4. พระเยซูทรงทราบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ พระองค์จึงเสด็จออกไปถามเขาว่า “พวกท่านมาหาใคร?”
5. เขาทูลตอบพระองค์ว่า “มาหาเยซูชาวนาซาเร็ธ” พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นผู้นั้น” ยูดาสคนที่ทรยศพระองค์ก็ยืนอยู่กับคนเหล่านั้น
6. เมื่อพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นผู้นั้น” เขาก็ถอยหลังและล้มลงที่ดิน
7. พระองค์ตรัสถามเขาอีกว่า “พวกท่านมาหาใคร?” เขาทูลตอบว่า “มาหาเยซูชาวนาซาเร็ธ”
8. พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกท่านแล้วว่าเราเป็นผู้นั้น ถ้าท่านตามหาเราก็จงปล่อยคนเหล่านี้ไปเถิด”
9. ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามพระดำรัสที่พระองค์ตรัสว่า “คนเหล่านั้นซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ไม่ได้เสียไปสักคนเดียว”
10. ซีโมนเปโตรมีดาบจึงชักออกฟันทาสคนหนึ่งของมหาปุโรหิตถูกหูข้างขวาขาด ทาสคนนั้นชื่อมัลคัส
11. พระเยซูตรัสกับเปโตรว่า “จงเอาดาบใส่ฝักเสีย เราจะไม่ดื่มถ้วย ที่พระบิดาประทานแก่เราหรือ?”
12. พวกพลทหารกับนายทหารและเจ้าหน้าที่ของพวกยิวจึงจับพระเยซูมัดไว้
13. แล้วพาพระองค์ไปหาอันนาสก่อน เพราะอันนาสเป็นพ่อตาของคายาฟาสซึ่งเป็นมหาปุโรหิตในปีนั้น
14. คายาฟาสคนนี้แหละที่แนะนำพวกยิวว่า ควรให้คนหนึ่งตายแทนประชาชน
15. ซีโมนเปโตรกับสาวกอีกคนหนึ่งติดตามพระเยซูไป แต่เพราะสาวกคนนั้นรู้จักกับมหาปุโรหิต เขาจึงเข้าไปกับพระเยซูจนถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต
16. แต่เปโตรยืนอยู่ข้างนอกริมประตู สาวกอีกคนหนึ่งนั้นที่รู้จักกับมหาปุโรหิตจึงออกไปพูดกับหญิงที่เฝ้าประตูแล้วพาเปโตรเข้าไป
17. ผู้หญิงคนที่เฝ้าประตูถามเปโตรว่า “ท่านก็เป็นคนหนึ่งในพวกสาวกของคนนั้นด้วยไม่ใช่หรือ?” เขาตอบว่า “ไม่ใช่”
18. พวกทาสกับเจ้าหน้าที่ก็ยืนอยู่ที่นั่น เอาถ่านมาก่อไฟเพราะอากาศหนาว แล้วก็ยืนผิงไฟกัน เปโตรก็ยืนผิงไฟอยู่กับเขาด้วย
19. มหาปุโรหิตก็ถามพระเยซูถึงพวกสาวกของพระองค์และคำสอนของพระองค์
20. พระเยซูตรัสตอบท่านว่า “เรากล่าวให้โลกฟังโดยเปิดเผย เราสั่งสอนเสมอทั้งในธรรมศาลาและในบริเวณพระวิหารที่พวกยิวเคยชุมนุมกัน เราไม่ได้สอนสิ่งใดอย่างลับๆ เลย