บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มา‌ระ‌โก 9 ฉบับ1971 (TH1971)

1. พระ‍องค์​ยัง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “เรา​กล่าว​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ใน​พวก​ท่าน​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นี่ มี​บาง‍คน​ที่​ยัง​จะ​ไม่​รู้​รส​ความ​ตาย จน​กว่า​จะ​ได้​เห็น​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า​มา​ด้วย​ฤท‌ธา‌นุ‌ภาพ”

ทรง​จำ‌แลง​พระ‍กาย

2. ครั้น​ล่วง​ไป​ได้​หก​วัน​แล้ว พระ‍เยซู​ทรง‍พา​เป‌โตร ยา‌กอบ และ​ยอห์น​ขึ้น​ภูเขา​สูง​แต่​ลำ‌พัง แล้ว​พระ‍กาย​ของ​พระ‍องค์​ก็​เปลี่ยน​ไป​ต่อ‍หน้า​เขา

3. และ​ฉลอง‍พระ‍องค์​ก็​ขาว​เป็น​มัน​ระยับ จะ​หา​ช่าง​ฟอก‍ผ้า​ทั่ว​แผ่น‍ดิน​โลก​ฟอก​ให้​ขาว​อย่าง​นั้น​ก็​ไม่​ได้

4. แล้ว​เอ‌ลี‌ยาห์​กับ​โม‌เสส​ก็​ปรา‌กฏ​แก่​พวก​สา‌วก​เหล่า​นั้น และ​เฝ้า​สนทนา​กับ​พระ‍เยซู

5. ฝ่าย​เป‌โตร​ทูล​พระ‍เยซู​ว่า “พระ‍อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า ซึ่ง​เรา​อยู่​ที่​นี่​ก็​ดี ให้​พวก​ข้า‍พระ‍องค์​ทำ​เพิง​สาม​หลัง สำ‌หรับ​พระ‍องค์​หลัง​หนึ่ง สำ‌หรับ​โม‌เสส​หลัง​หนึ่ง สำ‌หรับ​เอ‌ลี‌ยาห์​หลัง​หนึ่ง”

6. ที่​เป‌โตร​พูด​อย่าง​นั้น​ก็​เพราะ​ไม่​รู้​จะ​ว่า​อย่าง‍ไร ด้วย​เขา​ทั้ง‍หลาย​กำ‌ลัง​กลัว​นัก

7. แล้ว​มี​เมฆ​มา​ปก‍คลุม​เขา​ไว้​และ​มี​พระ‍สุรเสียง​ออก‍มา​จาก​เมฆ​นั้น​ว่า “ท่าน​ผู้‍นี้​เป็น​บุตร​ที่‍รัก​ของ​เรา จง​เชื่อ​ฟัง​ท่าน​เถิด”

8. ทัน‍ใด​นั้น เมื่อ​สา‌วก​แล​ดู​รอบ​ก็​ไม่​เห็น​ผู้‍ใด เห็น​แต่​พระ‍เยซู​ทรง‍อยู่​กับเขา

9. เมื่อ​ลง​มา​จาก​ภูเขา พระ‍องค์​ตรัส​ห้าม​เหล่า​สา‌วก ไม่​ให้​นำ​สิ่ง​ที่​ได้​เห็น​นั้น​ไป​บอก​แก่​ผู้‍ใด​เลย จน‍กว่า​บุตร‍มนุษย์​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย

10. เหตุ‍การณ์​นั้น​เหล่า​สา‌วก​ก็​เก็บ​งำ​ไว้ แต่​ซัก​ถาม​กัน​ว่า ที่​ตรัส​ว่า​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​นั้น จะ​หมาย‍ความ​ว่า​อย่าง‍ไร

11. เขา​จึง​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ว่า “เหตุ​ไฉน​พวก​ธรร‌มา‌จารย์ จึง​ว่า​เอ‌ลี‌ยาห์​จะ​ต้อง​มา​ก่อน”

12. พระ‍องค์​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “เอ‌ลี‌ยาห์​ต้อง​มา​ก่อน​จริง​และ​ทำ​ให้​สิ่ง​ทั้ง‍ปวง​คืน​สู่​สภาพ​เดิม อนึ่ง​มี​คำ​เขียน​ไว้​อย่าง‍ไร​ถึง​บุตร‍มนุษย์​ว่า พระ‍องค์​จะ​ต้อง​ทน‍ทุกข์​เวท‌นา​หลาย​ประ‌การ และ​คน​จะ​ดู‍หมิ่น​ละ​ทิ้ง​พระ‍องค์​เสีย

