บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มาระโก 7 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ (THA)

คำ​สอน​ของ​บรรพบุรุษ

1. พวก​ฟาริสี กับ​พวก​ครู​ผู้สอน​กฎ​ปฏิบัติ​บาง​คน​ที่​มา​จาก​เมือง​เยรูซาเล็ม พา​กัน​มา​หา​พระ​เยซู

2. พวก​เขา​เห็น​ศิษย์​บาง​คน​ของ​พระ​เยซู กิน​อาหาร​โดย​ไม่​ได้​ล้าง​มือ

3. (พวก​ฟาริสี และ​คน​ยิว​ทุก​คน จะ​ไม่​กิน​อาหาร​จน​กว่า​จะ​ได้​ล้าง​มือ​ตาม​ประเพณี​ที่​บรรพบุรุษ​ทำ​มา

4. เมื่อ​กลับ​มา​จาก​ตลาด​พวก​เขา​ก็​ต้อง​ทำ​พิธี​จุ่ม​ตัว​เอง​ก่อน​ที่​จะ​กิน​ข้าว นอก​จากนี้ ยัง​รักษา​ประเพณี​อื่นๆ​อีก​มาก​มาย​เช่น การ​ล้าง​ถ้วย เหยือก หม้อ​ทอง​สัมฤทธิ์ และ​เก้าอี้​เอน​สำหรับ​กิน​ข้าว)

5. ดัง​นั้น​พวก​ฟาริสี​และ​พวก​ครู​สอน​กฎ​ปฏิบัติ​พวก​นี้​ถาม​พระ​เยซู​ว่า “ทำ​ไม​ศิษย์​ของ​คุณ​ถึง​ไม่​ทำ​ตาม​ประเพณี​ที่​สืบทอด​กัน​มา​จาก​บรรพบุรุษ ทำ​ไม​พวก​เขา​ถึง​ไม่​ล้าง​มือ​ก่อน​กิน​อาหาร”

6. พระองค์​จึง​ตอบ​ว่า “อิสยาห์ ผู้​พูด​แทน​พระเจ้า พูด​ไว้​ถูก​ต้อง​เลย​เกี่ยว​กับ​ไอ้​พวก​นัก​แสดง​อย่าง​พวก​คุณ​ที่​ว่า‘คน​พวก​นี้​นับถือ​เรา​แต่​ปาก​เท่า​นั้นแต่​ใจ​ของ​พวก​เขา​ห่าง​ไกล​จาก​เรา​มาก

7. จึง​ไม่​มี​ประโยชน์​ที่​เขา​จะ​บูชา​เราเพราะ​สิ่ง​ที่​เขา​สอน​กัน​นั้น​เป็น​แค่​กฎ​ที่​มนุษย์​ตั้ง​ขึ้น’ (อิสยาห์ 29:13)

8. พวก​คุณ​ละเลย​คำ​สั่ง​ของ​พระเจ้า เพื่อ​จะ​ได้​ไป​ทำ​ตาม​ประเพณี​ที่​มนุษย์​สอน​ต่อๆ​กัน​มา”

9. แล้ว​พระ​เยซู​พูด​อีก​ว่า “พวก​คุณ​นี่​เหลี่ยม​จัด​นะ เข้า​ใจ​หลีก​เลี่ยง​คำ​สั่ง​ของ​พระเจ้า เพื่อ​จะ​ได้​ไป​ทำ​ตาม​ประเพณี​ที่​สืบ​ทอด​กัน​มา

10. อย่าง​เช่น โมเสส​สอน​ว่า ‘ให้​เคารพ​นับถือ​พ่อ​แม่​ของ​ตน’ และ ‘คน​ที่​สาป​แช่ง​พ่อ​แม่​ต้อง​ตาย’

11. แต่​พวก​คุณ​กลับ​สอน​ว่า​ไม่​ผิด​ที่​จะ​บอก​พ่อ​แม่​ว่า ‘สิ่ง​ที่​ลูก​จะ​เอา​มา​ช่วย​พ่อ​แม่​ได้​นั้น ลูก​ได้​ยก​ให้​กับ​พระเจ้า​ไป​หมด​แล้ว’

