บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ลูกา 7 ฉบับ1971 (TH1971)

ทรง​รัก‌ษา​ทาส​ของ​นาย‍ร้อย

1. เมื่อ​พระ‍องค์​ตรัส​คำ​เหล่า​นั้น​ให้​คน​ทั้ง‍หลาย​ฟัง​เสร็จ​แล้ว พระ‍องค์​จึง​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​คา‌เปอร‌นา‌อุม

2. มี​ทาส​ของ​นาย‍ร้อย​คน‍หนึ่ง​ที่​นาย​รัก​มาก​ป่วย​เกือบ​จะ​ตาย​แล้ว

3. เมื่อ​นาย‍ร้อย​ได้​ยิน​ถึง​พระ‍เยซู จึง​ใช้​ผู้ใหญ่​บาง‍คน​ของ​พวก‍ยิว​ให้​ไป​อ้อน‍วอน เชิญ​พระ‍องค์​เสด็จ​มา​รัก‌ษา​ทาส​ของ​ตน

4. เมื่อ​เขา​เหล่า​นั้น​มา​ถึง​พระ‍เยซู​แล้ว เขา​ก็​อ้อน‍วอน​พระ‍องค์​ด้วย​ใจ​ร้อน‍รน​ว่า “นาย‍ร้อย​นั้น​เป็น​คน​สม‍ควร​ที่​พระ‍องค์​จะ​กระ‌ทำ​การ​นั้น​ให้​ท่าน

5. เพราะ‍ว่า​ท่าน​รัก​ชน‍ชาติ​ของ​เรา และ​ท่าน​เอง​ได้​สร้าง​ธรรม‍ศาลา​ให้​เรา”

6. และ​พระ‍เยซู​จึง​เสด็จ​ไป​กับ​เขา เมื่อ​ไป​เกือบ​จะ​ถึง​ตึก​แล้ว นาย‍ร้อย​จึง​ใช้​เพื่อน‍ฝูง​ไป​หา​พระ‍องค์​ทูล​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า อย่า​ลำ‌บาก​เลย เพราะ‍ว่า​ข้า‍พระ‍องค์​เป็น​คน​ไม่​สม‍ควร​ที่​จะ​รับ​เสด็จ​พระ‍องค์​เข้า​ใต้​ชาย‍คา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์

7. เพราะ​เหตุ​นั้น​ข้า‍พระ‍องค์​จึง​คิด​เห็น​ว่า ไม่​สม‍ควร​ที่​ข้า‍พระ‍องค์​จะ​ไป​หา​พระ‍องค์​ด้วย แต่​ขอ​พระ‍องค์​ตรัส​สั่ง และ​บ่าว​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​จะ​หาย​โรค

8. ข้า‍พระ‍องค์​ทราบ​ดี เพราะ​เหตุ​ว่า​ข้า‍พระ‍องค์​อยู่​ใต้​วินัย​ทหาร แต่​ก็​ยัง​มี​ทหาร​อยู่​ใต้​บัง‍คับ​บัญ‌ชา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์ ข้า‍พระ‍องค์​จะ​บอก​แก่​คน‍นี้​ว่า ‘ไป’ เขา​ก็​ไป บอก​แก่​คน​นั้น​ว่า ‘มา’ เขา​ก็​มา บอก​บ่าว​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​ว่า ‘จง​ทำ​สิ่ง‍นี้’ เขา​ก็​ทำ”

9. เมื่อ​พระ‍เยซู​ทรง​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นั้น​แล้ว​ก็​ประ‌หลาด​พระ‍ทัย​ด้วย​คน‍นั้น จึง​ทรง​เหลียว‍หลัง​ตรัส​กับ​ประ‌ชา‍ชน​ที่​ตาม​พระ‍องค์​มา​ว่า “เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า แม้​ใน​พวก​อิส‌รา‌เอล เรา​ไม่​เคย​พบ​ศรัท‌ธา​มาก​เท่า‍นี้”

10. ฝ่าย​คน​ที่​รับ‍ใช้​มา​นั้น เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​ตึก​ก็​ได้​เห็น​ทาส​นั้น​หาย​เป็น​ปกติ​แล้ว

พระ‍เยซู​ทรง​เรียก​บุตร​แม่‍ม่าย ที่​นา‌อิน​ให้​เป็น​ขึ้น

11. ต่อ‍มา​พระ‍องค์​เสด็จ​ไป​ยัง​เมือง​หนึ่ง​ชื่อ​นา‌อิน เหล่า​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​กับ​คน​เป็น​อัน​มาก​ก็​ตาม​พระ‍องค์​ไป

