14. ท่านจึงกล่าวว่า ‘พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราทรงเลือกท่านเพื่อให้รู้จักพระทัยของพระองค์ ให้ท่านเห็นพระองค์ผู้ชอบธรรม และได้ยินพระสุรเสียงจากพระโอษฐ์ของพระองค์
15. เพราะว่าท่านจะเป็นสักขีพยานของพระองค์ต่อคนทั้งปวงในสิ่งที่ท่านได้เห็นและได้ยินนั้น
16. บัดนี้ท่านจะชักช้ารออยู่ทำไม? จงลุกขึ้นรับบัพติศมา รับการชำระบาปของท่าน โดยร้องทูลออกพระนามของพระองค์’
17. “เมื่อข้าพเจ้ากลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม และขณะกำลังอธิษฐานอยู่ในพระวิหาร ก็เข้าสู่ภวังค์
18. ข้าพเจ้าเห็นพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรีบออกไปจากกรุงเยรูซาเล็มโดยเร็ว เพราะพวกเขาจะไม่รับคำพยานของเจ้าเกี่ยวกับเรา’
19. ข้าพเจ้าจึงทูลว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านั้นทราบดีว่า ข้าพระองค์จับคนทั้งหลายที่เชื่อในพระองค์ตามธรรมศาลาไปขังคุกและเฆี่ยนตี
20. และเมื่อเขาทำให้สเทเฟนสักขีพยานของพระองค์ต้องหลั่งเลือด ข้าพระองค์ก็ยืนอยู่ใกล้และเห็นชอบกับการกระทำนั้น ทั้งยังเฝ้าเสื้อผ้าให้กับพวกที่ฆ่าเขา’