บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

กิจ‍การ​ของ​อัคร‌ทูต 23 ฉบับ1971 (TH1971)

1. ฝ่าย​เปา‌โล​จึง​เพ่ง​ดู​พวก​สมา‌ชิก​สภา​แล้ว​กล่าว​ว่า “ดู‍ก่อน ท่าน​พี่‍น้อง​ทั้ง‍หลาย ข้าพ‌เจ้า​ได้​ประ‌พฤติ​ต่อ​พระ‍พักตร์​พระ‍เจ้า ล้วน​แต่​ตาม​ที่​จิต‍สำ‌นึก​เห็น​ว่า​ดี​จน​ถึง​ทุก​วัน‍นี้”

2. อา‌นา‌เนีย​ผู้​เป็น​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​ประ‌จำ‍การ​จึง​สั่ง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้​ให้​ตบ​ปาก​เปา‌โล

3. เปา‌โล​จึง​กล่าว​แก่​ท่าน​ว่า “พระ‍เจ้า​จะ​ทรง‍ตบ​เจ้า ผู้​เป็น​ผนัง​ที่​ฉาบ​ด้วย​ปูน‍ขาว เจ้า​นั่ง​พิพาก‌ษา​ข้า​ตาม​ธรรม‍บัญ‌ญัติ และ​ยัง​สั่ง​ให้​เขา​ตบ​ข้า​ซึ่ง​เป็น​การ​ผิด​ธรรม‍บัญ‌ญัติ​หรือ”

4. คน​ทั้ง‍หลาย​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นั่น​จึง​ถาม​ว่า “เจ้า​พูด​หยาบ‍คาย​ต่อ​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​ของ​พระ‍เจ้า​หรือ”

5. เปา‌โล​จึง​ตอบ​ว่า “พี่‍น้อง​ทั้ง‍หลาย ข้าพ‌เจ้า​ไม่‍ทราบ​ว่า​ท่าน​เป็น​มหา‍ปุ‌โร‌หิต ด้วย​มี​คำ‍เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า ‘อย่า​พูด​หยาบ‍ช้า​ต่อ​ผู้​ปก‍ครอง​พล‍เมือง’”

6. ครั้น​เปา‌โล​เห็น​ว่า ผู้​ที่​อยู่​ใน​ประ‌ชุม‍สภา​นั้น​เป็น​พวก​สะดูสี​ส่วน​หนึ่ง​และ​พวก​ฟา‌ริสี​ส่วน​หนึ่ง ท่าน​จึง​ร้อง​ขึ้น​ต่อ‍หน้า​ที่​ประ‌ชุม​ว่า “ดู‍ก่อน​ท่าน​พี่​น้อง​ทั้ง‍หลาย ข้าพ‌เจ้า​เป็น​พวก​ฟา‌ริสี และ​เป็น​บุตร​ของ​พวก​ฟา‌ริสี ที่​ข้าพ‌เจ้า​ถูก​พิจาร‌ณา​พิพาก‌ษา​นี้ ก็​เพราะ​เรื่อง​ความ‍หวัง​ว่า​มี​การ​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย”

7. เมื่อ​ท่าน​กล่าว​อย่าง​นั้น​แล้ว พวก​ฟา‌ริสี​กับ​พวก​สะดูสี​ก็​เกิด​เถียง​กัน​ขึ้น และ​ที่​ประ‌ชุม​ก็​แตก​เป็น​สอง​พวก

8. ด้วย​พวก​สะดูสี​ถือ‍ว่า​การ​ที่​เป็น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​นั้น​ไม่​มี และ​ทูต‍สวรรค์​หรือ​วิญ‌ญาณ​ก็​ไม่​มี แต่​พวก​ฟา‌ริสี​ถือ​ว่า​มี​ทั้ง​นั้น

9. แล้ว​ก็​อื้อ‍อึง​เกิด​โก‌ลา‌หล และ​พวก​ธรร‌มา‌จารย์​บาง‍คน​ที่​อยู่​ฝ่าย​พวก​ฟา‌ริสี​ก็​ลุก​ขึ้น​เถียง​ว่า “เรา​ไม่​เห็น​ว่า​คน​นี้​มี​ความ​ผิด​อะไร ถ้า​วิญ‌ญาณ​ก็​ดี​หรือ​ทูต‍สวรรค์​ก็​ดี​ได้​พูด​กับ​เขา ท่าน​จะ​ว่า​อะไร​เล่า”

10. เมื่อ​การ​โต้‍เถียง​กัน​รุน‍แรง​ขึ้น นาย‍พัน​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ยื้อ‍แย่ง​จับ​เปา‌โล​ฉีก​เสีย ท่าน​จึง​สั่ง​พวก​ทหาร​ให้​ลง​ไป​รับ​เปา‌โล​ออก‍จาก​หมู่​พวก​นั้น พา​เข้า​ไป​ไว้​ใน​กรม‍ทหาร