13. แต่​เรา​บอก​แก่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า เอ‌ลี‌ยาห์​นั้น​ได้​มา​แล้ว และ​ซึ่ง​เขา​ใคร่​ทำ​แก่​ท่าน​อย่าง‍ไร เขา​ก็​ได้​กระ‌ทำ​แล้ว​ตาม​ที่​มี​คำ​เขียน​กล่าว​ไว้​ถึง​ท่าน”

พระ‍เยซู​ทรง​รัก‌ษา​เด็ก​ผี​เข้า

14. เมื่อ​พระ‍องค์​ได้​เสด็จ​มา​ยัง​เหล่า​สา‌วก ก็​เห็น​ประ‌ชา‍ชน​เป็น​อัน​มาก​อยู่​ล้อม‍รอบ​เขา และ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​กำ‌ลัง​ซัก‍ไซ้‍ไล่‍เลียง​เขา​อยู่

15. ใน​ทัน‍ใด​นั้น เมื่อ​ประ‌ชา‍ชน​เห็น​พระ‍องค์​ก็​ประ‌หลาด​ใจ​นัก จึง​วิ่ง​เข้า​มา​เคา‌รพ​พระ‍องค์

16. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ถาม​เขา​ทั้ง‍หลาย​ว่า “ท่าน​ซัก‍ไซ้‍ไล่‍เลียง​กับ​เขา​ด้วย​ข้อ‍ความ​อัน​ใด”

17. มี​คน‍หนึ่ง​ใน​หมู่​ประ‌ชา‍ชน​ทูล​ตอบ​พระ‍องค์​ว่า “อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า ข้าพ‌เจ้า​ได้​พา​บุตร‍ชาย​ของ​ข้าพ‌เจ้า​มา​หา​ท่าน​เพราะ​ผี‍ใบ้​เข้า​สิง

18. เด็ก​จะ​อยู่​ที่​ไหนๆ พอ​ผี​สำ‌แดง​มัน​ก็​ทำ​ให้​ล้ม​ชัก​ดิ้น​ไป มี​อา‌การ​น้ำ‍ลาย​ฟูม​ปาก​และ​ขบ‍เขี้ยว‍เคี้ยว‍ฟัน​แล้ว​ตัว‍แข็ง ข้าพ‌เจ้า​ได้​ขอ​เหล่า​สา‌วก​ของ​ท่าน​ให้​ขับ‍ผี​นั้น​ออก​เสีย แต่​เขา​ขับ​ให้​ออก​ไม่​ได้”

19. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​แก่​คน‍นั้น​ว่า “โอ คน​ใน​ยุค​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ เรา​จะ​ต้อง​อยู่​กับ​เจ้า​นาน​เท่า​ใด เรา​จะ​ต้อง​อด‍ทน​เพราะ​เจ้า​ไป​ถึง​ไหน จง​พา​เด็ก​นั้น​มา​หา​เรา​เถิด”

20. เขา​ก็​พา​เด็ก​นั้น​มา​หา​พระ‍องค์ และ​เมื่อ​เห็น​พระ‍องค์​แล้ว ใน​ทัน‍ใด​นั้น​ผี​นั้น​จึง​ทำ​ให้​เขา​ชัก ล้ม‍ลง​กลิ้ง​เกลือก​ที่​ดิน มี​น้ำ‍ลาย​ฟูม​ปาก

21. พระ‍องค์​จึง​ตรัส​ถาม​บิดา​นั้น​ว่า “เป็น​อย่าง​นี้​มา​นาน​สัก​เท่าไร” บิดา​ทูล​ตอบ​ว่า “ตั้ง‍แต่​เป็น​เด็ก​เล็กๆ​มา

22. และ​ผี​ก็​ทำ​ให้​เด็ก​ตก​ใน​ไฟ และ​ใน​น้ำ​บ่อยๆ หมาย​จะ​ฆ่า​เสีย​ให้​ตาย แต่​ถ้า​ท่าน​สา‌มารถ​ช่วย​ได้ ขอ​ท่าน​โปรด​กรุณา​เถิด”

23. พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​แก่​บิดา​นั้น​ว่า “ ‘ถ้า​ช่วย​ได้’ น่ะ​หรือ ใคร​เชื่อ​ก็​ทำ​ให้​ได้​ทุก​สิ่ง”

24. ใน​ทัน‍ใด​นั้น บิดา​ของ​เด็ก​ก็​ร้อง​ทูล​ว่า “ข้าพ‌เจ้า​เชื่อ ที่​ข้าพ‌เจ้า​ยัง​ขาด​ความ​เชื่อ​นั้น​ขอ​โปรด​ช่วย​ให้​เชื่อ​เถิด”