12. ทำ​อย่าง​นี้​เท่า​กับ​ว่า​พวก​คุณ​สอน​เขา​ไม่​ให้​ช่วย​เหลือ​อะไร​พ่อ​แม่​เลย

13. แบบ​นี้​พวก​คุณ​ก็​เลย​ยกเลิก​พระคำ​ของ​พระเจ้า แต่​ไป​ทำ​ตาม​ประเพณี​ที่​สืบทอด​กัน​มา และ​พวก​คุณ​ยัง​ทำ​อย่าง​นี้​กับ​อีก​หลายๆ​เรื่อง​ด้วย”

สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า

14. พระองค์​เรียก​ฝูงชน​เข้า​มา และ​พูด​ว่า “ฟัง​ให้​ดีๆ​และ​เข้า​ใจ​ซะ​ด้วย​ว่า

15. ไม่​มี​อะไร​เลย​ที่​คน​กิน​เข้า​ไป​แล้ว ทำ​ให้​เขา​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า มี​แต่​สิ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ข้าง​ใน​ตัว​เขา​เท่า​นั้น ที่​จะ​ทำ​ให้​เขา​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า”

17. หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​แยก​กับ​ชาว​บ้าน​แล้ว พระองค์​ได้​เข้า​ไป​ใน​บ้าน พวก​ศิษย์​ก็​เข้า​มา​ถาม​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​เปรียบ​เทียบ​นี้

18. พระองค์​บอก​ว่า “พวก​คุณ​ยัง​ไม่​เข้า​ใจ​อีก​เหรอ ไม่​มี​อะไร​หรอก​ที่​คน​กิน​เข้า​ไป​แล้ว​จะ​ทำ​ให้​เขา​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า

19. เพราะ​มัน​ไม่​ได้​เข้า​ไป​ใน​จิต​ใจ แต่​มัน​ตกลง​ไป​ใน​ท้อง แล้ว​ก็​ถ่าย​ออก​มา” (ที่​พระองค์​พูด​อย่าง​นี้ ก็​แสดง​ว่า​อาหาร​ทุก​ชนิด​สะอาด​กิน​ได้​หมด)

20. พระองค์​ก็​พูด​ต่อว่า “สิ่ง​ที่​ออก​มา​จาก​ตัว​คน​นั่น​แหละ​ที่​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า

21. เพราะ​ที่​ออก​มา​จาก​ตัว​ก็​ออก​มา​จาก​จิต​ใจ และ​ใจ​นี่​เอง​เป็น​ที่​มา​ของ​ความ​คิด​ชั่ว​ร้าย ความ​ผิด​บาป​ทาง​เพศ การ​ลัก​ขโมย การ​ฆ่า​กัน

22. การ​มี​ชู้ ความ​โลภ ความ​ชั่ว​ต่างๆ การ​หลอก​ลวง ราคะ​ตัณหา การ​อิจฉา​ริษยา การ​นินทา​ว่า​ร้าย ความ​เย่อหยิ่ง​จองหอง และ ความ​โง่​เขลา

23. สิ่ง​ชั่ว​ร้าย​ทั้ง​หมด​นี้​ออก​มา​จาก​ข้าง​ใน​และ​ทำ​ให้​คน​สกปรก​ใน​สายตา​พระเจ้า”

พระ​เยซู​ช่วย​ผู้หญิง​กรีก

24. พระ​เยซู​จาก​ที่​นั่น​เข้า​ไป​ยัง​เขต​แดน​เมือง​ไทระ แล้ว​พระองค์​เข้า​ไป​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​หนึ่ง ไม่​ต้อง​การ​ให้​คน​รู้ แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ซ่อน​ตัว​ได้

25. พอ​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ลูกสาว​ที่​ถูก​ผี​ชั่ว​สิง​อยู่​รู้​ว่า​พระองค์​มา เธอ​จึง​มา​กราบ​แทบ​เท้า​ของ​พระ​เยซู

