พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

โรม 7:5-23 ฉบับ1971 (TH1971)

5. เพราะ‍ว่า​เมื่อ​เรา​ดำ‌เนิน​ชีวิต​ตาม​ทาง​โลก ตัณ‌หา​ชั่ว​ที่​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​เร้า​ให้​เกิด​ขึ้น​นั้น ได้​ทำ​ให้​อวัยวะ​ของ​เรา​ก่อ​กรรม‍ชั่ว​นำ​ไป​สู่​ความ‍ตาย

6. แต่​บัด‍นี้​เรา​ได้​พ้น​จาก​ธรรม‍บัญ‌ญัติ คือ​ได้​ตาย​จาก​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​ที่​ได้​ผูก‍มัด​เรา​ไว้ เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ไม่​ประ‌พฤติ​ตาม​ตัว​อัก‌ษร​ใน​ประ‌มวล​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​เก่า แต่​จะ​ดำ‌เนิน​ชีวิต​ใหม่​ตาม​ลักษณะ​พระ‍วิญ‌ญาณ

7. ถ้า​เช่น‍นั้น​เรา​จะ​ว่า​อย่าง‍ไร ว่า​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​คือ​บาป​หรือ หา‍เป็น​เช่น‍นั้น​ไม่ แต่​ว่า​ถ้า​มิ‍ใช่​เพราะ​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​แล้ว ข้าพ‌เจ้า​ก็​คง​ไม่​รู้‍จัก​บาป เพราะ‍ว่า​ถ้า​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​มิ‍ได้​ห้าม​ว่า “อย่า​โลภ” ข้าพ‌เจ้า​ก็​คง​ไม่​รู้​ว่า​อะไร​คือ​ความ‍โลภ

8. แต่​ว่า​บาป​ได้​ถือ​เอา​พระ‍บัญ‌ญัติ​นั้น​เป็น​ช่อง ทำ​ให้​ตัณ‌หา​ชั่ว​ทุก‍อย่าง​เกิด‍ขึ้น​ใน​ตัว​ข้าพ‌เจ้า เพราะ‍ว่า​ถ้า​ไม่​มี​ธรรม‍บัญ‌ญัติ บาป​ก็​หา​ดำ‌รง​อยู่​ไม่

9. เมื่อ​ก่อน​ข้าพ‌เจ้า​ดำ‌รง​ชีวิต​อยู่​นอก‍เหนือ​ธรรม‍บัญ‌ญัติ แต่​เมื่อ​มี​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​ขึ้น บาป​ก็​เกิด‍ขึ้น และ​ข้าพ‌เจ้า​ก็​ตาย

10. พระ‍บัญ‌ญัติ​นั้น​ซึ่ง​มี​ขึ้น​เพื่อ​การ​ดำ‌รง​ชีวิต ก็​ปรา‌กฏ​แล้ว​ว่า​เป็น‍เหตุ​ที่​ทำ​ให้​ข้าพ‌เจ้า​ต้อง‍ตาย

11. เพราะ‍ว่า​บาป​ได้​ถือ​เอา​พระ‍บัญ‌ญัติ​นั้น​เป็น​ช่อง‍ทาง​ล่อ‍ลวง​ข้าพ‌เจ้า และ​ประ‌หาร​ข้าพ‌เจ้า​ให้​ตาย​ด้วย​พระ‍บัญ‌ญัติ​นั้น

12. เหตุ​ฉะนั้น​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​จึง​เป็น​สิ่ง​บริ‌สุทธิ์ และ​ข้อ​บัญ‌ญัติ​ก็​บริ‌สุทธิ์​ยุติ‍ธรรม​และ​ดีงาม

13. ถ้า​เช่น‍นั้น สิ่ง​ที่​ดี​กลับ​ทำ​ให้​ข้าพ‌เจ้า​ต้อง​ตาย​หรือ หา​มิ‍ได้ บาป​ต่าง‍หาก คือ​บาป​ซึ่ง​อา‌ศัย​สิ่ง​ที่​ดี​นั้น​ทำ​ให้​ข้าพ‌เจ้า​ต้อง​ตาย เพื่อ​จะ​ให้​ปรา‌กฏ​ว่า​บาป​นั้น​เป็น​บาป​จริง และ​โดย​อา‌ศัย​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​นั้น บาป​ก็​ปรา‌กฏ​ว่า​ชั่ว‍ร้าย​ยิ่ง​นัก

