3. และเนื่องด้วยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ต่อเยรูซาเล็มและยูดาห์ พระองค์จึงทรงเหวี่ยงทั้งคู่ไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์ และเศเดคียาห์ได้กบฏต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลน
4. และในปีที่ 9 แห่งรัชกาลของพระองค์ ในวันที่ 10 ของเดือนที่ 10 เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน พร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์ได้ต่อสู้กับกรุงเยรูซาเล็มและล้อมเมืองไว้ และสร้างเครื่องล้อมไว้รอบ
5. กรุงนั้นจึงถูกล้อมอยู่ถึงปีที่ 11 แห่งรัชกาลกษัตริย์เศเดคียาห์
6. เมื่อถึงวันที่ 9 ของเดือนที่ 4 เกิดการกันดารอาหารรุนแรงในกรุงนั้น ไม่มีอาหารให้แก่ประชาชนของแผ่นดิน
7. แล้วกรุงนั้นก็แตก และทหารทั้งสิ้นหนีออกไปในเวลากลางคืน ตามทางประตูเมืองระหว่างกำแพงทั้งสอง ซึ่งอยู่ริมพระราชอุทยาน ส่วนคนเคลเดียก็ล้อมอยู่รอบกรุง และเขาทั้งหลายไปทางที่ราบ
8. แต่กองทัพของคนเคลเดียได้ไล่ตามกษัตริย์ไป และไปทันเศเดคียาห์ในที่ราบเมืองเยรีโค และกองทัพของพระองค์ก็กระจัดกระจายไปจากพระองค์
9. และเขาก็จับพระองค์ นำขึ้นมาถวายกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เมืองริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท และกษัตริย์ก็ทรงพิพากษาโทษพระองค์
10. กษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงประหารบรรดาพระราชโอรสของเศเดคียาห์ต่อพระพักตร์พระองค์ และทรงประหารเจ้านายทั้งสิ้นแห่งยูดาห์เสียที่เมืองริบลาห์
11. พระองค์ทรงทำให้พระเนตรของเศเดคียาห์บอดและตีตรวนไว้ แล้วกษัตริย์แห่งบาบิโลนทรงนำพระองค์ไปยังบาบิโลน และทรงขังพระองค์ไว้ในคุกจนวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์
12. เมื่อวันที่ 10 ในเดือนที่ 5 ซึ่งเป็นปีที่ 19 ของรัชกาลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ผู้ปรนนิบัติกษัตริย์บาบิโลนได้เข้าไปในกรุงเยรูซาเล็ม
13. และเขาได้เผาพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และพระราชวัง และบ้านเรือนทั้งสิ้นของกรุงเยรูซาเล็มเสีย ท่านเผาบ้านใหญ่ๆ เสียหมดทุกหลัง
14. และกองทัพทั้งสิ้นของคนเคลเดีย ผู้อยู่กับผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ ได้ทลายกำแพงทั้งหมดที่อยู่รอบกรุงเยรูซาเล็มลง
15. และเนบูซาระดานผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ ได้จับประชาชนยากจนที่สุดบางคน ประชาชนที่เหลืออยู่ผู้อยู่ในนคร ผู้หลบหนีผู้ได้หนีไปหากษัตริย์แห่งบาบิโลน และช่างที่เหลืออยู่ไปเป็นเชลย
16. แต่เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ได้ละคนยากจนที่สุดในแผ่นดินไว้บ้าง เพื่อให้เป็นคนทำสวนองุ่นและเป็นคนทำไร่ไถนา
17. บรรดาเสาทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ อีกทั้งแท่นและอ่างสาครทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์นั้น คนเคลเดียได้ทุบเสียเป็นชิ้นๆ และขนเอาทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดไปยังบาบิโลน
18. และเขาได้ขนเอาหม้อ พลั่ว ตะไกรตัดไส้ตะเกียง อ่าง ชามเครื่องหอม และภาชนะทองสัมฤทธิ์ ซึ่งใช้ในพิธีกรรมของพระวิหาร
19. ทั้งชามอ่างเล็ก กระถางไฟ อ่าง หม้อ เชิงตะเกียง ชามเครื่องหอม และขันเครื่องดื่มบูชา อะไรที่ทำด้วยทองคำ ผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ก็เอาไปเป็นทองคำ อะไรที่ทำด้วยเงินก็เอาไปเป็นเงิน
20. ส่วนเสาใหญ่สองต้น และอ่างสาครหนึ่งใบ กับวัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัว ซึ่งอยู่ใต้อ่างสาคร และเชิงทั้งหลาย ซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างไว้สำหรับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ทองสัมฤทธิ์ของสิ่งของเหล่านี้ก็ชั่งกันไม่ไหว
21. ส่วนเสานั้น เสาต้นหนึ่งสูง 8 เมตร วัดรอบได้ 5.3 เมตร และหนา 75 มิลลิเมตร ตรงกลางกลวง
22. บนเสานี้มีบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์ บัวคว่ำอันหนึ่งสูง 2.2 เมตร มีลายไขว้และลูกทับทิม ทั้งหมดทำด้วยทองสัมฤทธิ์อยู่รอบบัวคว่ำ และเสาที่สองก็มีเหมือนกัน ทั้งลูกทับทิมด้วย