11. ใน​เวลา​กลาง‍คืน​วัน​นั้น​เอง องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง‍ยืน​อยู่​กับ​เปา‌โล​ตรัส​ว่า “เจ้า​จง​มี​ใจ‍กล้า​เถิด เพราะ‍ว่า​เจ้า​ได้​เป็น​พยาน​ฝ่าย​เรา​ใน​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม​ฉัน‍ใด เจ้า​จะ​ต้อง​เป็น​พยาน​ใน​กรุง​โรม​ฉัน‍นั้น”

การ​ปอง‍ร้าย​ต่อ​ชีวิต​ของ​เปา‌โล

12. ครั้น​เวลา​รุ่ง‍เช้า​พวก​ยิว​ได้​สม‍ทบ​กัน​สา‌บาน​ตัว​ว่า จะ​ไม่​กิน​จะ​ไม่​ดื่ม​อะไร​กว่า​จะ​ได้​ฆ่า​เปา‌โล​เสีย

13. คน​ที่​ร่วม​กัน​ปอง‍ร้าย​นั้น​มี​กว่า​สี่‍สิบ​คน

14. คน​เหล่า‍นั้น​จึง​ไป​หา​พวก​ปุโร‌หิต​กับ​พวก​ผู้ใหญ่​กล่าว​ว่า “พวก​ข้าพ‌เจ้า​ได้​สา‌บาน​ตัว​แข็ง‍แรง​ว่า จะ​ไม่​รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร​จน‍กว่า​จะ​ได้​ฆ่า​เปา‌โล​เสีย

15. ฉะนั้น​บัด‍นี้​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​กับ​พวก​สมา‌ชิก​สภา​จง​พูด​ให้​นาย‍พัน​เข้า‍ใจ​ว่า พวก​ท่าน​ต้อง‍การ​ให้​พา​เปา‌โล​ลง​มา​หา​ท่าน​ทั้ง‍หลาย เพื่อ​จะ​ได้​ซัก‍ถาม​ความ​ให้​ถ้วน‍ถี่​ยิ่ง‍กว่า​แต่​ก่อน ฝ่าย​พวก​ข้าพ‌เจ้า​จะ​ได้​เตรียม‍ตัว​ไว้​พร้อม​ที่​จะ​ฆ่า​เปา‌โล​เสีย เมื่อ​ยัง​ไม่​ทัน​จะ​มา​ถึง”

16. แต่​บุตร‍ชาย​ของ​น้อง‍สาว​เปา‌โล​ได้​ยิน​เรื่อง​ซึ่ง​เขา​คอย​ทำ‍ร้าย​นั้น จึง​เข้า​มา​ใน​กรม‍ทหาร​บอก​แก่​เปา‌โล

17. เปา‌โล​จึง​เรียก​นาย‍ร้อย​คน​หนึ่ง​มา​กล่าว​ว่า “ขอ​พา​ชาย‍หนุ่ม​คน‍นี้​ไป​หา​นาย‍พัน​ด้วย เพราะ​เขา​มี​เรื่อง​ที่​จะ​แจ้ง​ให้​ทราบ”

18. เหตุ​ฉะนั้น​นาย‍ร้อย​จึง​รับ​ตัว​ชาย‍หนุ่ม​คน​นั้น พา​ไป​หา​นาย‍พัน​กล่าว​แก่​ท่าน​ว่า “เปา‌โล​ผู้​ถูก​ขัง​อยู่​นั้น​เรียก​ข้าพ‌เจ้า ขอ​ให้​พา​ชาย‍หนุ่ม​คน​นี้​มา​หา​ท่าน เพราะ​เขา​มี​เรื่อง​ที่​จะ​แจ้ง​ให้​ท่าน​ทราบ”

19. นาย‍พัน​จึง​จูง​มือ​ชาย​นั้น​ไป​แต่​ลำ‌พัง แล้ว​ถาม​ว่า “เจ้า​จะ​แจ้ง‍ความ​อะไร​แก่​เรา”

20. เขา​จึง​ตอบ​ว่า “พวก​ยิว​ตก‍ลง​กัน​จะ​ขอ​ท่าน​ให้​พา​เปา‌โล​ลง​ไป​ยัง​สภา​เวลา​พรุ่ง‍นี้ ทำ​เสมือน​ว่า​จะ​ไต่‍สวน​เรื่อง​เขา​ให้​ละเอียด​ยิ่ง‍กว่า​ก่อน

21. เพราะ​ฉะนั้น​ท่าน​อย่า​ฟัง​เขา เพราะ‍ว่า​ใน​พวก​เขา​นั้น​มี​กว่า​สี่‍สิบ​คน​คอย​ปอง‍ร้าย​ต่อ​เปา‌โล และ​ได้​สา‌บาน​ตัว​ว่า จะ​ไม่​กิน​หรือ​ดื่ม​อะไร จน‍กว่า​จะ​ได้​ฆ่า​เปา‌โล​เสีย และ​เดี๋ยว‍นี้​เขา​พร้อม​แล้ว กำ‌ลัง​คอย​รับ​คำ​อนุ‌ญาต​จาก​ท่าน”

