บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มัท‌ธิว 25 ฉบับ1971 (TH1971)

คำ​อุป‌มา​เรื่อง​สาว​พรหม‌จารี​สิบ​คน

1. “เมื่อ​ถึง​วัน​นั้น แผ่น‍ดิน​สวรรค์​จะ​เปรียบ​เหมือน หญิง​พรหม‌จารี​สิบ​คน​ถือ​ตะเกียง​ของ​ตน ออก​ไป​รับ​เจ้า‍บ่าว

2. เป็น​คน​โง่​ห้า​คน เป็น​หญิง​มี​ปัญ‌ญา​ห้า​คน

3. ฝ่าย​คน‍โง่​นั้น​เอา​ตะเกียง​ของ​ตน​ไป แต่​หา​ได้​เอา​น้ำ‍มัน​ไป​ด้วย​ไม่

4. คน​ที่​มี​ปัญ‌ญา​นั้น​ได้​เอา​น้ำ‍มัน​ใส่​กา​ไป​กับ​ตะเกียง​ของ​ตน​ด้วย

5. เมื่อ​เจ้า‍บ่าว​ยัง​ช้า​อยู่ ก็​พา​กัน​ง่วง​เหงา​และ​หลับ​ไป

6. ครั้น​เวลา​เที่ยง‍คืน​ก็​มี​เสียง​ร้อง​มา​ว่า ‘เจ้า‍บ่าว​มา​แล้ว จง​ออก‍มา​รับ​ท่าน​เถิด’

7. พวก​หญิง​พรหม‌จารี​เหล่า​นั้น​ก็​ลุก​ขึ้น​ตก‍แต่ง​ตะเกียง​ของ​ตน

8. พวก​ที่​โง่​นั้น​ก็​พูด​กับ​พวก‍ที่​มี​ปัญ‌ญา​ว่า ‘ขอ​แบ่ง​น้ำ‍มัน​ของ​ท่าน​ให้​เรา​บ้าง ตะเกียง​ของ​เรา​จวน​จะ​ดับ​อยู่​แล้ว’

9. พวก​ที่​มี​ปัญ‌ญา​จึง​ตอบ​ว่า ‘น่า‍กลัว​น้ำ‍มัน​จะ​ไม่‍พอ​สำ‌หรับ​เรา​และ​เจ้า จง​ไป​หา​คน‍ขาย ซื้อ​สำ‌หรับ​ตัว​เอง​จะ​ดี‍กว่า’

10. เมื่อ​กำ‌ลัง​ไป​ซื้อ​นั้น​เจ้า‍บ่าว​ก็​มา​ถึง ผู้​ที่​พร้อม​อยู่​แล้ว ก็​ได้​ไป​กับ​ท่าน​ใน​การ​เลี้ยง​เนื่อง​ใน​งาน‍สม‍รส​แล้ว​ประ‌ตู​ก็​ปิด

11. ภาย‍หลัง​หญิง​พรหม‌จารี​อีก​ห้า​คน ก็​มา​ร้อง​ว่า ‘ท่าน​เจ้า‍ข้าๆ ขอ​เปิด​ให้​ข้าพ‌เจ้า​เข้า​ไป​ด้วย’

12. ฝ่าย​ท่าน​ตอบ​ว่า ‘เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า เรา​ไม่​รู้‍จัก​ท่าน’

13. เหตุ​ฉะนั้น จง​เฝ้า​ระวัง​อยู่ เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ไม่​รู้​กำ‌หนด​วัน​หรือ​โมง​นั้น

คำ​อุป‌มา​เรื่อง​เงิน​ตะลันต์

14. “และ​ยัง​เปรียบ​เหมือน ชาย​ผู้‍หนึ่ง​จะ​ออก​เดิน‍ทาง​ไป จึง​เรียก​พวก​ทาส​ของ​ตน​มา​ฝาก​ทรัพย์​สม‌บัติ​ไว้

15. คน​หนึ่ง​ท่าน​ให้​ห้า​ตะลันต์ คน​หนึ่ง​สอง​ตะลันต์ และ​อีก​คน‍หนึ่ง​ตะลันต์​เดียว ตาม​ความ​สา‌มารถ​ของ​แต่​ละ​คน แล้ว​ท่าน​ก็​ไป

