บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

เอ‌เฟ‌ซัส 5 ฉบับ1971 (TH1971)

ดำ‌เนิน​ชีวิต​อย่าง​ลูก​ของ​ความ​สว่าง

1. เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​จง​เลียน​แบบ​ของ​พระ‍เจ้า ให้​สม​กับ​เป็น​บุตร​ที่‍รัก

2. และ​จง​ดำ‌เนิน​ชีวิต​ใน​ความ​รัก เหมือน​ดัง​ที่​พระ‍คริสต์​ได้​ทรง​รัก​เรา​ทั้ง‍หลาย และ​ทรง​ประ‌ทาน​พระ‍องค์​เอง​เพื่อ​เรา ให้​เป็น​เครื่อง​ถวาย​และ​เครื่อง​บูชา​อัน​เป็น​ที่​โปรด‌ปราน​ของ​พระ‍เจ้า

3. แต่​การ​เอ่ย​ถึง​การ​ล่วง​ประ‌เวณี การ​ลา‌มก​ต่างๆ และ​การ​ละโมบ อย่า​ให้​มี​ขึ้น​ใน​พวก‍ท่าน​เลย จะ​ได้​สม‍กับ​ที่​ท่าน​เป็น​ธรร‌มิก‌ชน

4. ทั้ง​อย่า​พูด​หยาบ‍คาย พูด‍เล่น​ไม่​เป็น​เรื่อง และ​พูด‍ตลก​หยาบ‍โลน​เกเร ซึ่ง​เป็น​การ​ไม่​สม‍ควร แต่​ให้​ขอบ‍พระ‍คุณ​ดี‍กว่า

5. ท่าน​จง​รู้​แน่​ว่า คน​ล่วง​ประ‌เวณี คน​ลา‌มก คน​ละโมบ (ที่​เป็น​เหมือน​คน​ที่​นับ‍ถือ​รูป‍เคา‌รพ) จะ​มี​ส่วน​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍คริสต์​และ​พระ‍เจ้า​เป็น​มร‌ดก​ก็​หา​มิ​ได้

6. อย่า​ให้​ผู้​ใด​ล่อ‍ลวง​ท่าน​ด้วย​คำ​พูด​ที่​เหลว‍ไหล เพราะ​การ​กระ‌ทำ​เหล่า​นั้น​เอง พระ‍เจ้า​จะ​ทรง​ลง​พระ‍อาช‌ญา​แก่​ผู้​ที่​ไม่​เชื่อ‍ฟัง

7. เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​อย่า​คบ‍หา​สมา‌คม​กับ​คน​เหล่า​นั้น​เลย

8. เพราะ​ว่า​เมื่อ​ก่อน​ท่าน​เป็น​ความ​มืด แต่​บัด‍นี้​ท่าน​เป็น​ความ​สว่าง​แล้ว​ใน​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า จง​ดำ‌เนิน​ชีวิต​อย่าง​ลูก​ของ​ความ​สว่าง

9. (ด้วย​ว่า​ผล​ของ​ความ​สว่าง​นั้น คือ​ความ​ดี​ทุก​อย่าง​และ​ความ​ชอบ‍ธรรม​ทั้ง‍มวล​และ​ความ​จริง​ทั้ง‍สิ้น)

10. ท่าน​จง​พิสูจน์​ดู​ว่า ทำ​ประ‌การ​ใด​จึง​จะ​เป็น​ที่​ชอบ​พระ‍ทัย​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า

11. และ​อย่า​เข้า​ส่วน​กับ​กิจ‍การ​ของ​ความ​มืด​อัน​ไร้​ผล แต่​จง​เผย​กิจ‍การ​นั้น​ให้​ปรา‌กฏ​ดี‍กว่า

12. เพราะ​ว่า​แม้​แต่​จะ​พูด​ถึง​การ​เหล่า​นั้น ซึ่ง​พวก​เขา​กระ‌ทำ​ใน​ที่​ลับ​ก็​ยัง​เป็น​ที่​น่า​ละอาย

13. แต่​เมื่อ​สิ่ง​สาร‌พัด​ที่​ได้​แสดง​เปิด‍เผย​ออก​โดย​ความ​สว่าง สิ่ง​นั้น​ก็​ปรา‌กฏ​แจ้ง เพราะ‍ว่า​ทุกๆ​สิ่ง​ที่​ปรา‌กฏ​แจ้ง ก็​คือ​ความ‍สว่าง

14. เหตุ​ฉะนั้น​จึง​มี​คำ​กล่าว​ว่านี่‍แน่ะ​คน​ที่​หลับ​อยู่ จง​ตื่น​ขึ้นและ​จง​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย และ​พระ‍คริสต์​จะ​ทรง​ส่อง‍สว่าง​แก่​ท่าน

15. เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​จง​ระมัด‌ระวัง​ใน​การ​ดำ‌เนิน​ชีวิต​ให้​ดี อย่า​ให้​เหมือน​คน​ไร้​ปัญ‌ญา แต่​ให้​เหมือน​คน​มี​ปัญ‌ญา