25. เมื่อ​พระ‍เยซู​ทรง​เห็น​ประ‌ชา‍ชน​กำ‌ลัง​วิ่ง​เข้า​มา พระ‍องค์​ตรัส​สำ‌ทับ​ผี​โส‌โครก​นั้น​ว่า “อ้าย​ผี‍ใบ้​หู‍หนวก เรา​สั่ง​เอ็ง​ให้​ออก‍จาก​เขา อย่า​ได้‍กลับ​เข้า​สิง​เขา​อีก​เลย”

26. ผี​นั้น​จึง​ร้อง​อื้อ‍อึง​ทำ​ให้​เด็ก​นั้น​ชัก​ดิ้น​เป็น​อัน​มาก แล้ว​ก็​ออก‍มา เด็ก​นั้น​ก็​แน่​นิ่ง​เหมือน​คน​ตาย จน​คน​ส่วน​มาก​ที่​นั่น​กล่าว​ว่า “เขา​ตาย​แล้ว”

27. แต่​พระ‍เยซู​ทรง​จับ​มือ​พยุง​เด็ก​นั้น เด็ก​นั้น​ก็​ยืน​ขึ้น

28. เมื่อ​พระ‍องค์​เสด็จ​เข้า​ใน​เรือน​แล้ว เหล่า​สา‌วก​มา​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​เป็น​ส่วน​ตัว​ว่า “เหตุ​ไฉน​พวก​ข้า‍พระ‍องค์​ขับ​ผี​นั้น​ออก​ไม่​ได้”

29. พระ‍องค์​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “ผี​อย่าง​นี้​จะ​ขับ​ให้‍ออก​ไม่​ได้​เลย เว้น​แต่​โดย​การ​อธิษ‌ฐาน​เท่านั้น”

พระ‍เยซู​ทรง​ทำ‌นาย​ถึง​มรณ‌กรรมของ​พระ‍องค์​อีก

30. พระ‍องค์​กับ​เหล่า​สา‌วก​จึง​ออก​ไป​จาก​ที่​นั่น ดำ‌เนิน​ไป​ใน​แคว้น​กา‌ลิลี แต่​พระ‍องค์​ไม่​ทรง​ประ‌สงค์​จะ​ให้​ผู้‍ใด​รู้

31. ด้วย‍ว่า​ตอน‍นี้​พระ‍องค์​ตรัส​พร่ำ​สอน​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​ว่า “บุตร‍มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​อา‌ยัด​ไว้​ใน​มือ​ของ​คน และ​เขา​จะ​ประ‌หาร​ชีวิต​ท่าน​เสีย เมื่อ​ฆ่า​แล้ว ใน​วัน​ที่‍สาม​ท่าน​จะ​เป็น​ขึ้น​มา​ใหม่”

32. แต่​ถ้อย‍คำ​นี้​เหล่า​สา‌วก​หา​เข้า‍ใจ​ไม่ ครั้น​จะ​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ก็​เกรง​ใจ

ผู้‍ใด​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด

33. พระ‍องค์​จึง​เสด็จ​มา​ยัง​เมือง​คา‌เปอร‌นา‌อุม และ​เมื่อ​เข้า​ไป​ใน​เรือน​แล้ว พระ‍องค์​ตรัส​ถาม​เหล่า​สา‌วก​ว่า “เมื่อ​มา​ตาม​ทาง​นั้น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​โต้‍แย้ง​กัน​ด้วย​ข้อ‍ความ​อัน​ใด”

34. เหล่า​สา‌วก​ก็​นิ่ง​อยู่ เพราะ​เมื่อ​มา​ตาม​ทาง​นั้น​เขา​ได้​เถียง​กัน​ว่า คน​ไหน​จะ​เป็น​ใหญ่‍กว่า​กัน

35. พระ‍เยซู​ได้​ประ‌ทับ​นั่ง แล้ว​ทรง​เรียก​สา‌วก​สิบ‍สอง​คน​นั้น​มา​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “ถ้า​ผู้‍ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​คน​ต้น ก็​ให้​ผู้‍นั้น​เป็น​คน​สุด‍ท้าย และ​เป็น​ผู้​รับ‍ใช้​ของ​คน​ทั้ง‍ปวง”

36. พระ‍องค์​จึง​ทรง​เอา​เด็ก​เล็กๆ​คน​หนึ่ง​มา ให้​ยืน​ท่าม‍กลาง​เหล่า​สา‌วก แล้ว​ทรง​อุ้ม​เด็ก​นั้น​ไว้ ตรัส​แก่​เหล่า​สา‌วก​ว่า