12. เมื่อ​มา​ใกล้​ประ‌ตู​เมือง​นั้น ดู‍เถิด มี​คน​หาม​ศพ​ชาย‍หนุ่ม​คน‍หนึ่ง​มา เป็น​ลูก​คน​เดียว​ของ​แม่ และ​นาง​ก็​เป็น​หญิง‍ม่าย ชาว‍เมือง​เป็น​อัน​มาก​มา​กับ​หญิง​นั้น

13. เมื่อ​พระ‍องค์​ได้​ทรง​เห็น​มารดา​นั้น พระ‍องค์​ทรง​เมต‌ตา​กรุณา​เขา​และ​ตรัส​ว่า “อย่า​ร้อง‍ไห้”

14. แล้ว​พระ‍องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใกล้​ถูก​ต้อง​โลง คน​หาม​ศพ​นั้น​ก็​หยุด​ยืน​อยู่ พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ว่า “ชาย‍หนุ่ม​เอ๋ย เรา​สั่ง​เจ้า​ว่า ลุก​ขึ้น​เถิด”

15. คน​ที่​ตาย​นั้น​ก็​ลุก​นั่ง​เริ่ม​พูด พระ‍องค์​จึง​ทรง‍มอบ​ชาย‍หนุ่ม​ให้​แก่​มารดา​ของ​เขา

16. ฝ่าย​คน​ทั้ง‍ปวง​มี​ความ‍กลัว​และ​สรร‌เสริญ​พระ‍เจ้า​ว่า “ท่าน​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ใหญ่​ได้​เกิด​ขึ้น​ท่าม‍กลาง​เรา และ​พระ‍เจ้า​ได้​เสด็จ​มา​เยี่ยม​เยียน​ชน‍ชาติ​ของ​พระ‍องค์​แล้ว”

17. และ​กิตติ‍ศัพท์​ของ​พระ‍องค์​ได้​เลื่อง‍ลือ​ไป​ตลอด​ทั่ว​ยู‌เดีย และ​ทั่ว​แว่น‍แคว้น​ล้อม‍รอบ

ผู้​ส่ง​ข่าว​ของ​ยอห์น​ผู้​ให้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา

18. ฝ่าย​พวก‍ศิษย์​ของ​ยอห์น​ก็​ได้​เล่า​เหตุ‍การณ์​ทั้ง‍ปวง​นั้น​ให้​ท่าน​ฟัง

19. ยอห์น​จึง​เรียก​ศิษย์​ของ​ท่าน​สอง​คน​ใช้​เขา​ไป‍หา​พระ‍เป็น​เจ้า ทูล​ถาม​ว่า “ท่าน​เป็น​ผู้​ที่​จะ​มา​นั้น​หรือ หรือ​จะ​คอย​ผู้‍อื่น”

20. เมื่อ​คน​ทั้ง‍สอง​มา​ถึง​พระ‍องค์​แล้ว เขา​ทูล​ว่า “ยอห์น​ผู้​ให้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​ใช้​ข้าพ‌เจ้า​มา​หา​ท่าน​ให้​ถาม​ว่า ‘ท่าน​เป็น​ผู้​ที่​จะ​มา​นั้น​หรือ หรือ​จะ​ต้อง​คอย​ผู้‍อื่น’ ”

21. ใน​เวลา​นั้น พระ‍องค์​ได้​ทรง​รัก‌ษา​คน​เจ็บ​เป็น​อัน​มาก​ให้​หาย​จาก​ความ​เจ็บ​และ​โรค​ต่างๆ และ​ให้​พ้น​จาก​ผี‍ร้าย และ​คน​ตา‍บอด​หลาย‍คน​พระ‍องค์​ได้​ทรง​รัก‌ษา​ให้​เห็น​ได้

22. แล้ว​พระ‍องค์​ตรัส​ตอบ​ศิษย์​สอง​คน​นั้น​ว่า “จง​ไป​แจ้ง​แก่​ยอห์น​ตาม​ซึ่ง​ท่าน​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน คือ​ว่า​คน​ตา‍บอด​ก็​หาย​บอด คน‍ง่อย​เดิน​ได้ คน​โรค‍เรื้อน​หาย​สะอาด คน​หู‍หนวก​ได้​ยิน คน​ตาย​แล้ว​เป็น​ขึ้น​มา และ​ข่าว‍ประ‌เสริฐ​ก็​ประ‌กาศ​แก่​คน​อนา‌ถา

23. บุค‌คล​ผู้​ใด​ไม่​เห็น​ว่า​เรา​เป็น​อุป‌สรรค​ผู้​นั้น​เป็น​สุข”

24. เมื่อ​ผู้​สื่อ‍ข่าว​ทั้ง‍สอง​ของ​ยอห์น​ไป​แล้ว พระ‍องค์​จึง​ตรัส​กับ​ประ‌ชา‍ชน​ถึง​ยอห์น​ว่า “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​ออก​ไป​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​เพื่อ​ดู​อะไร มิ‍ใช่​ดู​ต้น‍อ้อ​ไหว​โดย​ถูก​ลม​พัด​นะ