16. จง​ฉวย​โอ‌กาส เพราะ‍ว่า​ทุก​วัน‍นี้​เป็น​กาล​ที่​ชั่ว

17. เหตุ​ฉะนั้น​อย่า​เป็น​คน​โง่‍เขลา แต่​จง​เข้า‍ใจ​น้ำ‍พระ‍ทัย​ของ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า​เป็น​อย่าง‍ไร

18. และ​อย่า​เมา​เหล้า‍องุ่น​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​เสีย​คน แต่​จง​ประ‌กอบ​ด้วย​พระ‍วิญ‌ญาณ

19. จง​ปรา‌ศรัย​กัน​ด้วย​เพลง​สดุดี เพลง​นมัส‌การ และ​เพลง​สรร‌เสริญ คือ​ร้อง‍เพลง​สรร‌เสริญ​และ​สดุดี​จาก​ใจ​ของ​ท่าน ถวาย​องค์​พระ‍ผู้‍เป็น​เจ้า

20. จง​ขอบ​พระ‍คุณ​พระ‍เจ้า​คือ​พระ‍บิดา​สำ‌หรับ​สิ่ง​สาร‌พัด​เสมอ ใน​พระ‍นาม​ของ​พระ‍เยซู‍คริสต‌เจ้า​ของ​เรา

21. จง​ยอม​ฟัง​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​เคา‌รพ​ใน​พระ‍คริสต์

บรร‌ดา​สามี​และ​ภรรยา

22. ฝ่าย​ภรรยา จง​ยอม​ฟัง​สามี​ของ​ตน เหมือน​ยอม​ฟัง​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า

23. เพราะ‍ว่า​สามี​เป็น​ศีรษะ​ของ​ภรรยา เหมือน​พระ‍คริสต์​ทรง​เป็น​ศีรษะ​ของ​คริสต‌จักร ซึ่ง​เป็น​พระ‍กาย​ของ​พระ‍องค์ และ​พระ‍องค์​ทรง​เป็น​พระ‍ผู้​ช่วย​ให้​รอด​ของ​คริสต‌จักร

24. คริสต‌จักร​ยอม​ฟัง​พระ‍คริสต์​ฉัน​ใด ภรรยา​ก็​ควร​ยอม​ฟัง​สามี​ทุก​ประ‌การ​ฉัน​นั้น

25. ฝ่าย​สามี​ก็​จง​รัก​ภรรยา​ของ​ตน เหมือน​อย่าง​ที่​พระ‍คริสต์​ทรง​รัก​คริสต‌จักร และ​ทรง​ประ‌ทาน​พระ‍องค์​เอง​เพื่อ​คริสต‌จักร

26. เพื่อ​จะ​ได้​ทรง​ทำ​ให้​คริสต‌จักร​บริ‌สุทธิ์ โดย​การ​ทรง​ชำระ​ด้วย​น้ำ​และ​พระ‍วจนะ

27. เพื่อ​พระ‍องค์​จะ​ได้​มี​คริสต‌จักร​ที่​มี​สง่า‍ราศี ไม่​มี​ตำ‌หนิ​ริ้ว‍รอย หรือ​มล‌ทิน​ใดๆ​เลย แต่​บริ‌สุทธิ์​ปราศ‍จาก​ตำ‌หนิ

28. เช่น‍นั้น​แหละ สามี​จึง​ควร​จะ​รัก​ภรรยา​ของ​ตน​เหมือน​กับ​รัก​กาย​ของ​ตน​เอง ผู้​ที่​รัก​ภรรยา​ของ​ตน​ก็​รัก​ตน​เอง

29. เพราะ‍ว่า​ไม่​มี​ผู้​ใด​เกลียด‍ชัง​เนื้อ‍หนัง​ของ​ตน​เอง มี​แต่​เลี้ยง‍ดู​และ​ทนุ‍ถนอม เหมือน​พระ‍คริสต์​ทรง​กระ‌ทำ​แก่​คริสต‌จักร

30. เพราะ‍ว่า​เรา​เป็น​อวัยวะ​แห่ง​พระ‍กาย​ของ​พระ‍องค์

31. เพราะ​เหตุ​นี้ ผู้‍ชาย​จึง​จะ​ละ​บิดา​มารดา​ของ​ตน ไป​ผูก‍พัน​อยู่​กับ​ภรรยา และ​เขา​ทั้ง‍สอง​จะ​เป็น​เนื้อ​อัน​เดียว​กัน

32. ความ‍จริง​ที่​ฝัง​อยู่​ใน​ข้อ‍นี้​สำ‌คัญ ส่วน​ข้าพ‌เจ้า ข้าพ‌เจ้า​เข้า‍ใจ​ว่า​หมาย​ถึง​พระ‍คริสต์​และ​คริสต‌จักร

33. ถึง​อย่าง‍ไร​ก็​ดี ท่าน​ทุก‍คน​จง​ต่าง​ก็​รัก​ภรรยา​ของ​ตน​เหมือน​รัก​ตน​เอง และ​ภรรยา​ก็​จง​ยำ‌เกรง​สามี​ของ​ตน