บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

1 ยอห์น 2 ฉบับ1971 (TH1971)

พระ‍คริสต์​ผู้​ทูล​ขอ​เพื่อ​เรา

1. ลูก​ของ​ข้าพ‌เจ้า​เอ๋ย ข้าพ‌เจ้า​เขียน​ข้อ‍ความ​เหล่า‍นี้​ถึง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ไม่​ทำ​บาป และ​ถ้า​ผู้​ใด​ทำ​บาป เรา​ก็​มี​พระ‍องค์​ผู้​ทูล​ขอ​พระ‍บิดา​เพื่อ​เรา คือ​พระ‍เยซู‍คริสต์​ผู้​ทรง​เที่ยง‍ธรรม​นั้น

2. และ​พระ‍องค์​ทรง​เป็น​ผู้​ลบ‍ล้าง​พระ‍อาช‌ญา​ที่​ตก​กับ​เรา​ทั้ง‍หลาย เพราะ​บาป​ของ​เรา และ​ไม่​ใช่​แต่​บาป​ของ​เรา​พวก​เดียว แต่​ของ​มนุษย์​ทั้ง‍ปวง​ใน​โลก​ด้วย

3. เรา​จะ​มั่น‍ใจ​ได้​ว่า​เรา​คุ้น​กับ​พระ‍องค์​โดย​ข้อ​นี้ คือ​ถ้า​เรา​ประ‌พฤติ​ตาม​พระ‍บัญ‌ญัติ​ของ​พระ‍องค์

4. คน‍ใด​ที่​กล่าว​ว่า “ข้าพ‌เจ้า​คุ้น​กับ​พระ‍องค์” แต่​มิ​ได้​ประ‌พฤติ​ตาม​พระ‍บัญ‌ญัติ​ของ​พระ‍องค์ คน​นั้น​เป็น​คน​พูด​มุสา​และ​ความ​จริง​ไม่​ได้​อยู่​ใน​คน​นั้น​เลย

5. แต่​ผู้‍ใด​ที่​ประ‌พฤติ​ตาม​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍องค์ ความ‍รัก​ของ​พระ‍เจ้า​ก็​ถึง​ความ​บริ‌บูรณ์​ใน​คน​นั้น​แล้ว​อย่าง​แน่​แท้ ด้วย​อา‌การ​อย่าง‍นี้​แหละ​เรา​ทั้ง‍หลาย​จึง​รู้​ว่า​เรา​อยู่​ใน​พระ‍องค์

6. ผู้​ใด​กล่าว​ว่า​ตน​อยู่​ใน​พระ‍องค์ ผู้​นั้น​ก็​ควร​ดำ‌เนิน​ตาม​ทาง​ที่​พระ‍องค์​ทรง​ดำ‌เนิน​นั้น

พระ‍บัญ‌ญัติ​ใหม่

7. ดู​ก่อน​ท่าน​ที่​รัก ข้าพ‌เจ้า​ไม่​ได้​เขียน​บัญ‌ญัติ​ใหม่ถึง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​เลย แต่​เป็น​พระ‍บัญ‌ญัติ​เก่า​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​มี​อยู่​ตั้ง‍แต่​เริ่ม​แรก พระ‍บัญ‌ญัติ​เก่า​นั้น​คือ​คำ​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​ยิน​มา​แล้ว

8. อีก​นัย‍หนึ่ง​ก็​กล่าว​ได้​ว่า​ข้าพ‌เจ้า​เขียน​บัญ‌ญัติ​ใหม่​ถึง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย ที่​ว่า​ใหม่​ทั้ง​ฝ่าย​พระ‍องค์​และ​ฝ่าย​ท่าน​ทั้ง‍หลาย ก็​เพราะ​ว่า​ความ​มืด​นั้น​กำ‌ลัง​จะ​ล่วง​ไป และ​ความ​สว่าง​แท้​ก็​ส่อง​อยู่​แล้ว

9. ผู้​ใด​ที่​กล่าว​ว่า​ตน​อยู่​ใน​ความ​สว่าง และ​ยัง​เกลียด‍ชัง​พี่‍น้อง​ของ​ตน ผู้​นั้น​ก็​ยัง​อยู่​ใน​ความ​มืด

