บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

มัท‌ธิว 20 ฉบับ1971 (TH1971)

คน​ทำ‍งาน​ใน​สวน‍องุ่น

1. “ด้วย​แผ่น‍ดิน​สวรรค์​อุป‌มา​เหมือน เจ้า​ของ​สวน​คน​หนึ่ง ออก​ไป​จ้าง​คน​ทำ‍งาน​ใน​สวน​องุ่น​ของ​ตน​แต่​เวลา​เช้า‍ตรู่

2. ครั้น​ตก‍ลง​กับ​ลูก‍จ้าง​วัน​ละ​เด‌นา‌ริ‌อัน​แล้ว จึง​ใช้​ให้​ไป​ทำ‍งาน​ใน​สวน​องุ่น

3. พอ​เวลา​ประ‌มาณ​สาม​โมง​เช้า เจ้า‍ของ​สวน​ก็​ออก​ไป​อีก เห็น​คน​อื่น​ยืน​อยู่​เปล่าๆ​กลาง​ตลาด

4. จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า ‘ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จง​ไป​ทำ‍งาน​ใน​สวน‍องุ่น​ด้วย​เถิด เรา​จะ​ให้​ค่า‍จ้าง​แก่​พวก‍ท่าน​ตาม​สม‍ควร’ แล้ว​เขา​ก็​พา​กัน​ไป

5. พอ​เวลา​เที่ยง‍วัน และ​เวลา​บ่าย​สาม​โมง เจ้า‍ของ​สวน​ก็​ออก​ไป​อีก ทำ​เหมือน​ก่อน

6. ประ‌มาณ​บ่าย​ห้า​โมง​ก็​ออก​ไป​อีก​ครั้ง‍หนึ่ง พบ​อีก​พวก‍หนึ่ง​ยืน​อยู่ จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า ‘พวก‍ท่าน​ยืน​อยู่​ที่​นี่​เปล่าๆ​วัน​ยัง​ค่ำ​ทำไม’

7. เขา​ตอบ​ว่า ‘เพราะ​ไม่‍มี​ใคร​จ้าง​พวก​ข้าพ‌เจ้า’ เจ้า‍ของ​สวน​บอก​ว่า ‘ท่าน​ทั้ง‍หลาย จง​ไป​ทำ‍งาน​ใน​สวน​องุ่น​ด้วย​เถิด’

8. ครั้น​ถึง​เวลา​พลบ‍ค่ำ เจ้า‍ของ​สวน​จึง​สั่ง​เจ้า‍พนัก‍งาน​ว่า ‘จง​เรียก​คน‍ทำ‍งาน​มา และ​ให้​ค่า‍จ้าง​แก่​เขา ตั้ง‍แต่​คน​มา​ทำ‍งาน​สุด‍ท้าย จน​ถึง​คน​ที่​มา​แรก’

9. คน​ที่​มา​ทำ‍งาน​เวลา​ประ‌มาณ​บ่าย​ห้า​โมง​นั้น ได้​ค่า‍จ้าง​คน​ละ​หนึ่ง​เด‌นา‌ริ‌อัน

10. ส่วน​คน​ที่​มา​แรก​นึก‍ว่า​เขา​คง​จะ​ได้​มาก​กว่า​นั้น แต่​ก็​ได้​คน​ละ​หนึ่ง​เด‌นา‌ริ‌อัน​เหมือน​กัน

11. เมื่อ​เขา​รับ​เงิน​ไป​แล้ว​ก็​บ่น​ต่อ‍ว่า​เจ้า‍ของ​สวน

12. ว่า ‘พวก​ที่​มา​สุด‍ท้าย​ได้​ทำ‍งาน​ชั่ว‍โมง​เดียว และ​ท่าน​ได้​ให้​ค่า‍จ้าง​แก่​เขา​เท่า​กัน​กับ​พวก​เรา​ที่​ทำ‍งาน​ตราก‌ตรำ​กลาง​แดด​ตลอด​วัน’