25. ถ้า​อย่าง​นั้น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​ไป​ดู​อะไร ดู​คน​นุ่ง‍ห่ม​ผ้า​เนื้อ​อ่อน​นิ่ม​หรือ ดู‍เถิด คน​นุ่ง‍ห่ม​ผ้า​งดงาม​และ​อยู่​อย่าง​ฟุ่ม‌เฟือย​ย่อม​อยู่​ใน​ราช‍สำ‌นัก

26. แต่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ออก​ไป​ดู​อะไร ดู​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​หรือ แน่​ที‍เดียว และ​เรา​บอก​ท่าน​ว่า ท่าน​นั้น​เป็น​ผู้​ประ‌เสริฐ​ยิ่ง‍กว่า​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​เสีย​อีก

27. คือ​ยอห์น​นี้​แหละ​ที่​พระ‍คัม‌ภีร์​กล่าว​ถึง​ว่า เรา​ใช้​ทูต​ของ​เรา​ไป​ข้าง‍หน้า​ท่าน ผู้‍นั้น​จะ​เตรียม​มรร‌คา​ของ​ท่าน​ไว้​ข้าง‍หน้า​ท่าน

28. เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ใน​บรร‌ดา​คน​ที่​บัง‍เกิด​จาก​ผู้หญิง​มา​นั้น ไม่‍มี​ผู้​ใด​ใหญ่‍กว่า​ยอห์น แต่​ว่า​ผู้​ที่​ต่ำ‍ต้อย​ที่​สุด​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า​ก็​ใหญ่‍กว่า​ยอห์น​เสีย​อีก”

29. (ฝ่าย​คน​ทั้ง‍ปวง​เมื่อ​ได้​ยิน​รวม​ทั้ง​พวก​เก็บ​ภาษี​ด้วย​ก็​ได้​รับ​ว่า​พระ‍เจ้า​ยุติ‍ธรรม โดย​ที่​เขา​ได้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​ของ​ยอห์น​แล้ว

30. แต่​พวก​ฟา‌ริสี​และ​พวก​บา‌เรียน​ไม่​ยอม​รับ​พระ‍ประ‌สงค์​ของ​พระ‍เจ้า​สำ‌หรับ​เขา โดย​ที่​มิ​ได้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​จาก​ยอห์น)

31. “เหตุ​ฉะนั้น​เรา​จะ​เปรียบ​คน​ยุค‍นี้​เหมือน​กับ​อะไร​ดี

32. เปรียบ​เหมือน​เด็ก​นั่ง​ที่​กลาง​ตลาด ร้อง​แก่​เพื่อน​ว่า‘พวก‍ฉัน​ได้​เป่า​ปี่​ให้​พวก​เธอ และ​เธอ​มิ​ได้​เต้น‍รำพวก‍ฉัน​ได้​พิลาป‍ร่ำ‍ไห้ และ​พวก​เธอ​มิ​ได้​ตี‍อก​ชก‍หัว’

33. ด้วย​ว่า​ยอห์น​ผู้​ให้​รับ​บัพ‌ติศ‌มา​ก็​ไม่​ได้​รับ‍ประ‌ทาน​ขนม‍ปัง​หรือ​ดื่ม​เหล้า‍องุ่น และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ‘มี​ผี​เข้า​สิง​อยู่’

34. ฝ่าย​บุตร‍มนุษย์​มา​ทั้ง​กิน​และ​ดื่ม และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ‘ดู‍เถิด นี่​เป็น​คน​กิน​เติบ​และ​ขี้‍เมา เป็น​มิตร‍สหาย​กับ​คน​เก็บ​ภาษี​และ​คน​นอก​รีต’

35. แต่​พระ‍ปัญ‌ญา​ก็​ปรา‌กฏ​ว่า​ชอบ​แล้ว โดยบรร‌ดา​ผล​แห่ง8พระ‍ปัญ‌ญา​นั้น”

พระ‍เยซู​ใน​บ้าน​ของ​ซีโมน​พวก​ฟา‌ริสี

36. มี​คน‍หนึ่ง​ใน​พวก​ฟา‌ริสี​เชิญ​พระ‍องค์​ไป​เสวย​พระ‍กระ‌ยา‌หาร​กับ​เขา พระ‍องค์​ก็​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เรือน​ของ​คน​ฟา‌ริสี​คน​นั้น แล้ว​เอน​พระ‍กาย​ลง

37. และ​ดู‍เถิด มี​ผู้หญิง​คน‍หนึ่ง​ของ​เมือง​นั้น​เคย​เป็น​หญิง​ชั่ว เมื่อ​รู้​ว่า​พระ‍องค์​ทรง​เอน​พระ‍กาย​เสวย​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​คน​ฟา‌ริสี​นั้น นาง​จึง​ถือ​ผอบ​น้ำ‍มัน​หอม

