บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มัท‌ธิว 22 ฉบับ1971 (TH1971)

คำ​อุป‌มา​เรื่อง​การ​เลี้ยง​เนื่อง​ใน​พิธี​อภิ‌เษก​มเห‌สี

1. พระ‍เยซู​ตรัส​แก่​เขา​เป็น​คำ​อุป‌มา​อีก​ว่า

2. “แผ่น‍ดิน​สวรรค์ อุป‌มา​เหมือน​กษัตริย์​องค์​หนึ่ง ได้​จัด​การ‍เลี้ยง​เนื่อง​ใน​พิธี​อภิ‌เษก​มเห‌สี​ให้​ราช‍โอ‌รส​ของ​ท่าน

3. แล้ว​ใช้​ข้า‍ราช‍การ​ไป​ตาม​ผู้​ที่​รับ‍เชิญ​ใน​การ‍นี้ แต่​เขา​ไม่​ใคร่​จะ​มา

4. ท่าน​ยัง​ใช้​ข้า‍ราช‍การ​อื่น​ไป​อีก รับ‍สั่ง​ให้​บอก​ผู้​รับ‍เชิญ​นั้น​ว่า ‘ดู‍เถิด เรา​ได้​จัด​การ​เลี้ยง​ไว้​แล้ว ทั้ง​วัว​และ​สัตว์‍ขุน​แล้ว​ของ​เรา​ก็​ฆ่า​ไว้​เสร็จ สิ่ง​สาร‌พัด​ก็​เตรียม​ไว้​พร้อม จง​มา​ใน​การ​อภิ‌เษก​นี้​เถิด’

5. แต่​เขา​ก็​เพิก‍เฉย​และ​ไป​เสีย บาง​คน​ไป​ไร่​นา​ของ​ตน บาง​คน​ก็​ไป​ทำ​การ​ค้า‍ขาย

6. ฝ่าย​พวก​นอก​นั้น​ก็​จับ​ข้า‍ราช‍การ​ทำ​การ​อัป‌ยศ​ต่างๆ แล้ว​ฆ่า​เสีย

7. กษัตริย์​องค์​นั้น​ก็​ทรง​พระ‍พิโรธ จึง​รับ‍สั่ง​ให้​ยก​กอง‍ทหาร​ไป​ปราบ‌ปราม​ฆาต‍กร​เหล่า​นั้น และ​ให้​เผา​เมือง​เขา​เสีย

8. แล้ว​ท่าน​จึง​รับ‍สั่ง​แก่​ข้า‍ราช‍การ​ว่า ‘งาน​สม‍รส​ก็​พร้อม​อยู่ แต่​ผู้​ถูก​เชิญ​นั้น​ไม่​สม​กับ​งาน

9. เหตุ​ฉะนั้น​จง​ออก​ไป​ตาม​ทาง​หลวง​พบ​ใครๆ ก็​ให้​เชิญ​มา​ใน​งาน​นี้’

10. พวก​ข้า‍ราช‍การ​จึง​ออก​ไป​เชิญ​คน​ทั้ง‍ปวง​ตาม‍ถนน แล้ว​แต่​จะ​พบ​ให้​มา​ทั้ง​ดี​และ​ชั่ว จน​ห้อง​โถง​งาน​สม‍รส​นั้น​เต็ม​ด้วย​แขก

11. “แต่​เมื่อ​กษัตริย์​องค์‍นั้น​เสด็จ​ทอด‍พระ‍เนตร​แขก ก็​เห็น​ผู้‍หนึ่ง​มิ​ได้​สวม​เสื้อ​สำ‌หรับ​งาน

12. จึง​รับ‍สั่ง​ถาม​ว่า ‘สหาย​เอ๋ย เหตุ​ไฉน​จึง​มา​ที่‍นี่​โดย​ไม่​สวม​เสื้อ​สำ‌หรับ​งาน​แต่ง‍งาน’ ผู้​นั้น​ก็​นิ่ง​อั้น​อยู่​พูด​ไม่‍ออก

13. กษัตริย์​จึง​รับ‍สั่ง​แก่​พวก​ข้า‍ราช‍การ​ว่า ‘จง​มัด​มือ​มัด​เท้า​คน‍นี้​เอา​ไป​ทิ้ง​เสีย​ที่​มืด​ภาย‍นอก อัน​เป็น​ที่​ที่​มี​การ​ร้อง‍ไห้​ขบ‍เขี้ยว‍เคี้ยว‍ฟัน’

14. ด้วย​ผู้​รับ‍เชิญ​ก็​มาก แต่​ผู้​ที่​ทรง​เลือก​ก็​น้อย”

