บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

2ซามูเอล 1 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ดาวิดทราบข่าวว่าซาอูลสิ้นพระชนม์

1. หลังจากซาอูลสิ้นพระชนม์แล้ว ดาวิดกลับมาจากการพิชิตชาวอามาเลขและพักอยู่ที่เมืองศิกลากได้สองวัน

2. ในวันที่สาม มีชายคนหนึ่งมาจากค่ายของซาอูล เสื้อผ้าขาดวิ่น และฝุ่นเต็มศีรษะ เขาหมอบกราบลงต่อหน้าดาวิดแสดงความเคารพ

3. ดาวิดถามว่า “เจ้ามาจากไหน?”เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าหนีมาจากค่ายของอิสราเอล”

4. ดาวิดถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? บอกเราสิ”เขาตอบว่า “ทหารของเราเตลิดหนี หลายคนถูกฆ่าตาย กษัตริย์ซาอูลและโยนาธานราชโอรสสิ้นพระชนม์แล้ว”

5. ดาวิดจึงถามชายหนุ่มที่มาส่งข่าวว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากษัตริย์ซาอูลและโยนาธานราชโอรสสิ้นพระชนม์แล้ว?”

6. เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขากิลโบอา เห็นกษัตริย์ซาอูลทุ่มพระกายลงบนหอก รถม้าศึกของศัตรูก็ประชิดเข้ามา

7. เมื่อพระองค์เห็นข้าพเจ้า ก็ร้องเรียกให้เข้าไปหา แล้วข้าพเจ้าทูลถามว่า ‘จะทรงให้ข้าพระบาททำสิ่งใด?’

8. “พระองค์ตรัสถามว่า ‘เจ้าเป็นใคร?’“ข้าพเจ้าทูลว่า ‘เป็นชาวอามาเลขพระเจ้าข้า’

9. “พระองค์จึงตรัสว่า ‘มาฆ่าเราทีเถิด เราใกล้จะตายแล้ว แต่ก็ไม่ตายเสียที’

10. “ข้าพเจ้าจึงปลงพระชนม์ เพราะเห็นว่าจะไม่รอดแน่ๆ แล้วข้าพเจ้าก็เอามงกุฎกับทองต้นพระกรมาให้ท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า”

11. แล้วดาวิดกับพรรคพวกทั้งหมดจึงฉีกเสื้อผ้าของตน

12. พวกเขาพากันไว้ทุกข์ ร่ำไห้ และถืออดอาหารจนถึงเวลาเย็น เพื่อไว้อาลัยแด่กษัตริย์ซาอูล และโยนาธานราชโอรส และเพื่อไพร่พลขององค์พระผู้เป็นเจ้าและชาวอิสราเอลซึ่งสิ้นชีวิตในสงคราม

13. ดาวิดพูดกับชายหนุ่มที่นำข่าวมาว่า “เจ้ามาจากไหน?”เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นลูกคนต่างด้าวชาวอามาเลข”

14. ดาวิดถามว่า “ทำไมเจ้าจึงกล้าทำลายผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้?”

15. แล้วดาวิดสั่งคนของตนว่า “เอาเขาไปฆ่าเสีย!” คนของดาวิดก็ฆ่าเขา

16. เพราะดาวิดได้กล่าวแล้วว่า “เจ้าสมควรตาย เพราะเจ้าเองได้สารภาพว่า ‘ข้าพเจ้าได้ฆ่าผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้’”

ดาวิดไว้อาลัยซาอูลและโยนาธาน

17. แล้วดาวิดคร่ำครวญไว้อาลัยแด่กษัตริย์ซาอูลกับโยนาธานราชโอรส

18. และบัญชาให้สอนบทคร่ำครวญนี้แก่ชนยูดาห์ (บันทึกไว้ในหนังสือแห่งยาชาร์) ความว่า

19. “โอ อิสราเอลเอ๋ย ศักดิ์ศรีของเจ้านอนสิ้นชีพอยู่บนที่สูงของเจ้าวีรชนแกล้วกล้าล้มลงเสียแล้วหนอ!

20. “อย่าแจ้งข่าวนี้ในเมืองกัทอย่าประกาศข่าวนี้ตามถนนหนทางในอัชเคโลนหาไม่แล้วธิดาแห่งฟีลิสเตียจะกระหยิ่มยิ้มย่องหาไม่แล้วเหล่าบุตรีของผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตจะลิงโลดยินดี

21. “โอ ภูเขากิลโบอาขออย่าให้เจ้าได้รับฝนหรือหยาดน้ำค้างขออย่าให้ท้องทุ่งเกิดธัญญาหารเพื่อเป็นเครื่องบูชาเพราะที่นั่นโล่ของผู้เกรียงไกรถูกเหยียดหยามโล่ของซาอูลไม่ได้ชโลมด้วยน้ำมันอีกแล้ว

22. “ธนูของโยนาธานดื่มเลือดไม่หยุดและกินเนื้อของผู้มีกำลังดาบของซาอูลไม่กลับมาเปล่า

23. “ซาอูลและโยนาธานยามอยู่ทรงเป็นที่รักและน่าชื่นชมยามสิ้นไม่ทรงพรากจากกันทรงว่องไวกว่านกอินทรีแข็งแกร่งกว่าราชสีห์

24. “โอ เหล่าธิดาแห่งอิสราเอลจงร่ำไห้ให้กับซาอูลผู้ทรงแต่งกายให้เธอด้วยอาภรณ์สีแดงเข้มและสิ่งงดงามและตกแต่งอาภรณ์ของเธอด้วยเครื่องประดับทองคำ

25. “วีรชนแกล้วกล้าล้มลงกลางสมรภูมิ!โยนาธานนอนสิ้นชีพอยู่บนที่สูงของเจ้า

26. โอ โยนาธาน พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าอาลัยถึงท่านท่านเป็นที่รักยิ่งของข้าพเจ้าความรักที่ท่านมีต่อข้าพเจ้านั้นล้ำเลิศล้ำเลิศยิ่งกว่าความรักของสตรี

27. “วีรชนแกล้วกล้าล้มลงเสียแล้ว!อาวุธยุทโธปกรณ์ก็พินาศไป!”