บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40
  41. 41
  42. 42
  43. 43
  44. 44
  45. 45
  46. 46
  47. 47
  48. 48

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

เอ‌เส‌เคียล 17 ฉบับ1971 (TH1971)

คำ‍อุป‌มา​เรื่อง​นก‍อิน‌ทรี​และ​เถา‍องุ่น

1. พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍เจ้า​มา​ยัง​ข้าพ‌เจ้า​ว่า

2. “บุตร​แห่ง​มนุษย์​เอ๋ย จง​ยก​ปริศ‌นา​และ​กล่าว​เป็น​คำ​อุป‌มา​แก่​พงศ์‍พันธุ์​อิส‌รา‌เอล

3. ว่า พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า มี​นก​อิน‌ทรี​มหึ‌มา​ตัว​หนึ่ง ปีก‍ใหญ่​และ​ขน‍ปีก​ก็​ยาว มี​ขน​มาก‍มาย​หลาย​สี มา​ยัง​เล‌บา‌นอน​และ​จิก​ยอด​ต้น‍สน​สีดาร์

4. มัน​หัก​ยอด​กิ่ง‍อ่อน​แล้ว​ก็​คาบ​ไป​ยัง​แผ่น‍ดิน​พา‌ณิชย์ และ​วาง​ไว้​ใน​หัว‍เมือง​ของ​พ่อ‍ค้า​ทั้ง‍หลาย

5. แล้ว​มัน​ก็​เอา​เมล็ด‍พืช​แห่ง​แผ่น‍ดิน​ไป​ปลูก​ไว้​ใน​ที่​ดิน​อุดม มัน​เอา​เมล็ด​ไว้​ข้าง‍น้ำ​มาก​หลาย ตั้ง​ไว้​อย่าง​กับ​กิ่ง​ต้น‍ไค้‍น้ำ

6. เมล็ด​ก็​งอก‍ขึ้น​มา​และ​เติบ‍โต​ขึ้น​เป็น​เถา‍องุ่น​เตี้ย แผ่​แขนง​ไพ‌ศาล แขนง​ทั้ง‍หลาย​ของ​ต้น​นี้​ก็​ทอด​มา​ยัง​ตัว​นก‍อิน‌ทรี และ​ราก​ก็​ยัง​คง​อยู่​ใต้​มัน เมล็ด​จึง​บัง‍เกิด​เป็น​เถา แตก​แขนง​สา‌ขา​และ​ออก​ใบ

7. “แต่​มี​นก‍อิน‌ทรี​ตัว​มหึ‌มา​อีก​ตัว‍หนึ่ง มี​ปีก‍ใหญ่​และ​มี​ขน‍มาก ดู‍เถิด องุ่น​เถา​นั้น​ชอน​ราก​มา‍หา​นก‍อิน‌ทรี​ตัว​นี้​และ​แตก​แขนง​ตรง​มา​ที่​มัน เพื่อ​ให้​มัน​รด​น้ำ​ให้ จาก​ร่อง​ที่​ปลูก​อยู่​นั้น

8. นก​ได้​ย้าย​มัน​ไป​ปลูก​ไว้​ใน​ที่​ดิน‍ดี​ใกล้​น้ำ​มาก​หลาย เพื่อ​ให้​แตก​แขนง​และ​บัง‍เกิด​ผล และ​เป็น​เถา‍องุ่น​ที่​มี​เกียรติ

9. จง​กล่าว​ว่า พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า เถา​นั้น​จะ​เจริญ​ขึ้น​ได้​หรือ นก​นั้น​จะ​ไม่​ถอน‍ราก​มัน​ขึ้น​และ​เด็ด​ผล​เพื่อ​ให้ ใบ‍อ่อน​เหี่ยว‍แห้ง​เสีย​หรือ จะ​ไม่​ต้อง​มี​แขน​อัน​ล่ำ‍สัน​หรือ​ประ‌ชา‍ชน​เป็น​อัน มาก​เพื่อ​ถอน​เถา​ออก​จาก​ราก

10. ดู‍เถิด เมื่อ​มัน​ย้าย​ไป​ปลูก เถา​นั้น​ก็​งอก‍งาม​ดี​หรือ เมื่อ​ลม​ทิศ​ตะวัน‍ออก​พัด​ถูก​มัน​เข้า มัน​จะ​ไม่​เหี่ยว‍แห้ง​ไป​หรือ มัน​คง​เหี่ยว‍แห้ง​ไป​ถึง​ร่อง​ที่​มัน​เกิด​มา​นั้น​ไม่‍ใช่​หรือ”