16. คน​ที่​ได้​รับ​ห้า​ตะลันต์​นั้น​ก็​เอา​เงิน​นั้น​ไป​ค้า‍ขาย​ทัน​ที ได้​กำ‌ไร​เท่า​ตัว

17. คน​ที่​ได้​รับ​สอง​ตะลันต์​นั้น​ก็​ได้​กำ‌ไร​เท่า​ตัว​เหมือน​กัน

18. แต่​คน​ที่​ได้​รับ​ตะลันต์​เดียว​ได้​ขุด​หลุม​ซ่อน​เงิน​ของ​นาย​ไว้

19. ครั้น​อยู่​มา​ช้า​นาน​นาย​จึง​มา​คิด​บัญ‌ชี​กับ​ทาส​เหล่า​นั้น

20. คน​ที่​ได้​รับ​ห้า​ตะลันต์​ก็​เอา​เงิน​กำ‌ไร​อีก​ห้า​ตะลันต์​มา​ชี้‍แจง​ว่า ‘นาย​เจ้า‍ข้า ท่าน​ได้​มอบ​เงิน​ห้า​ตะลันต์​ไว้​กับ​ข้าพ‌เจ้า ดู‍เถิด ข้าพ‌เจ้า​ได้​กำ‌ไร​มา​อีก​ห้า​ตะลันต์’

21. นาย​จึง​ตอบ​ว่า ‘ดี​แล้ว เจ้า​เป็น​ทาส​ดี​และ​สัตย์‍ซื่อ เจ้า​สัตย์‍ซื่อ​ใน​ของ​เล็ก‍น้อย เรา​จะ​ตั้ง​เจ้า​ให้​ดูแล​ของ​มาก เจ้า​จง​ปรีดี​ร่วม​สุข​กับ​นาย​ของ​เจ้า​เถิด’

22. คน​ที่​ได้​รับ​สอง​ตะลันต์​มา​ชี้‍แจง​ด้วย​ว่า ‘นาย​เจ้า‍ข้า ท่าน​ได้​มอบ​เงิน​สอง​ตะลันต์​ไว้​กับ​ข้าพ‌เจ้า ดู‍เถิด ข้าพ‌เจ้า​ได้​กำ‌ไร​มา​อีก​สอง​ตะลันต์’

23. นาย​จึง​ตอบ​ว่า ‘ดี​แล้ว เจ้า​เป็น​ทาส​ดี​และ​สัตย์‍ซื่อ เจ้า​สัตย์‍ซื่อ​ใน​ของ​เล็ก‍น้อย เรา​จะ​ตั้ง​เจ้า​ให้​ดูแล​ของ​มาก เจ้า​จง​ปรีดี​ร่วม​สุข​กับ​นาย​ของ​เจ้า​เถิด’

24. ฝ่าย​คน​ที่​ได้​รับ​ตะลันต์​เดียว​มา​ชี้‍แจง​ด้วย​ว่า ‘นาย​เจ้า‍ข้า ข้าพ‌เจ้า​รู้​อยู่​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​ใจ​แข็ง เกี่ยว​ผล​ที่​ท่าน​มิ​ได้​หว่าน เก็บ​ส่ำ‍สม​ที่​ท่าน​มิ​ได้​โปรย

25. ข้าพ‌เจ้า​กลัว​จึง​เอา​เงิน​ตะลันต์​ของ​ท่าน​ไป​ซ่อน​ไว้​ใต้​ดิน ดู‍เถิด นี่‍แหละ​เงิน​ของ​ท่าน’

26. นาย​จึง​ตอบ​ว่า ‘อ้าย‍ข้า​ชั่ว‍ช้า​และ​เกียจ‍คร้าน เจ้า​ก็​รู้​หรือ​ว่า​เรา​เกี่ยว​ที่​เรา​มิ‍ได้​หว่าน เก็บ​ส่ำ‍สม​ที่​เรา​มิ‍ได้​โปรย

27. เหตุ​ฉะนั้น​เจ้า​ควร​เอา​เงิน​ของ​เรา​ไป​ฝาก​ไว้​ที่​ธนา‌คาร เมื่อ​เรา​มา​จะ​ได้​รับ​เงิน​ของ​เรา​ทั้ง​ดอก‍เบี้ย​ด้วย

