พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

ยอห์น 19:10-30 ฉบับ1971 (TH1971)

10. ปีลาต​จึง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ท่าน​จะ​ไม่​พูด​กับ​เรา​หรือ ท่าน​ไม่​รู้​หรือ​ว่า​เรา​มี​อำ‌นาจ​ที่​จะ​ปล่อย​ท่าน และ​มี​อำ‌นาจ​ที่​จะ​ตรึง​ท่าน​ที่​กาง‌เขน​ได้”

11. พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​ท่าน​ว่า “ท่าน​จะ​มี​อำ‌นาจ​เหนือ​เรา​ไม่​ได้ นอก‍จาก​จะ​ประ‌ทาน​จาก​เบื้อง‍บน​ให้​แก่​ท่าน เหตุ​ฉะนั้น​ผู้​ที่​อา‌ยัด​เรา​ไว้​กับ​ท่าน จึง​มี​ความ​ผิด​มาก​กว่า​ท่าน”

12. ตั้ง‍แต่​นั้น​ไป ปีลาต​ก็​หา​โอ‌กาส​ที่​จะ​ปล่อย​พระ‍องค์ แต่​พวก‍ยิว​ร้อง​อึง​ว่า “ถ้า​ท่าน​ปล่อย​ชาย​คน​นี้ ท่าน​ก็​ไม่​ใช่​มิตร​ของ​ซีซาร์ ทุก‍คน​ที่​ตั้ง​ตัว​เป็น​กษัตริย์​ก็​เป็น​ปฏิ‌ปักษ์​ต่อ​ซีซาร์”

13. เมื่อ​ปีลาต​ได้​ยิน​ดัง​นั้น ท่าน​จึง​พา​พระ‍เยซู​ออก​มา แล้ว​นั่ง​บัล‌ลังก์​พิพาก‌ษา ณ ที่​เรียก‍ว่า ลาน‍ปู‍ศิลา ภา‌ษา​ฮีบรู​เรียก​ว่า​กับ‌บา‌ธา

14. วัน​นั้น​เป็น​วัน​เตรียม​ปัส‌กา เวลา​ประ‌มาณ​เที่ยง ท่าน​พูด​กับ​พวก‍ยิว​ว่า “นี่​คือ​กษัตริย์​ของ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย”

15. เขา​ทั้ง‍หลาย​ร้อง​อึง​ว่า “เอา​เขา​ไป​เสีย เอา​เขา​ไป​เสีย ตรึง​เขา​เสีย​ที่​กาง‌เขน” ปีลาต​พูด​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​จะ​ให้​เรา​ตรึง​กษัตริย์​ของ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​กาง‌เขน​หรือ” พวก​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​ตอบ​ว่า “เว้น​แต่​ซีซาร์​แล้ว​เรา​ไม่​มี​กษัตริย์”

16. แล้ว​ปีลาต​ก็​มอบ​พระ‍องค์​ให้​เขา​พา​ไป​ตรึง​ที่​กาง‌เขน

17. เขา​จึง​พา​พระ‍เยซู​ไป และ​พระ‍องค์​ทรง​แบก​กาง‌เขน​ของ​พระ‍องค์​ไป​ยัง​ที่​ซึ่ง​เรียก​ว่า กะโหลก​ศีรษะ ภา‌ษา​ฮีบรู​เรียก​ว่า กล‌โก‌ธา

18. ณ ที่‍นั้น​เขา​ตรึง​พระ‍องค์​ไว้​ที่​กาง‌เขน​กับ​คน​อีก​สอง​คน คน​ละ​ข้าง​และ​พระ‍เยซู​ทรง​อยู่​กลาง

19. ปีลาต​ให้​เขียน​ป้าย​ติด​ไว้​บน​กาง‌เขน​อ่าน​ว่า “เย‌ซู​ชาว​นา‌ซา‌เร็ธ​กษัตริย์​ของ​พวก‍ยิว”

20. พวก‍ยิว​เป็น​อัน​มาก​ได้​อ่าน​ป้าย​นี้ เพราะ​ที่​ซึ่ง​เขา​ตรึง​พระ‍เยซู​นั้น​อยู่​ใกล้​กับ​กรุง และ​ป้าย​นั้น​เขียน​ไว้​เป็น​ภา‌ษา​ฮีบรู ภา‌ษา​ลา‌ติน​และ​ภา‌ษา​กรีก