38. มา​ยืน​อยู่​ข้าง‍หลัง​ใกล้​พระ‍บาท​ของ​พระ‍องค์ ร้อง‍ไห้​น้ำ‍ตา​ไหล​เปียก​พระ‍บาท เอา​ผม​เช็ด จุบ​พระ‍บาท​ของ​พระ‍องค์​มาก และ​เอา​น้ำ‍มัน​นั้น​ชโลม

39. ฝ่าย​คน​ฟา‌ริสี​ที่​ได้​เชิญ​พระ‍องค์ เมื่อ​เห็น​แล้ว​ก็​นึก​ใน​ใจ​ว่า “ถ้า​ท่าน​นี้​เป็น​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ก็​คง​จะ​รู้​ว่า หญิง​ผู้​นี้​ที่​ถูก​ต้อง​กาย​ของ​ท่าน​เป็น​ผู้​ใด​และ​เป็น​คน​อย่าง‍ไร เพราะ​นาง​เป็น​คน‍ชั่ว”

40. ฝ่าย​พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “ซีโมน​เอ๋ย เรา​มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​ท่าน​บ้าง” เขา​ทูล​ว่า “ท่าน​อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า เชิญ​พูด​ไป​เถิด”

41. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ว่า “เจ้า‍หนี้​คน‍หนึ่ง​มี​ลูก‍หนี้​สอง​คน คน​หนึ่ง​เป็น​หนี้​เงิน​ห้า​ร้อย​เหรียญ​เด‌นา‌ริ‌อัน อีก​คน‍หนึ่ง​เป็น​หนี้​เงิน​ห้า‍สิบ​เหรียญ

42. เมื่อ​เขา​ไม่​มี​อะไร​จะ​ใช้‍หนี้​แล้ว ท่าน​จึง​โปรด​ยก‍หนี้​ให้​เขา​ทั้ง‍สอง​คน ใน​สอง​คน​นั้น คน‍ไหน​จะ​รัก​นาย​มาก​กว่า”

43. ซีโมน​จึง​ทูล​ว่า “ข้าพ‌เจ้า​เห็น‍ว่า​คน​ที่​นาย​ได้​โปรด​ยก‍หนี้​ให้​มาก ก็​เป็น​คน​ที่​รัก​นาย​มาก” พระ‍องค์​จึง​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​คิด‍เห็น​ถูก​แล้ว”

44. พระ‍องค์​จึง​ทรง​เหลียว‍หลัง​ดู​ผู้หญิง​นั้น และ​ตรัส​แก่​ซีโมน​ว่า “ท่าน​เห็น​ผู้หญิง​นี้​หรือ เรา​ได้​เข้า​มา​ใน​บ้าน​ของ​ท่าน ท่าน​มิ​ได้​ให้​น้ำ​ล้าง​เท้า​ของ​เรา แต่​นาง​ได้​เอา​น้ำ‍ตา​ชำระ​เท้า​ของ​เรา​และ​ได้​เอา​ผม​ของ​ตน​เช็ด

45. ท่าน​มิ​ได้​จุบ​เรา แต่​ผู้หญิง​นี้​ตั้ง‍แต่​เรา​เข้า​มา มิ‍ได้​หยุด​จุบ​เท้า​ของ​เรา

46. ท่าน​มิ‍ได้​เอา​น้ำ‍มัน​ชโลม​ศีรษะ​ของ​เรา แต่​นาง​ได้​เอา​น้ำ‍มัน​หอม​ชโลม​เท้า​ของ​เรา

47. เหตุ​ฉะนั้น​เรา​บอก​ท่าน​ว่า ความ​ผิด‍บาป​ของ​นาง​ซึ่ง​มี​มาก​ได้​โปรด‍ยก​เสีย​แล้ว เพราะ​นาง​รัก​มาก แต่​ผู้​ที่​ได้​รับ​การ​ยก​โทษ​น้อย ผู้‍นั้น​ก็​รัก​น้อย”

48. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​แก่​นาง​ว่า “ความ​ผิด‍บาป​ของ​เจ้า​โปรด‍ยก​เสีย​แล้ว”

49. ฝ่าย​คน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เอน​กาย​อยู่​ด้วย​พูด​กัน​ว่า “คน‍นี้​เป็น​ใคร แม้​ความ​ผิด‍บาป​ก็​ยก​ให้​ได้”

50. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​แก่​ผู้หญิง​นั้น​ว่า “ความ‍เชื่อ​ของ​เจ้า​ได้​ทำ‍ให้​เจ้า​รอด จง​ไป​เป็น​สุข​เถิด”