การ​เสีย‍ส่วย​ให้​แก่​จักร‌พรรดิ​ซีซาร์

15. ขณะ​นั้น​พวก​ฟา‌ริสี​ไป​ปรึก‌ษา​กัน​วาง‍แผน​ว่า จะ​จับ‍ผิด​ใน​ถ้อย‍คำ​ของ​พระ‍องค์​ให้​ได้

16. จึง​ใช้​พวก‍ศิษย์​ของ​ตน​กับ​พวก​เฮ‌โรด​ให้​ไป​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า ข้าพ‌เจ้า​ทั้ง‍หลาย​ทราบ​อยู่​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​สัตย์‍ซื่อ ได้​สั่ง‍สอน​ทาง​ของ​พระ‍เจ้า​จริงๆ โดย​มิ‍ได้​เอา​ใจ​ผู้‍ใด เพราะ​ท่าน​มิ‍ได้​เห็น​แก่​หน้า​ผู้‍ใด

17. เหตุ​ฉะนั้น​ขอ​โปรด​ให้​พวก​ข้าพ‌เจ้า​ทราบ​ว่า​ท่าน​คิด​เห็น​อย่าง‍ไร การ​ที่​จะ​ส่ง‍ส่วย​ให้​แก่​จักร‌พรรดิ​ซีซาร์​นั้น ควร​หรือ​ไม่”

18. พระ‍เยซู​ทรง‍ทราบ​เจต‌นา​ร้าย​ของ​เขา​จึง​ตรัส​ว่า “โอ คน​หน้า‍ซื่อ‍ใจ‍คด มา​จับ​ผิด​เรา​ทำไม

19. จง​เอา​เงิน​ที่​จะ​เสีย​ส่วย​นั้น​มา​ให้​เรา​ดู​ก่อน” เขา​จึง​เอา​เด‌นา‌ริ‌อัน​เหรียญ​หนึ่ง​ถวาย​พระ‍องค์

20. พระ‍องค์​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า “รูป​และ​คำ​จา‌รึก​นี้​เป็น​ของ​ใคร”

21. เขา​ทูล​ว่า “ของ​ซีซาร์” แล้ว​พระ‍องค์​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น ของ​ของ​ซีซาร์​จง​ถวาย​แก่​ซีซาร์ และ​ของ​ของ​พระ‍เจ้า​จง​ถวาย​แด่​พระ‍เจ้า”

22. คำ‍ตรัส​ตอบ​ของ​พระ‍องค์​นั้น พวก‍เขา​นึก​ไม่​ถึง จึง​พา​กัน​กลับ​ไป ละ​พระ‍องค์​ไว้

ปัญ‌หา​เรื่อง​การ​คืน‍ชีพ

23. ใน​วัน​นั้น มี​พวก​สะดูสี​มา​หา​พระ‍องค์ พวก​นี้​เป็น​ผู้​สอน​ว่า การ​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​ไม่​มี

24. เขา​จึง​ทูล​ถาม​พระ‍องค์​ว่า “อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า โม‌เสส​สั่ง​ว่า ‘ถ้า​ผู้​ใด​ตาย​ยัง​ไม่​มี​บุตร ก็​ให้​น้อง‍ชาย​รับ​พี่​สะใภ้​สืบ​ตระ‌กูล​ของ​พี่ชาย​ไว้’

25. ใน​พวก​เรา​มี​พี่​น้อง​ผู้‍ชาย​เจ็ด​คน พี่‍หัว‍ปี​มี​ภรรยา​แล้ว​ก็​ตาย เมื่อ​ยัง​ไม่​มี​บุตร​ก็​ละ​ภรรยา​ไว้​ให้​แก่​น้อง‍ชาย

26. ฝ่าย​คน​ที่​สอง​ที่​สาม​ก็​เช่น​เดียว​กัน จน​ถึง​คน​ที่​เจ็ด

27. ใน​ที่‍สุด​หญิง​นั้น​ก็​ตาย​ด้วย

28. เพราะ​ฉะนั้น​ใน​วัน​ที่​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย หญิง​นั้น​จะ​เป็น​ภรรยา​ของ​ผู้​ใด​ใน​เจ็ด​คน​นั้น ด้วย​นาง​ได้​เป็น​ภรรยา​ของ​ชาย​ทั้ง​เจ็ด​คน​แล้ว”

29. พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “พวก​ท่าน​ผิด​แล้ว เพราะ​ท่าน​ไม่​รู้​พระ‍คัม‌ภีร์​หรือ​ฤทธิ์‍เดช​ของ​พระ‍เจ้า