14. เรา​รู้​ว่า​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​นั้น​เป็น​มา​โดย​ฝ่าย​พระ‍วิญ‌ญาณ แต่​ว่า​ข้าพ‌เจ้า​เป็น​มนุษย์​ถูก​ขาย​ไว้​ให้​อยู่​ใต้​บาป

15. ข้าพ‌เจ้า​ไม่​เข้า‍ใจ​การ​กระ‌ทำ​ของ​ข้าพ‌เจ้า​เอง เพราะ‍ว่า​ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ทำ​สิ่ง​ที่​ข้าพ‌เจ้า​ปรารถ‌นา​ที่​จะ​ทำ แต่​กลับ​ทำ​สิ่ง​ที่​ข้าพ‌เจ้า​เกลียด‍ชัง​นั้น

16. เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ข้าพ‌เจ้า​ทำ​สิ่ง​ที่​ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ปรารถ‌นา​ที่​จะ​ทำ และ​ข้าพ‌เจ้า​ยอม‍รับ​ว่า​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​นั้น​ดี

17. ฉะนั้น​ข้าพ‌เจ้า​จึง​มิ‍ใช่​ผู้​กระ‌ทำ แต่​ว่า​บาป​ซึ่ง​อยู่​ใน​ตัว​ข้าพ‌เจ้า​นั่น​เอง​เป็น​ผู้​ทำ

18. ด้วย‍ว่า​ใน​ตัว​ข้าพ‌เจ้า คือ​ใน​ตัว​ของ​ข้าพ‌เจ้า​ไม่​มี​ความ‍ดี​ประ‌การ​ใด​อยู่​เลย เพราะ‍ว่า​เจต‌นา​ดี​ข้าพ‌เจ้า​ก็​มี​อยู่ แต่​ซึ่ง​จะ​กระ‌ทำ​การ‍ดี​นั้น​ข้าพ‌เจ้า​หา​ได้​กระ‌ทำ​ไม่

19. ด้วย‍ว่า​การ‍ดี​นั้น​ซึ่ง​ข้าพ‌เจ้า​ปรารถ‌นา​ทำ ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ได้​กระ‌ทำ แต่​การ‍ชั่ว​ซึ่ง​ข้าพ‌เจ้า​มิ​ได้​ปรารถ‌นา​ทำ ข้าพ‌เจ้า​ยัง​ทำ​อยู่

20. ถ้า​แม้​ข้าพ‌เจ้า​ยัง​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ปรารถ‌นา​จะ​ทำ ก็​ไม่​ใช่​ตัว​ข้าพ‌เจ้า​เป็น​ผู้​กระ‌ทำ แต่​บาป​ซึ่ง​อยู่​ใน​ตัว​ข้าพ‌เจ้า​นั่น​เอง​เป็น​ผู้​กระ‌ทำ

21. ดัง‍นั้น​ข้าพ‌เจ้า​จึง​เห็น​ว่า​เป็น​กฎ​ธรรม‌ดา​อย่าง​หนึ่ง คือ​เมื่อ‍ใด​ที่​ข้าพ‌เจ้า​ตั้ง‍ใจ​จะ​กระ‌ทำ​ความ‍ดี ความ‍ชั่ว​ก็​พร้อม​ที่​จะ​ผุด​ขึ้น

22. เพราะ‍ว่า​ส่วน‍ลึก​ใน​ใจ​ของ​ข้าพ‌เจ้า​นั้น ข้าพ‌เจ้า​ชื่น‍ชม​ใน​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​ของ​พระ‍เจ้า

23. แต่​ข้าพ‌เจ้า​เห็น​มี​กฎ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​อยู่​ใน​กาย​ของ​ข้าพ‌เจ้า ซึ่ง​ต่อ‍สู้​กับ​กฎ​แห่ง​จิต‍ใจ​ของ​ข้าพ‌เจ้า และ​ชัก‍นำ​ให้​ข้าพ‌เจ้า​อยู่​ใต้​บัง‍คับ​กฎ​แห่ง​บาป ซึ่ง​อยู่​ใน​กาย​ของ​ข้าพ‌เจ้า

อ่านบทที่สมบูรณ์ โรม 7