3. เช้าวันรุ่งขึ้น ชาวเมืองอัชโดดพบว่าพระดาโกนล้มลง หน้าคว่ำหมอบลงกับพื้นตรงหน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า! พวกเขาจึงตั้งเทวรูปนั้นขึ้นมาใหม่
4. เช้าวันต่อมาก็เป็นเช่นเดิมอีก พระดาโกนคว่ำหน้าหมอบอยู่ตรงหน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า! ศีรษะและแขนหักทิ้งอยู่ตรงธรณีประตู เหลือแต่ลำตัว
5. ตั้งแต่นั้นมาทั้งปุโรหิตของพระดาโกนและผู้ที่เข้าสู่วิหารของพระดาโกนที่อัชโดดจะไม่ก้าวเหยียบธรณีประตู
6. พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษชาวเมืองอัชโดดและละแวกใกล้เคียงอย่างหนัก พระองค์ทรงนำภัยพิบัติมายังพวกเขาและลงโทษพวกเขาด้วยฝีระบาด
7. เมื่อชาวอัชโดดตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ร้องกันว่า “เราจะเก็บหีบพันธสัญญาของพระเจ้าแห่งอิสราเอลไว้ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เพราะพระหัตถ์ของพระองค์ทรงลงโทษเราและพระดาโกนเทพเจ้าของเราอย่างหนัก”
8. ฉะนั้นพวกเขาจึงเชิญเจ้านายทั้งปวงของฟีลิสเตียมาหารือกันว่า “จะทำอย่างไรกับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าแห่งอิสราเอล?”บรรดาเจ้านายเสนอว่า “ให้ย้ายหีบพันธสัญญาของพระเจ้าแห่งอิสราเอลไปยังเมืองกัท” ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายหีบพันธสัญญาของพระเจ้าแห่งอิสราเอลไป
9. แต่เมื่อหีบพันธสัญญาย้ายมา พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเล่นงานเมืองนั้นปั่นป่วนวุ่นวายไปทั้งเมือง พระเจ้าทรงลงโทษชาวเมืองนั้น ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วยฝีระบาด