28. เพราะ​ฉะนั้น จง​เอา​เงิน​ตะลันต์​เดียว​นั้น​จาก​เขา​ไป​ให้​คน​ที่​มี​สิบ​ตะลันต์

29. ด้วย​ว่า​ผู้​ใด​มี​อยู่​แล้ว​จะ​เพิ่ม‍เติม​ให้​ผู้​นั้น​จน​มี​เหลือ​เฟือ แต่​ผู้​ที่​ไม่​มี แม้​ว่า​ซึ่ง​เขา​มี​อยู่​ก็​จะ​ต้อง​เอา​ไป​จาก​เขา

30. เอา​อ้าย‍ข้า​ชาติ​ชั่ว‍ช้า​ไป​ทิ้ง​เสีย​ที่​มืด​ภาย‍นอก ซึ่ง​ที่‍นั่น​จะ​มี​การ​ร้อง‍ไห้​ขบ‍เขี้ยว‍เคี้ยว‍ฟัน’

การ​พิพาก‌ษา​ประ‌ชา‍ชาติ​ทั้ง‍หลาย

31. “เมื่อ​บุตร‍มนุษย์​ทรง​พระ‍สิริ​เสด็จ​มา​กับ​ทั้ง​หมู่​ทูต‍สวรรค์ เมื่อ​นั้น​พระ‍องค์​จะ​ประ‌ทับ​บน​พระ‍ที่‍นั่ง​อัน​รุ่ง‍เรือง​ของ​พระ‍องค์

32. บรร‌ดา​ประ‌ชา‍ชาติ​ต่างๆ จะ​ประ‌ชุม​พร้อม​กัน​ต่อ​พระ‍พักตร์​พระ‍องค์ และ​พระ‍องค์​จะ​ทรง​แยก​มนุษย์​ทั้ง‍หลาย​ออก​เป็น​สอง​พวก เหมือน​อย่าง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​จะ​แยก​แกะ​ออก​จาก​แพะ

33. ส่วน​ฝูง​แกะ​นั้น​จะ​ทรง​จัด​ให้​อยู่​เบื้อง​ขวา​พระ‍หัตถ์​ของ​พระ‍องค์ แต่​ฝูง​แพะ​นั้น​จะ​ทรง​จัด​ให้​อยู่​เบื้อง​ซ้าย

34. ขณะ​นั้น พระ‍มหา‍กษัตริย์​จะ​ตรัส​แก่​บรร‌ดา​ผู้​ที่​อยู่​เบื้อง‍ขวา​พระ‍หัตถ์​ของ​พระ‍องค์​ว่า ‘ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​ได้​รับ​พระ‍พร​จาก​พระ‍บิดา​ของ​เรา จง​มา​รับ​เอา​ราช‍อา‌ณา‍จักร ซึ่ง​ได้​ตระ‌เตรียม​ไว้​สำ‌หรับ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ตั้ง‍แต่​แรก​สร้าง​โลก

35. เพราะ‍ว่า​เมื่อ​เรา​หิว ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ก็​ได้​จัด​หา​ให้​เรา​กิน เรา​กระ‌หาย​น้ำ ท่าน​ก็​ให้​เรา​ดื่ม เรา​เป็น​แขก​แปลก​หน้า ท่าน​ก็​ได้​ต้อน‍รับ​เรา​ไว้

36. เรา​เปลือย​กาย​ท่าน​ก็​ได้​ให้​เสื้อ‍ผ้า​เรา​นุ่ง‍ห่ม เมื่อ​เรา​เจ็บ​ป่วย​ท่าน​ก็​ได้​มา​เยี่ยม​เอา‍ใจ‍ใส่​เรา เมื่อ​เรา​ต้อง​จำ​อยู่​ใน​พันธ‌นา‌คาร ท่าน​ก็​ได้​มา​เยี่ยม​เรา’

