2. ฝ่ายเจ้านายนั้นให้เข้ามาจากข้างนอกทางมุข ของหอประตู และให้มายืนอยู่ที่เสาประตู ให้ปุโรหิตถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาของท่าน และท่านจะนมัสการอยู่ที่ธรณีประตู แล้วท่านจะออกไป แต่อย่าปิดประตูนั้นจนกว่าจะถึงเวลาเย็น
3. ราษฎรจะนมัสการต่อพระเจ้าตรงที่ทางเข้าประตูนั้น ในวันสะบาโตและในวันขึ้นค่ำ
4. เครื่องเผาบูชาที่เจ้านายถวาย แด่พระเจ้าในวันสะบาโตนั้น คือลูกแกะปราศจากตำหนิหกตัว และแกะผู้ ปราศจากตำหนิตัวหนึ่ง
5. และธัญญบูชาที่คู่กับแกะนั้นคือแป้งเอฟาห์หนึ่ง และธัญญบูชาที่คู่กับลูกแกะนั้นก็สุดแท้แต่ ที่ท่านจะสามารถจะถวายได้ พร้อมกับน้ำมันฮินหนึ่งต่อแป้งหนึ่งเอฟาห์
6. ในวันขึ้นค่ำท่านจะถวายวัวหนุ่มปราศจากตำหนิตัวหนึ่ง และลูกแกะหกตัวกับแกะผู้ตัวหนึ่ง ซึ่งต้องปราศจากตำหนิ
7. ส่วนธัญญบูชานั้นท่านจะจัดแป้งหนึ่งเอฟาห์คู่กับวัวผู้ตัวนั้น และหนึ่งเอฟาห์คู่กับแกะผู้ตัวหนึ่งและคู่กับลูกแกะ ท่านจะจัดตามที่สามารถจัดได้ พร้อมกับน้ำมันหนึ่ง ฮินต่อแป้งหนึ่งเอฟาห์
8. เมื่อเจ้านายเข้ามาท่านจะเข้าไปทางมุขของหอประตู และกลับออกไปตามทางเดียวกันนั้น
9. “เมื่อราษฎรเข้ามาต่อพระพักตร์พระเจ้า ณ เทศกาลเลี้ยงตามกำหนด ผู้ที่เข้ามาทางประตูเหนือเพื่อนมัสการจะ ต้องกลับออกไปทางประตูใต้ และผู้ที่เข้ามาทางประตูใต้ จะต้องกลับ ออกไปทางประตูเหนือ อย่าให้ใครกลับทางประตูตามที่เขาเข้ามา แต่ให้ทุกคนออกตรงไปข้างหน้า
10. เมื่อประชาชนเข้าไป เจ้านายจะเข้าไปพร้อมกันด้วย และเมื่อประชาชนออกไป เจ้านายจะออกไปด้วย
11. “ธัญญบูชาที่ใช้ ณ เทศกาลเลี้ยงและเทศกาลที่กำหนดนั้น ให้เป็นเอฟาห์หนึ่งคู่กับวัวหนุ่มตัวหนึ่ง และคู่กับแกะผู้ก็เอฟาห์หนึ่ง และคู่กับลูกแกะก็ตามแต่สามารถจะถวายได้ พร้อมกับน้ำมันฮินหนึ่งต่อแป้งเอฟาห์หนึ่ง
12. เมื่อเจ้านายถวายเครื่องบูชาตามใจสมัคร จะเป็น เครื่องเผาบูชา หรือศานติบูชา เป็นเครื่องบูชาตามใจสมัครถวายแด่พระเจ้า ให้เปิดประตูที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกให้ท่าน และท่านจะถวายเครื่องเผาบูชา หรือศานติบูชาของท่านอย่างที่ท่านทำใน วันสะบาโตแล้วท่านจะออกไป เมื่อท่านออกไปแล้วก็ให้ปิดประตูเสีย