10. ผู้​ที่​รัก​พี่‍น้อง​ของ​ตน​ก็​อยู่​ใน​ความ​สว่าง และ​ใน​ความ​สว่าง​นั้น​ไม่​มี​อะไร​ที่​จะ​ทำ​ให้​สะดุด

11. แต่​ผู้​ที่​เกลียด‍ชัง​พี่‍น้อง​ของ​ตน​ก็​อยู่​ใน​ความ​มืด และ​เดิน​ใน​ความ​มืด​และ​ไม่​รู้​ว่า​ตน​กำ‌ลัง​ไป​ไหน เพราะ​ว่า​ความ​มืด​ทำ​ให้​ตา​ของ​เขา​บอด​ไป​เสีย​แล้ว

12. ลูก​ทั้ง‍หลาย​เอ๋ย ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน เพราะ​ว่า​ได้​ทรง‍ยก​บาป​ของ​ท่าน​แล้ว ด้วย​เห็น​แก่​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์

13. ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​บิดา ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​คุ้น​กับ​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​ดำ‌รง​อยู่​ตั้ง‍แต่​ปฐม‍กาล ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​คน​หนุ่มๆ ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน​เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​ชนะ​มาร‍ร้าย​นั้น ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ผู้​เป็น​ลูก ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน​เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​คุ้น​กับ​พระ‍บิดา

14. ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​บิดา ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​คุ้น​กับ​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​ดำ‌รง​อยู่​ตั้ง‍แต่​ปฐม‍กาล ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ที่​เป็น​คน​หนุ่มๆ ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน​เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​มี​กำ‌ลัง​มาก และ​พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍เจ้า​ดำ‌รง​อยู่​ใน​ท่าน​ทั้ง‍หลาย และ​ท่าน​ชนะ​มาร‍ร้าย​นั้น​แล้ว

15. อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่ง‍ของ​ใน​โลก ถ้า​ผู้​ใด​รัก​โลก ความ‍รัก​ต่อ​พระ‍บิดา​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ผู้​นั้น

16. เพราะ​ว่า​สาร‌พัด​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก คือ​ตัณ‌หา​ของ​เนื้อ‍หนัง​และ​ตัณ‌หา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​ไม่​ได้​เกิด​มา​จาก​พระ‍บิดา แต่​เกิด​มา​จาก​โลก

17. และ​โลก​กับ​สิ่ง​ที่​ยั่ว‍ยวน​ของ​โลก​กำ‌ลัง​ล่วง​ไป แต่​ผู้​ที่​ประ‌พฤติ​ตาม​พระ‍ทัย​ของ​พระ‍เจ้า​จะ​ดำ‌รง​อยู่​เป็น​นิตย์

ปฏิ‌ปักษ์​ของ​พระ‍คริสต์

18. ลูก​ทั้ง‍หลาย​เอ๋ย บัด‍นี้​เป็น​วาระ​สุด‍ท้าย​แล้ว และ​ตาม​ที่​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​มา​ว่า ปฏิ‌ปักษ์​ของ​พระ‍คริสต์​จะ​มี​มา บัด‍นี้​ปฏิ‌ปักษ์​ของ​พระ‍คริสต์​ก็​มี​มา​มาก​แล้ว ฉะนั้น​เรา​จึง​รู้​ว่า​บัด‍นี้​เป็น​วาระ​สุด‍ท้าย​แล้ว

19. เขา​เหล่า​นั้น​ได้​ออก​ไป​จาก​พวก​เรา แต่​เขา​เหล่า​นั้น​ก็​ไม่​ใช่​พวก​เรา เพราะ​ว่า​ถ้า​เขา​เป็น​พวก​ของ​เรา เขา​ก็​จะ​อยู่​กับ​เรา​ต่อ‍ไป แต่​เขา​ได้​ออก​ไป​แล้ว ซึ่ง​ก็​เป็น​ที่​ปรา‌กฏ​ชัด​แล้ว​ว่า​เขา​เหล่า​นั้น​หา​ใช่​พวก​ของ​เรา​ไม่

