโยชน์อะไรหากข้าพระองค์ถูกทำให้นิ่งเงียบ?จะมีประโยชน์อะไรหากข้าพระองค์ลงหลุมไป?ธุลีดินจะสรรเสริญพระองค์หรือ?มันจะป่าวประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์หรือ?

10. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสดับฟังและเมตตาข้าพระองค์ด้วยเถิดข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยข้าพระองค์”

11. พระองค์ทรงเปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นการเต้นรำพระองค์ทรงถอดชุดผ้ากระสอบสำหรับไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออก และสวมความชื่นบานให้แทน

12. เพื่อจิตใจของข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์และจะไม่นิ่งเงียบข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์เป็นนิตย์

อ่านบทที่สมบูรณ์ สดุดี 30