พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

สดุดี 119:49-65 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

49. ขอทรงระลึกถึงพระวจนะที่ทรงให้ไว้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์เพราะพระองค์ทรงให้ความหวังแก่ข้าพระองค์

50. สิ่งที่ปลอบโยนข้าพระองค์ในยามทุกข์ยากก็คือพระสัญญาของพระองค์รักษาชีวิตข้าพระองค์ไว้

51. คนยโสเย้ยหยันข้าพระองค์อย่างไม่ปรานีแต่ข้าพระองค์ไม่หันไปจากบทบัญญัติของพระองค์

52. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ระลึกถึงบทบัญญัติแต่เก่าก่อนของพระองค์และข้าพระองค์ก็ได้รับการปลอบประโลมใจ

53. ข้าพระองค์โกรธยิ่งนักเพราะคนชั่วผู้ละทิ้งบทบัญญัติของพระองค์

54. กฎหมายของพระองค์เป็นบทเพลงของข้าพระองค์ไม่ว่าข้าพระองค์จะพำนักอยู่ที่ใด

55. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ในยามค่ำคืนข้าพระองค์ระลึกถึงพระนามของพระองค์และข้าพระองค์จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์

56. ที่ข้าพระองค์ปฏิบัติเสมอมาก็คือเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์

57. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ข้าพระองค์สัญญาว่าจะเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์

58. ข้าพระองค์แสวงหาพระพักตร์ของพระองค์หมดทั้งใจขอทรงโปรดเมตตาข้าพระองค์ตามที่ทรงสัญญาไว้

59. ข้าพระองค์พิจารณาวิถีทางของตนและหันย่างก้าวมาสู่กฎเกณฑ์ของพระองค์

60. ข้าพระองค์จะรีบและจะไม่ล่าช้าที่จะเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์

61. แม้คนชั่วใช้เชือกผูกข้าพระองค์ข้าพระองค์ก็จะไม่ลืมบทบัญญัติของพระองค์

62. ยามเที่ยงคืนข้าพระองค์ลุกขึ้นมาขอบพระคุณพระองค์สำหรับบทบัญญัติอันชอบธรรมของพระองค์

63. ข้าพระองค์เป็นมิตรกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์กับผู้ที่ทำตามข้อบังคับของพระองค์

64. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โลกเปี่ยมด้วยความรักเมตตาของพระองค์ขอทรงสอนกฎหมายของพระองค์แก่ข้าพระองค์

65. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์

อ่านบทที่สมบูรณ์ สดุดี 119