37. “ถ้า​ผู้‍ใด​จะ​รับ​เด็ก​เล็กๆ​เช่น​นี้​คน​หนึ่ง​ใน‍นาม​ของ​เรา ผู้‍นั้น​ก็​รับ​เรา และ​ผู้‍ใด​ได้​รับ​เรา ผู้‍นั้น​ก็​รับ​มิ​ใช่​แต่​เรา​ผู้‍เดียว แต่​รับ​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​ด้วย”

ผู้​ที่​มิ‍ได้​ต่อ‍สู้​เรา​ก็​อยู่​ฝ่าย​เรา

38. ยอห์น​จึง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “พระ‍อา‌จารย์​เจ้า​ข้า พวก​ข้า‍พระ‍องค์​ได้​เห็น​คน​หนึ่ง​ขับ​ผี​ออก​โดย​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์ และ​พวก​ข้า‍พระ‍องค์​ได้​ห้าม​เขา เพราะ​เขา​มิ​ได้​ตาม​เรา​มา”

39. พระ‍เยซู​จึง​ตรัส​ว่า “อย่า​ห้าม​เขา​เลย เพราะ​ว่า​ไม่​มี​ผู้‍ใด​จะ​กระ‌ทำ​มห‌กิจ​ใน​นาม​ของ​เรา แล้ว​อีก​ประ‌เดี๋ยว​หนึ่ง​อาจ​กลับ​พูด​ประ‌ณาม​เรา

40. เพราะ​ผู้​ใด​ไม่​เป็น​ฝ่าย​ต่อ‍สู้​เรา ผู้​นั้น​เป็น​ฝ่าย​เรา​แล้ว

41. เพราะ​เรา​บอก​ความ‍จริง​แก่​ท่าน​ว่า ผู้​ใด​จะ​เอา​น้ำ​ถ้วย​หนึ่ง​ให้​พวก​ท่าน​ดื่ม เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​เป็น​ฝ่าย​พระ‍คริสต์ ผู้​นั้น​จะ​ขาด​บำ‌เหน็จ​ก็​หา​มิ‍ได้

การ​ทด‍ลอง​ให้​กระ‌ทำ​บาป

42. “แต่​ผู้‍ใด​จะ​ทำ​ผู้​เล็ก‍น้อย​เหล่า​นี้​คน‍หนึ่ง​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​ให้​หลง‍ผิด ถ้า​เอา​หิน​โม่​ก้อน​ใหญ่​ผูก‍คอ​ผู้‍นั้น​ถ่วง​เสีย​ใน​ทะเล​ก็​ดี‍กว่า

43. ถ้า​มือ​ของ​ท่าน​ทำ​ให้​หลง‍ผิด จง​ตัด​ทิ้ง​เสีย ซึ่ง​จะ​เข้า​ใน​ชีวิต​ด้วย​มือ‍ด้วน ยัง​ดี‍กว่า​มี​สอง​มือ​และ​ต้อง​ถูก​ทิ้ง​ใน​นรก​ใน​ไฟ​ที่​ไม่​รู้​ดับ

44. และ

45. ถ้า​เท้า​ของ​ท่าน​ทำ​ให้​หลง‍ผิด จง​ตัด​ทิ้ง​เสีย ซึ่ง​จะ​เข้า​ใน​ชีวิต​ด้วย​เท้า​ด้วน​ยัง​ดี‍กว่า​มี​เท้า​สอง​เท้า และ​ต้อง​ถูก​ทิ้ง​ใน​นรก13

47. ถ้า​ตา​ของ​ท่าน​ทำ​ให้​ท่าน​หลง‍ผิด จง​ควัก​ออก​ทิ้ง​เสีย ซึ่ง​จะ​เข้า​ใน​แผ่น‍ดิน​ของ​พระ‍เจ้า​ด้วย​ตา​ข้าง​เดียว​ยัง​ดี‍กว่า​มี​สอง​ตา และ​ต้อง​ถูก​ทิ้ง​ไป​ใน​นรก

48. ใน​ที่​นั้น​ตัว‍หนอน​ก็​ไม่​ตาย​และ​ไฟ​ก็​ไม่​ดับ​เลย

49. ด้วย‍ว่า​คน​ทั้ง‍ปวง​จะ​ต้อง​ถูก​เคล้า​เกลือ​แล้ว​ชำระ​ด้วย​ไฟ

50. เกลือ​เป็น​ของ​ดี แต่​ถ้า​เกลือ​หมด​รส​เค็ม​แล้ว จะ​ทำ‍ให้​กลับ​เค็ม​อีก​อย่าง‍ไร​ได้ ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​มี​เกลือ​ใน​ตัว​และ​จง​อยู่​สงบ‍สุข สา‌มัคคี​ซึ่ง​กัน​และ​กัน”