13. ฝ่าย​เจ้า‍ของ​สวน​ก็​ตอบ​แก่​คน‍หนึ่ง​ใน​พวก‍นั้น​ว่า ‘สหาย​เอ๋ย เรา​มิ‍ได้​โกง​ท่าน​เลย ท่าน​ได้​ตก‍ลง​กัน​แล้ว​วัน​ละ​หนึ่ง​เด‌นา‌ริ‌อัน มิ‍ใช่​หรือ

14. รับ​ค่า‍จ้าง​ของ​ท่าน​ไป​เถิด เรา​พอใจ​จะ​ให้​คน​ที่​มา​ทำ‍งาน​หลัง​ที่‍สุด​นั้น​เท่า​กัน​กับ​ท่าน

15. เรา​จะ​ใช้​เงิน​ทอง​ของ​เรา​ตาม​ใจ​ของ​เรา​เอง​ไม่​ได้​หรือ ทำไม​ท่าน​อิจ‌ฉา​เมื่อ​เห็น​เรา​ใจ‍ดี’

16. อย่าง​นั้น​แหละ คน​ที่​เป็น​คน​สุด‍ท้าย​จะ​กลับ​เป็น​คน‍ต้น และ​คน​ที่​เป็น​คน‍ต้น​จะ​กลับ​เป็น​คน​สุด‍ท้าย”

พระ‍เยซู​ทรง​ทำ‌นาย​ถึง​มรณ‌กรรม​ของ​พระ‍องค์​ครั้ง​ที่‍สาม

17. เมื่อ​พระ‍เยซู​จะ​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม ก็​พา​เหล่า​สา‌วก​สิบ‍สอง​คน​ไป​แต่​ลำ‌พัง และ​ตรัส​กับ​เขา​ตาม​ทาง​ว่า

18. “เรา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม และ​เขา​จะ​มอบ​บุตร‍มนุษย์​ไว้​กับ​พวก​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​และ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์ และ​เขา​เหล่า​นั้น​จะ​ปรับ​โทษ​ท่าน​ถึง​ตาย

19. และ​จะ​มอบ​ท่าน​ไว้​กับ​คน​ต่าง​ชาติ​ให้​เยาะ​เย้ย​เฆี่ยน​ตี และ​ให้​ตรึง​ไว้​ที่​กาง‌เขน และ​วัน​ที่​สาม ท่าน​จึง​จะ​กลับ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใหม่”

คำ‍ทูล​ของ​ยา‌กอบ​และ​ยอห์น

20. ขณะ​นั้น​มารดา​ของ​บุตร​แห่ง​เศ‌เบดี พา​บุตร​ทั้ง‍สอง​มา​เฝ้า​พระ‍องค์​กราบ‍ไหว้​ทูล‍ขอ​สิ่ง‍หนึ่ง​จาก​พระ‍องค์

21. พระ‍องค์​จึง​ทรง‍ถาม​นาง​นั้น​ว่า “ท่าน​ปรารถ‌นา​อะไร” นาง​ทูล​ว่า “ขอ​พระ‍องค์​รับ‍สั่ง​ตั้ง​ให้​บุตร​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​สอง​คน​นี้ นั่ง​ใน​ราช‍อา‌ณา‍จักร​ของ​พระ‍องค์​เบื้อง​ขวา​พระ‍หัตถ์​คน​หนึ่ง เบื้อง​ซ้าย​คน​หนึ่ง”

22. แต่​พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ที่​ท่าน​ทั้ง‍สอง​ขอ​นั้น​ท่าน​ไม่​เข้า‍ใจ ถ้วย​ซึ่ง​เรา​จะ​ดื่ม​นั้น​ท่าน​จะ​ดื่ม​ได้​หรือ” เขา​ทูล​ว่า “ได้​พระ‍เจ้า‍ข้า”