22. นาย‍พัน​จึง​ให้​ชาย‍หนุ่ม​นั้น​ไป กำ‌ชับ​ว่า “อย่า​บอก​ผู้​ใด​ให้​รู้​ว่า เจ้า​ได้​แจ้ง‍ความ​เรื่อง​นี้​แก่​เรา”

เขา​ส่ง​เปา‌โล​ไป​ให้​เฟ‌ลิกส์​เจ้า‍เมือง

23. ฝ่าย​นาย‍พัน​จึง​เรียก​นาย‍ร้อย​สอง​คน​มา​สั่ง​ว่า “จง​จัด​พล‍ทหาร​สอง‍ร้อย​กับ​ทหาร‍ม้า​เจ็ด​สิบ​คน และ​ทหาร‍หอก​สอง‍ร้อย ให้​พร้อม​ใน​เวลา​สาม‍ทุ่ม​คืน​วัน‍นี้ จะ​ไป​ยัง​เมือง​ซี‌ซา‌รี‌ยา

24. และ​จง​จัด​สัตว์​ให้​เปา‌โล​ขี่ จะ​ได้​ป้อง‍กัน​ส่ง​ไป​ยัง​เฟ‌ลิกส์ ผู้‍ว่า​ราช‍การ​เมือง”

25. แล้ว​นาย‍พัน​จึง​เขียน​จด‍หมาย​มี​ใจ‍ความ​ดัง​ต่อ‍ไป​นี้

26. “คลาว‌ดิ‌อัส‌ลี‌เซียส​เรียน​เจ้า‍คุณ​เฟ‌ลิกส์ ท่าน​ผู้‍ว่า​ราช‍การ​ทราบ

27. พวก​ยิว​ได้​จับ​คน‍นี้​ไว้ และ​เกือบ​จะ​ฆ่า​เขา​เสีย​แล้ว แต่​ข้าพ‌เจ้า​พา​พวก​ทหาร​ไป​ช่วย​เขา​ไว้​ได้ ด้วย​ข้าพ‌เจ้า​ได้​ยิน​ว่า​เขา​เป็น​คน​สัญ‌ชาติ​โรม

28. ข้าพ‌เจ้า​อยาก​จะ​ทราบ​เหตุ​ที่​พวก​ยิว​ฟ้อง​เขา ข้าพ‌เจ้า​จึง​พา​เขา​ไป​ยัง​สภา​ของ​พวก​ยิว

29. ข้าพ‌เจ้า​เห็น​ว่า​เขา​ถูก​ฟ้อง​ใน​เรื่อง​อัน​เกี่ยว‍กับ​บท​บัญ‌ญัติ​ของ​พวก​ยิว แต่​ไม่​มี​ข้อ‍หา​ที่​เขา​ควร​จะ​ตาย​หรือ​ควร​จะ​ต้อง​จำ​ไว้

30. เมื่อ​ข้าพ‌เจ้า​ทราบ​ว่า​มี​การ​ปอง‍ร้าย​คน‍นี้ ข้าพ‌เจ้า​จึง​ส่ง​เขา​มา​หา​ท่าน​ที‍เดียว แล้ว​ได้​สั่ง​ให้​โจทก์​ไป​ว่า‍ความ​กับ​เขา​ต่อ‍หน้า​ท่าน”

31. ดัง‍นั้น​ใน​เวลา​กลาง‍คืน พวก​ทหาร​จึง​พา​เปา‌โล​ไป​ถึง​เมือง​อัน‌ทิ‌ปา‌ตรีส์ ตาม​คำ‍สั่ง

32. ครั้น​รุ่ง‍เช้า​เขา​ให้​ทหาร‍ม้า​ไป​ส่ง​เปา‌โล แล้ว​เขา​ก็​กลับ​ไป​ยัง​กรม‍ทหาร

33. ครั้น​ทหาร‍ม้า​ไป​ถึง​เมือง​ซี‌ซา‌รี‌ยา​แล้ว จึง​ส่ง​จด‍หมาย​ให้​แก่​ผู้‍ว่า​ราช‍การ​เมือง และ​ได้​มอบ​เปา‌โล​ไว้​ให้​ท่าน​ด้วย

34. เมื่อ​ผู้‍ว่า​ราช‍การ​เมือง​ได้​อ่าน​จด‍หมาย​แล้ว จึง​ถาม​ว่า​เปา‌โล​มา​จาก​แคว้น​ไหน เมื่อ​ท่าน​ทราบ​ว่า​มา​จาก​ซีลี‌เซีย

35. ท่าน​จึง​กล่าว​ว่า “เมื่อ​โจทก์​มา​พร้อม​กัน​แล้ว เรา​จะ​ฟัง​คำ​ให้​การ​ของ​เจ้า” ท่าน​จึง​สั่ง​ให้​คุม​เปา‌โล​ไว้​ที่​วัง​ของ​เฮ‌โรด