26. หญิง​คน​นี้​เป็น​คน​กรีก เกิด​ที่​แคว้น​ฟีนีเซีย​ใน​ประเทศ​ซีเรีย เธอ​มา​ขอ​ร้อง​ให้​พระ​เยซู​ช่วย​ขับ​ไล่​ผี​ชั่ว​ที่​สิง​ลูกสาว​ของ​เธอ​อยู่

27. แล้ว​พระองค์​พูด​ว่า “มัน​ไม่​ถูกต้อง​ที่​จะ​เอา​อาหาร​ของ​ลูกๆ​ไป​โยน​ให้​หมา​กิน ต้อง​ให้​ลูกๆ​กิน​อิ่ม​เสีย​ก่อน”

28. แต่​เธอ​ตอบ​ว่า “ใช่​ค่ะ​ท่าน แต่​หมา​ก็​ยัง​ได้​กิน​เศษ​อาหาร​ของ​เด็กๆ​ที่​ตก​อยู่​ใต้โต๊ะ​เลย”

29. พระองค์​พูด​ว่า “ตอบ​ได้​ดี​มาก กลับ​ไป​บ้าน​เถอะ เพราะ​ผี​ชั่ว​ได้​ออก​จาก​ลูกสาว​คุณ​แล้ว”

30. เมื่อ​เธอ​กลับ​ถึง​บ้าน ก็​เห็น​ลูกสาว​นอน​อยู่​บน​เตียง และ​ผี​ชั่ว​ได้​ออก​ไป​แล้ว

พระ​เยซู​รักษา​คน​ที่​หูหนวก​และ​เป็น​ใบ้

31. พระองค์​ออก​จาก​เขต​แดน​ของ​เมือง​ไทระ และ​เดิน​ผ่าน​เมือง​ไซดอน เพื่อ​จะ​ไป​ที่​ทะเล​สาบ​กาลิลี โดย​ผ่าน​ทาง​แคว้น​เดคาโปลิศ

32. มี​คน​พา​ชาย​หูหนวก​คน​หนึ่ง​ที่​พูด​ไม่​ค่อย​ได้​มาหา​พระ​เยซู พวก​เขา​ขอ​ร้อง​ให้​พระองค์​วางมือ​บน​ชาย​คน​นี้

33. พระองค์​พา​ชาย​คน​นี้​หลีก​ห่าง​ไป​จาก​ผู้คน พระองค์​เอา​นิ้ว​แยง​เข้า​ไป​ใน​หู​ของ​เขา แล้ว​เอา​น้ำลาย​ที่​พระองค์​บ้วน​ออก​มา​ไป​แตะ​ที่​ลิ้น​ของ​เขา

34. แล้ว​พระองค์​เงย​หน้า​มอง​ท้องฟ้า จาก​นั้น​ถอน​ใจ​ยาว แล้ว​พูด​กับ​ชาย​คน​นั้น​ว่า “เอฟฟาธา” แปล​ว่า “เปิด​สิ”

35. หู​ของ​เขา​ก็​ได้​ยิน​ทัน​ที และ​ลิ้น​ของ​เขา​ก็​ไม่​ขัด​และ​พูด​ได้​คล่อง​ชัด​เจน

36. พระองค์​สั่ง​พวก​เขา​ไม่​ให้​เล่า​เรื่อง​พวก​นี้​ให้​ใคร​ฟัง แต่​ยิ่ง​พระองค์​สั่ง​ห้าม​มาก​เท่า​ไร พวก​เขา​ก็​ยิ่ง​ร่ำ​ลือ​กัน​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น

37. คน​ที่​ได้​ยิน​ก็​ประหลาดใจ​มาก​และ​พูด​ว่า “ทุก​อย่าง​ที่​เขา​ทำ​นั้น​ยอด​เยี่ยม​จริงๆ​ขนาด​คน​หูหนวก​ยัง​ทำ​ให้​ได้​ยิน และ​คน​ใบ้​ยัง​ทำ​ให้​พูด​ได้”