21. ฉะนั้น​พวก​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​ของ​พวก‍ยิว​จึง​เรียน​ปีลาต​ว่า “ขอ​อย่า​เขียน​ว่า ‘กษัตริย์​ของ​พวก‍ยิว’ แต่​ขอ​เขียน​ว่า ‘คน​นี้​บอก​ว่า เรา​เป็น​กษัตริย์​ของ​พวก‍ยิว’ ”

22. ปีลาต​ตอบ​ว่า “สิ่ง‍ใด​ที่​เรา​เขียน​แล้ว ก็​แล้ว​ไป”

23. ครั้น​พวก​ทหาร​ตรึง​พระ‍เยซู​ไว้​ที่​กาง‌เขน​แล้ว เขา​ทั้ง‍หลาย​ก็​เอา​ฉลอง‍พระ‍องค์​มา​แบ่ง​ออก​เป็น​สี่​ส่วน​ให้​ทหาร​คน​ละ​ส่วน เว้น​แต่​ฉลอง​พระ‍องค์​ชั้น​ใน ฉลอง​พระ‍องค์​ชั้น​ใน​นั้น​ไม่​มี​ตะเข็บ ทอ​ตั้ง‍แต่​บน​ตลอด​ล่าง

24. เหตุ​ฉะนั้น​เขา​จึง​ปรึก‌ษา​กัน​ว่า “เรา​อย่า​ฉีก​แบ่ง​กัน​เลย แต่​ให้​เรา​จับ​ฉลาก​กัน​จะ​ได้​รู้​ว่า​ใคร​จะ​ได้” ทั้ง‍นี้​เพื่อ​ให้​เป็น​จริง​ตาม​ข้อ​พระ‍ธรรม​ที่​ว่า “เสื้อ​ผ้า​ของ​ข้า‍พระ‍องค์ เขา​ก็​แบ่ง​กัน ส่วน​เสื้อ​ของ​ข้า‍พระ‍องค์ เขา​จับ​ฉลาก​กัน”

25. พวก​ทหาร​ได้​กระ‌ทำ​ดัง​นี้ ผู้​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาง‌เขน​ของ​พระ‍เยซู​นั้น มี​มารดา​ของ​พระ‍องค์​กับ​น้า‍สาว​ของ​พระ‍องค์ มา‌รีย์​ภรรยา​ของ​เคล‌โอ‌ปัส และ​มา‌รีย์​ชาว​มัก‌ดา‌ลา

26. เมื่อ​พระ‍เยซู​ทอด​พระ‍เนตร​เห็น​มารดา​ของ​พระ‍องค์ และ​สา‌วก​คน​ที่​พระ‍องค์​ทรง​รัก​ยืน​อยู่​ใกล้​พระ‍องค์ จึง​ตรัส​กับ​มารดา​ของ​พระ‍องค์​ว่า “หญิง​เอ๋ย จง​ดู​บุตร​ของ​ท่าน​เถิด”

27. แล้ว​พระ‍องค์​ตรัส​กับ​สา‌วก​คน​นั้น​ว่า “จง​ดู​มารดา​ของ​ท่าน​เถิด” ตั้ง‍แต่​เวลา​นั้น​มา​สา‌วก​คน​นั้น​ก็​รับ​มารดา​ของ​พระ‍องค์​มา​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ตน

28. หลัง‍จาก​นั้น พระ‍เยซู​ทรง​ทราบ​ว่า​ทุก​สิ่ง​สำ‌เร็จ​แล้ว เพื่อ​ให้​เป็น​จริง​ตาม​พระ‍ธรรม พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ว่า “เรา​กระ‌หาย​น้ำ”

29. มี​ภาชนะ​ใส่​น้ำ‍ส้ม‍องุ่น​วาง​อยู่​ที่​นั่น เขา​จึง​เอา​ฟอง‍น้ำ​ชุบ​น้ำ‍ส้ม‍องุ่น​ใส่​ปลาย​ไม้​หุสบ​ชู​ขึ้น​ให้​ถึง​พระ‍โอษฐ์​ของ​พระ‍องค์

30. เมื่อ​พระ‍เยซู​ทรง​รับ​น้ำ‍ส้ม‍องุ่น​แล้ว พระ‍องค์​ตรัส​ว่า “สำ‌เร็จ​แล้ว” และ​ทรง‍ก้ม​พระ‍เศียร​ลง​สิ้น​พระ‍ชนม์

อ่านบทที่สมบูรณ์ ยอห์น 19