บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

1พงศาวดาร 16 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

1. พวกเขาอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามาตั้งไว้ในพลับพลาซึ่งดาวิดทรงจัดเตรียมไว้ และถวายเครื่องเผาบูชากับเครื่องสันติบูชาต่อหน้าพระเจ้า

2. หลังจากที่ถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาเสร็จแล้ว ดาวิดก็ทรงอวยพรประชาชนในพระนามของพระยาห์เวห์

3. และประทานขนมปัง อินทผลัมอัด และขนมลูกเกดอย่างละหนึ่งก้อนแก่อิสราเอลทุกคนทั้งชายและหญิง

4. ดาวิดทรงแต่งตั้งคนเลวีบางคนให้ปฏิบัติงานอยู่หน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยการทูลขอ ขอบพระคุณ และถวายคำสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้แก่

5. อาสาฟเป็นหัวหน้า รองลงมาคือเศคาริยาห์ คนอื่นๆ ได้แก่ เยอีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มัททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล คนเหล่านี้เล่นพิณใหญ่และพิณเขาคู่ อาสาฟเป็นผู้ตีฉาบ

6. ปุโรหิตเบไนยาห์และยาฮาซีเอลเป่าแตรเป็นประจำหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า

บทสดุดีขอบพระคุณของดาวิด

7. ในวันนั้นดาวิดทรงมอบบทสดุดีขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าให้อาสาฟกับผู้ช่วยของเขาเป็นครั้งแรกดังนี้ว่า

8. จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า และร้องทูลออกพระนามของพระองค์ให้ประชาชาติทั้งหลายได้รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ

9. จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์

10. จงเทิดทูนพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ให้จิตใจของผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าชื่นชมยินดี

11. จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพลังอำนาจของพระองค์จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ

12. จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ

13. วงศ์วานอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ยลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย

14. พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราการพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก

15. พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาลทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน

16. พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัมคำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค

17. พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์

18. “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้าให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย”

19. เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนักน้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น

20. พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่งจากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง

21. พระองค์ไม่ทรงยอมให้ใครข่มเหงรังแกเขาเพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย

22. “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”

23. ทั่วทั้งโลกจงร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าจงประกาศความรอดของพระองค์ทุกๆ วัน

24. จงประกาศพระเกียรติสิริของพระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายประกาศพระราชกิจล้ำเลิศของพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งมวล

25. เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่นัก และควรแก่การสรรเสริญเป็นที่สุดพระองค์ทรงเป็นที่เคารพยำเกรงเหนือพระทั้งปวง

26. เพราะพระของชนชาติต่างๆ เป็นเพียงรูปเคารพแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์

27. สง่าราศีและพระบารมีอยู่ต่อหน้าพระองค์พระเดชานุภาพและความปีติยินดีอยู่ในที่ประทับของพระองค์

28. ทุกครอบครัวในชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิดจงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงพระเกียรติสิริและพระเดชานุภาพของพระองค์

29. จงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าตามพระเกียรติสิริที่ควรแก่พระนามของพระองค์จงนำเครื่องบูชามาต่อหน้าพระองค์จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าในสง่าราศีแห่งความบริสุทธิ์ของพระองค์

30. โลกทั้งโลกจงสั่นสะท้านต่อหน้าพระองค์โลกได้รับการสถาปนาไว้อย่างมั่นคง จะไม่มีวันคลอนแคลน

31. ฟ้าสวรรค์จงชื่นชมยินดี แผ่นดินโลกจงเปรมปรีดิ์ให้ประชาชาติทั้งหลายกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครอง!”

32. ท้องทะเลและสรรพสิ่งในนั้นจงแซ่ซ้องกังวานท้องทุ่งและทุกสิ่งในนั้นจงร่าเริง

33. แล้วต้นไม้ในป่าจะร้องเพลงพวกมันจะร้องเพลงอย่างชื่นบานต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์เสด็จมาเพื่อพิพากษาแผ่นดินโลก

34. จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงแสนดีความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์

35. จงร้องทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเจ้า องค์พระผู้ช่วยให้รอด ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอดขอทรงรวบรวมและกอบกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายจากชนชาติต่างๆเพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะขอบพระคุณพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะยกย่องสรรเสริญพระองค์”

36. ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลจากนิรันดร์กาลจวบจนนิรันดร์กาลแล้วให้ปวงประชากรจงกล่าวว่า “อาเมน” และ “สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า”

37. ดาวิดทรงมอบหมายให้อาสาฟและคณะปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอที่หน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยจัดการทุกอย่างให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดทุกวัน

38. และให้โอเบดเอโดม และเพื่อนร่วมงาน 68 คนร่วมปรนนิบัติด้วย โอเบดเอโดมบุตรเยดูธูนและโฮสาห์เป็นยามเฝ้าประตู

39. ดาวิดทรงให้ปุโรหิตศาโดกและปุโรหิตคนอื่นๆ ซึ่งรับใช้ร่วมกันกับเขาประจำอยู่ที่พลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าบนสถานบูชาบนที่สูงในกิเบโอน

40. เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกเช้าทุกเย็นตามที่บันทึกไว้ในบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ประทานแก่อิสราเอล

41. และให้เฮมาน เยดูธูน กับคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ได้รับเลือกและระบุชื่อไว้เป็นผู้ถวายคำขอบพระคุณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

42. เฮมานกับเยดูธูนรับผิดชอบการเป่าแตร ตีฉาบ และบรรเลงเครื่องดนตรีต่างๆ คลอไปกับบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ บุตรทั้งหลายของเยดูธูนประจำอยู่ที่ประตู

43. จากนั้นประชาชนทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนดาวิดเสด็จกลับพระราชวังไปอวยพรเชื้อพระวงศ์