20. และ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​รับ​การ​ทรง​เจิม​จาก​พระ‍องค์​ผู้​บริ‌สุทธิ์​แล้ว และท่าน​ทุก‍คน​ก็​มี​ความ‍รู้2

21. ข้าพ‌เจ้า​เขียน​จด‍หมาย​ถึง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย มิ​ใช่​เพราะ​ท่าน​ไม่​รู้​สัจจะ แต่​เพราะ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​รู้​แล้ว และ​รู้​ว่า​คำ​มุสา​มิ​ใช่​มา​จาก​สัจจะ

22. ใคร​เล่า​เป็น​ผู้​ที่​พูด​มุสา ไม่​ใช่​ใคร​อื่น แต่​เป็น​ผู้​ที่​ปฏิ‌เสธ​ว่า​พระ‍เยซู​มิ​ใช่​พระ‍คริสต์ ผู้​ใด​ที่​ปฏิ‌เสธ​พระ‍บิดา​และ​พระ‍บุตร ผู้​นั้น​แหละ​เป็น​ปฏิ‌ปักษ์​ของ​พระ‍คริสต์

23. ผู้​ใด​ที่​ปฏิ‌เสธ​พระ‍บุตร ผู้​นั้น​ก็​ไม่​มี​พระ‍บิดา ผู้​ใด​ที่​รับ​พระ‍บุตร ผู้​นั้น​ก็​มี​พระ‍บิดา​ด้วย

24. ฝ่าย​ท่าน​ทั้ง‍หลาย จง​ให้​ข้อ‍ความ​ที่​ท่าน​ได้​ยิน​มา​ตั้ง‍แต่​ต้น​นั้น​ดำ‌รง​อยู่​กับ​ท่าน​เถิด ถ้า​ข้อ‍ความ​ที่​ท่าน​ได้​ยิน​ตั้ง‍แต่​ต้น​นั้น​ดำ‌รง​อยู่​กับ​ท่าน ท่าน​ก็​ตั้ง​มั่น‍คง​อยู่​ใน​พระ‍บุตร​และ​ใน​พระ‍บิดา​ด้วย

25. นี่​แหละ​เป็น​พระ‍สัญ‌ญา​ซึ่ง​พระ‍องค์​ได้​ทรง​สัญ‌ญา​ไว้​แก่​เรา คือ​โปรด​ให้​มี​ชีวิต​นิรันดร์

26. ข้าพ‌เจ้า​ได้​เขียน​ข้อ‍ความ​นี้​ถึง​ท่าน กล่าว​ถึง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​หลอก‍ลวง​ท่าน

27. และ​ฝ่าย​ท่าน​ทั้ง‍หลาย การ​เจิม​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​รับ​จาก​พระ‍องค์​นั้น​ดำ‌รง​อยู่​กับ​ท่าน และ​ไม่​จำ‍เป็น​ต้อง​มี​ใคร​สอน​ท่าน​ทั้ง‍หลาย เพราะ​ว่า​การ​เจิม​นั้น​ได้​สอน​ท่าน​ให้​รู้​ทุก​สิ่ง และ​เป็น​ความ​จริง และ​ไม่​ใช่​ความ​เท็จ การ​เจิม​นั้น​สอน​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​แล้ว​อย่าง​ใด ท่าน​จง​ตั้ง​มั่น‍คง​อยู่​กับ​พระ‍องค์​อย่าง​นั้น

28. และ​บัด‍นี้​ลูก​ทั้ง‍หลาย​เอ๋ย จง​อยู่​ใน​พระ‍องค์ เพื่อ​ว่า​เมื่อ​พระ‍องค์​ทรง​ปรา‌กฏ เรา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ได้​มี​ใจ​กล้า และ​ไม่​หลบ​พระ‍พักตร์​พระ‍องค์​ด้วย​ความ​ละอาย เมื่อ​พระ‍องค์​เสด็จ​มา

29. ถ้า​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​รู้​ว่า​พระ‍องค์​เที่ยง‍ธรรม ท่าน​ก็​รู้​ว่า​ทุก‍คน​ที่​ประ‌พฤติ​ตาม​ความ​เที่ยง‍ธรรม​ได้​บัง‍เกิด​มา​จาก​พระ‍องค์​ด้วย