2. อย่าลืมที่จะเลี้ยงดูแขกแปลกหน้าที่มาบ้าน เพราะบางคนที่ทำอย่างนั้นได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว
3. ให้เราเป็นห่วงคนเหล่านั้นที่ถูกขังคุกอยู่เหมือนกับถูกขังร่วมกับเขาด้วย ให้เราช่วยเหลือคนที่ถูกกดขี่ข่มเหงราวกับว่าถูกกดขี่ข่มเหงเสียเอง
4. ขอให้ทุกคนให้เกียรติกับชีวิตสมรส และขอให้เตียงสมรสนั้นบริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าจะลงโทษคนที่มีชู้และทำผิดทางเพศ
5. อย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน แต่ให้พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เพราะว่าพระเจ้าได้พูดว่า“เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเราจะไม่หนีเจ้าไป” (เฉลยธรรมบัญญัติ 31:6)
6. ดังนั้น เราจึงพูดด้วยความมั่นใจได้ว่า“องค์เจ้าชีวิตเป็นผู้ช่วยของผม ผมจะไม่กลัวอะไรมนุษย์จะทำอะไรผมได้” (สดุดี 118:6)
7. ให้ระลึกถึงพวกผู้นำของพี่น้อง คนที่เคยประกาศถ้อยคำของพระเจ้าให้กับพี่น้อง ให้สังเกตดูชีวิตของเขาว่าเขาอยู่และตายอย่างไร แล้วให้เลียนแบบความเชื่อของคนเหล่านั้น
8. พระเยซูคริสต์เหมือนเดิมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อวานนี้ วันนี้ หรือตลอดไป
9. อย่าปล่อยให้คำสอนที่แปลกๆนำพี่น้องให้หลงไป เพราะความเมตตากรุณาของพระเจ้านั้นดีอยู่แล้ว ทำให้จิตใจของเราเข้มแข็งขึ้น แต่การกินอาหารตามธรรมเนียมพิธีนั้นไม่ได้ช่วยจิตใจของคนที่ถืออย่างนั้นเลย
10. เรามีแท่นบูชาที่คนที่รับใช้อยู่ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะกินจากแท่นนั้นได้
11. หัวหน้านักบวชสูงสุดนำเลือดของสัตว์เข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาจัดการกับบาป แต่ร่างของสัตว์นั้น เขาเอาออกไปเผานอกค่าย
12. ก็เหมือนกับที่พระเยซูต้องทนทุกข์ทรมานอยู่นอกประตูเมือง และใช้เลือดของพระองค์ชำระประชาชนให้บริสุทธิ์
13. ดังนั้น ขอให้เราออกไปหาพระองค์นอกค่ายกันเถอะ และยอมทนต่อความอับอายขายหน้าเพื่อพระองค์
14. เพราะในโลกนี้ เราไม่มีเมืองที่ถาวร แต่เรากำลังแสวงหาเมืองที่กำลังจะมาถึง
15. ดังนั้น เพราะสิ่งที่พระเยซูทำ เราควรถวายเครื่องบูชาต่อพระเจ้าเสมอ เครื่องบูชานั้นคือคำสรรเสริญที่ออกมาจากริมฝีปากที่ยกย่องพระองค์