37. เวลา​นั้น​บรร‌ดา​ผู้​ชอบ‍ธรรม​จะ​กราบ​ทูล​ว่า ‘พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า ที่​ข้า‍พระ‍องค์​เห็น​พระ‍องค์​ทรง‍หิว​หรือ​ทรง​กระ‌หาย​น้ำ และ​ได้​จัด​มา​ถวาย​แด่​พระ‍องค์​แต่​เมื่อ‍ไร

38. ที่​ข้า‍พระ‍องค์​ได้​เห็น​พระ‍องค์​ทรง​เป็น​แขก​แปลก​หน้า และ​ได้​ต้อน‍รับ​ไว้ หรือ​เปลือย​พระ‍กาย และ​ได้​สวม​ฉลอง​พระ‍องค์​ให้​แต่​เมื่อ‍ไร

39. ที่​ข้า‍พระ‍องค์​เห็น​พระ‍องค์​ประ‌ชวร​หรือ​ต้อง​จำ​อยู่​ใน​พันธ‌นา‌คาร และ​ได้​มา​เฝ้า​พระ‍องค์​นั้น​แต่​เมื่อ‍ไร’

40. แล้ว​พระ‍มหา‍กษัตริย์​จะ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า ‘เรา​บอก​ความ‍จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ซึ่ง​ท่าน​ได้​กระ‌ทำ​แก่​คน​ใด​คน‍หนึ่ง​ใน​พวก​พี่​น้อง​ของ​เรา​นี้ ถึง​แม้​จะ​ต่ำ‍ต้อย​เพียง‍ไร ก็​เหมือน​ได้​กระ‌ทำ​แก่​เรา​ด้วย’

41. พระ‍องค์​จะ​ตรัส​กับ​บรร‌ดา​ผู้​ที่​อยู่​เบื้อง​ซ้าย​พระ‍หัตถ์​ของ​พระ‍องค์​ว่า ‘ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ผู้​ต้อง​แช่ง​สาป​จง​ถอย​ไป​จาก​เรา เข้า​ไป​อยู่​ใน​ไฟ​ซึ่ง​ไหม้​อยู่​เป็น​นิตย์ ซึ่ง​เตรียม​ไว้​สำ‌หรับ​มาร​ร้าย​และ​สมุน​ของ​มัน​นั้น

42. เพราะ‍ว่า​เมื่อ​เรา​หิว​ท่าน​ก็​มิ​ได้​ให้​เรา​กิน เรา​กระ‌หาย​น้ำ​ท่าน​ก็​มิ​ได้​ให้​เรา​ดื่ม

43. เรา​เป็น​แขก​แปลก​หน้า ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ต้อน‍รับ​เรา​ไว้ เรา​เปลือย​กาย ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ให้​เสื้อ‍ผ้า​เรา​นุ่ง‍ห่ม เรา​เจ็บ​ป่วย​และ​ต้อง​จำ​อยู่​ใน​พันธ‌นา‌คาร ท่าน​ไม่​ได้​เยี่ยม​เรา’

44. เขา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ทูล​ว่า ‘พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า ที่​ข้า‍พระ‍องค์​ได้​เห็น​พระ‍องค์​ทรง‍หิว​หรือ​ทรง​กระ‌หาย​น้ำ หรือ​ทรง​เป็น​แขก​แปลก​หน้า​หรือ​เปลือย​พระ‍กาย หรือ​ประ‌ชวร หรือ​ต้อง‍จำ​อยู่​ใน​พันธ‌นา‌คาร และ​ข้า‍พระ‍องค์​มิ​ได้​ปรน‌นิบัติ​พระ‍องค์​นั้น​แต่​เมื่อ‍ไร’

45. เมื่อ​นั้น​พระ‍องค์​จะ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า ‘เรา​บอก​ความ‍จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ว่า ซึ่ง​ท่าน​มิ‍ได้​กระ‌ทำ​แก่​ผู้​ต่ำ‍ต้อย​ที่​สุด​สัก​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​นี้ ก็​เหมือน​ท่าน​มิ‍ได้​กระ‌ทำ​แก่​เรา​ด้วย’

46. และ​พวก​เหล่า‍นี้​จะ​ต้อง​ออก​ไป​รับ​โทษ​อยู่​เป็น​นิตย์ แต่​ผู้​ชอบ‍ธรรม​จะ​เข้า​สู่​ชีวิต​นิรันดร์”