30. เมื่อ​มนุษย์​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​นั้น จะ​ไม่​มี​การ​สม‍รส​หรือ​ยก​ให้​เป็น​สามี​ภรรยา​กัน​อีก แต่​จะ​เป็น​เหมือน​ทูต​ใน​ฟ้า‍สวรรค์

31. แต่​เรื่อง​คน​ตาย​กลับ​ฟื้น​นั้น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ยัง​ไม่​ได้​อ่าน​หรือ ซึ่ง​พระ‍เจ้า​ได้​ตรัส​ไว้​กับ​พวก​ท่าน​ว่า

32. ‘เรา​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​อับ‌รา‌ฮัม พระ‍เจ้า​ของ​อิส‌อัค และ​พระ‍เจ้า​ของ​ยา‌โคบ’ พระ‍องค์​มิ​ได้​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน​ตาย แต่​ทรง​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​คน​เป็น”

33. ประ‌ชา‍ชน​ทั้ง‍ปวง​เมื่อ​ได้​ยิน​ก็​ประ‌หลาด​ใจ​ด้วย​คำ​สั่ง‍สอน​ของ​พระ‍องค์

พระ‍บัญ‌ญัติ​ข้อ​ใหญ่

34. ฝ่าย​พวก​ฟา‌ริสี เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​พระ‍องค์​ทรง​กระ‌ทำ​ให้​พวก​สะดูสี​นิ่ง​อั้น​อยู่ จึง​ประ‌ชุม​กัน

35. มี​บา‌เรียน​ผู้​หนึ่ง​ใน​พวก​เขา​ทด‍ลอง​ถาม​พระ‍องค์​ว่า

36. “อา‌จารย์​เจ้า‍ข้า ใน​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​นั้น​ข้อ​ใด​สำ‌คัญ​ที่‍สุด”

37. พระ‍เยซู​ทรง‍ตอบ​เขา​ว่า “จง​รัก​พระ‍องค์​ผู้​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​เจ้า​ด้วย​สุด​ใจ​สุด​จิต​ของ​เจ้า และ​ด้วย​สิ้น​สุด​ความ​คิด​ของ​เจ้า

38. นั่น​แหละ​เป็น​พระ‍บัญ‌ญัติ​ข้อ​ใหญ่ และ​ข้อ‍ต้น

39. ข้อ​ที่‍สอง​ก็​เหมือน​กัน คือ จง​รัก​เพื่อน‍บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง

40. ธรรม‍บัญ‌ญัติ​และ​คำ​ของ​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ทั้ง​สิ้น ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​พระ‍บัญ‌ญัติ​สอง​ข้อ​นี้”

ปัญ‌หา​เรื่อง​บุตร​ของ​ดา‌วิด

41. เมื่อ​พวก​ฟา‌ริสี ยัง​ประ‌ชุม​อยู่​ที่​นั่น พระ‍เยซู​ทรง‍ถาม​ว่า

42. “พวก​ท่าน​คิด​อย่าง‍ไร​ด้วย​เรื่อง​พระ‍คริสต์​พระ‍องค์​ทรง​เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ผู้​ใด” เขา​ตอบ​ว่า “เป็น​เชื้อ‍สาย​ของ​ดา‌วิด”

43. พระ‍องค์​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​เป็น​ไฉน​ดา‌วิด โดย​เดช​พระ‍วิญ‌ญาณ​จึง​ได้​เรียก​พระ‍องค์​ว่า องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​และ​รับ‍สั่ง​ว่า

44. พระ‍เจ้า​ตรัส​กับ​องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า​ของ​ข้าพ‌เจ้า​ว่า ‘จง​นั่ง​ที่​ขวา​มือ​ของ​เรา จน‍กว่า​เรา​จะ​ปราบ​ศัตรู​ของ​ท่าน​ให้​อยู่​ใต้​เท้า​ของ​ท่าน’

45. ถ้า​ดา‌วิด​ทรง​เรียก​ท่าน​ว่า องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า ท่าน​จะ​เป็น​เพียง​เชื้อ‍สาย​ของ​ดา‌วิด อย่าง‍ไร​ได้”

46. ไม่‍มี​ผู้‍หนึ่ง​ผู้​ใด อาจ​ที่​จะ​ตอบ​พระ‍องค์​สัก​คำ​หนึ่ง ตั้ง‍แต่​วัน​นั้น​มา ไม่‍มี​ใคร​กล้า​ซัก‍ถาม​พระ‍องค์​ต่อ‍ไป