23. พระ‍องค์​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ดื่ม​ถ้วย​ของ​เรา​เป็น​แน่ แต่​ซึ่ง​จะ​นั่ง​ข้าง‍ขวา​และ​ข้าง​ซ้าย​ของ​เรา​นั้น ไม่‍ใช่​พนัก‍งาน​ของ​เรา​ที่​จะ​จัด​ให้ แต่​พระ‍บิดา​ของ​เรา​ได้​ทรง​เตรียม​ไว้​สำ‌หรับ​ผู้‍ใด​ก็​จะ​ให้​แก่​ผู้‍นั้น”

24. เมื่อ​สา‌วก​สิบ​คน​นั้น​ได้​ยิน​แล้ว ก็​มี​ความ​ขุ่น‍เคือง​พี่‍น้อง​สอง​คน​นั้น

25. พระ‍เยซู​ทรง​เรียก​เขา​ทั้ง‍หลาย​มา​ตรัส​ว่า “ท่าน​ทั้ง‍หลาย​รู้​อยู่​ว่า​ผู้​ครอง​ของ​คน​ต่าง​ชาติ ย่อม​เป็น​เจ้า​เหนือ​เขา และ​ผู้ใหญ่​ทั้ง‍หลาย​ก็​ใช้​อำ‌นาจ​บัง‍คับ

26. แต่​ใน​พวก​ท่าน​หา​เป็น​อย่าง​นั้น​ไม่ ถ้า​ผู้‍ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​ใหญ่​ใน​พวก​ท่าน ผู้‍นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้​ปรน‌นิบัติ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย

27. ถ้า​ผู้‍ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น ผู้‍นั้น​จะ​ต้อง​เป็น​ทาส‍สมัคร​ของ​พวก​ท่าน

28. อย่าง​ที่​บุตร‍มนุษย์​มิ‍ได้​มา​เพื่อ​รับ​การ​ปรน‌นิบัติ แต่​ท่าน​มา​เพื่อ​จะ​ปรน‌นิบัติ​เขา และ​ประ‌ทาน​ชีวิต​ของ​ท่าน​ให้​เป็น​ค่า‍ไถ่​คน​เป็น​อัน​มาก”

คน​ตา‍บอด​สอง​คน​หาย​บอด

29. เมื่อ​พระ‍องค์​กับ​เหล่า​สา‌วก​ออก​ไป​จาก​เมือง​เย‌รี‌โค ฝูง‍ชน​เป็น​อัน​มาก​ก็​ตาม​พระ‍องค์​ไป

30. และ​นี่‍แน่ะ มี​คน​ตา‍บอด​สอง‍คน​นั่ง​อยู่​ริม​หน‍ทาง เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​พระ‍เยซู​เสด็จ จึง​ร้อง​ว่า “พระ‍องค์​ผู้​เป็น​บุตร‍ดา‌วิด​เจ้า‍ข้า ขอ​ทรง​พระ‍เมตตา​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด”

31. ฝ่าย​ประ‌ชา‍ชน​ก็​ห้าม​เขา​ให้​นิ่ง​เสีย แต่​เขา​ยิ่ง​ร้อง‍ขึ้น​อีก​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า พระ‍องค์​ผู้​ทรง​เป็น​บุตร‍ดา‌วิด ขอ​ทรง‍เมตตา​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด”

32. พระ‍เยซู​จึง​หยุด​ประ‌ทับ​ยืน​อยู่ เรียก​เขา​มา​และ​ตรัส​ว่า “ท่าน​ทั้ง​สอง​จะ​ใคร่​ให้​เรา​ทำ​อะไร​เพื่อ​ท่าน”

33. เขา​ทูล​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า ขอ​ให้​นัยน์ตา​ของ​ข้า‍พระ‍องค์​หาย​บอด”

34. พระ‍เยซู​มี​พระ‍ทัย​สง‌สาร ก็​ทรง​ถูก​ต้อง​นัยน์ตา​เขา ใน​ทัน‍ใด​นั้น​ตา​ของ​เขา​ก็​เห็น​ได้ และ​เขา​ทั้ง‍สอง​ได้​ติด‍ตาม​พระ‍องค์​ไป