11. พระ‍วจนะ​ของ​พระ‍เจ้า​มา​ยัง​ข้าพ‌เจ้า​อีก​ว่า

12. “บัด‍นี้​จง​กล่าว​แก่​พงศ์‍พันธุ์​ที่​มัก​กบฏ​นั้น​ว่า ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ไม่​ทราบ​หรือ​ว่า สิ่ง​เหล่า‍นี้​มี​ความ​หมาย​ว่า​กระ‌ไร จง​บอก​เขา​ว่า ดู‍เถิด พระ‍รา‌ชา​กรุง​บา‌บิ‌โลน​ได้​มา​ยัง​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม​และ กวาด​เอา​กษัตริย์​และ​เจ้า‍นาย​ทั้ง‍หลาย​พา​มา​ยัง​พระ‍รา‌ชา ที่​กรุง​บา‌บิ‌โลน

13. และ​พระ‍องค์​ได้​ทรง​เอา​เชื้อ​พระ‍วงศ์​ผู้‍หนึ่ง​และ​ทำ พันธ‌สัญ‌ญา​กับ​ท่าน​ผู้‍นั้น​ให้​เขา​สา‌บาน​ตัว (คน​สำ‌คัญๆ​ของ​แผ่น‍ดิน พระ‍องค์​ได้​กวาด​ต้อน​เอา​ไป

14. เพื่อ​ว่า​ราช​อา‌ณา‍จักร​นั้น​จะ​ต่ำ‍ต้อย​ยก​ตัว​ขึ้น​อีก​ไม่‍ได้ และ​ใน​การ​ที่​รัก‌ษา​พันธ‌สัญ‌ญา ของ​พระ‍องค์​จะ​คง​ยั่ง‍ยืน​อยู่​ได้)

15. แต่​กษัตริย์​ได้​กบฏ​ต่อ พระ‍องค์ โดย​ส่ง​ราช‍ทูต​ไป​ยัง​อียิปต์ ด้วย​หวัง​ว่า​จะ​ได้​ม้า​และ​กอง‍ทัพ​ใหญ่‍โต กษัตริย์​จะ​กระ‌ทำ​สำ‌เร็จ​หรือ ผู้​ที่​กระ‌ทำ​เช่น‍นี้​จะ​หนี​ไป​รอด​หรือ ถ้า​ท่าน​หัก​พันธ‌สัญ‌ญา​ยัง​จะ​รอด​ได้​อีก​หรือ

16. พระ‍เจ้า​ตรัส​ว่า เรา​มี​ชีวิต​อยู่​แน่​ฉัน‍ใด ท่าน​จะ​ต้อง​ตาย​ใน​บา‌บิ‌โลน ใน​ที่​ที่ พระ‍รา‌ชา​องค์​นั้น​ประ‌ทับ​อยู่ คือ​พระ‍รา‌ชา​ผู้​ได้​ทรง​ตั้ง​ท่าน​ให้​เป็น​กษัตริย์ และ​ท่าน​ได้​ดู‍หมิ่น​คำ‍สา‌บาน​ต่อ​พระ‍องค์ และ​ได้​หัก​พันธ‌สัญ‌ญา​ที่​ทำ​ไว้​กับ​พระ‍องค์

17. ฟา‌โรห์​ประ‌กอบ​ด้วย​กอง‍ทัพ​อัน​ใหญ่​โต และ​ผู้​คน​มาก‍มาย​จะ​ไม่​ช่วย​ท่าน​ผู้​นั้น ใน​การ​สง‌คราม​ใน​เมื่อ​เขา​ก่อ​เชิง‍เทิน​และ​ก่อ​กำ‌แพง ล้อม​เพื่อ​จะ​ทำ‌ลาย​ชีวิต​เป็น​อัน​มาก​เสีย

18. เพราะ​เหตุ​ท่าน​ดู‍หมิ่น​คำ‍สา‌บาน​และ​หัก​พันธ‌สัญ‌ญา และ​เพราะ​ท่าน​ปฏิ‌ญาณ​ตัว​และ​ยัง​กระ‌ทำ​สิ่ง​เหล่า‍นี้ ท่าน​จึง​จะ​หนี​ไป​ให้​พ้น​ไม่‍ได้

19. เพราะ​ฉะนั้น​พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า เรา​มี​ชีวิต​อยู่​ฉัน‍ใด​เพราะ​คำ​ปฎิ‌ญาณ ต่อ​เรา​ที่​เขา​ดู‍หมิ่น​และ​พันธ‌สัญ‌ญา​ของ​เรา​ที่​เขา​หัก​เสีย เรา​จะ​ลง‍ทัณฑ์​ให้​ตก​เหนือ​ศีรษะ​ของ​ท่าน​ผู้‍นั้น

20. เรา​จะ​กาง​ข่าย​ของ​เรา​คลุม​เขา และ​เขา​จะ​ติด‍กับ​ของ​เรา​และ​เรา​จะ​นำ​เขา​เข้า​ไป​ใน บา‌บิ‌โลน และ​พิจาร‌ณา​พิพาก‌ษา​เขา​ที่‍นั่น​ใน​เรื่อง​ที่​เขา​ได้​ทร‌ยศ​ต่อ​เรา

21. และ​กอง‍ทัพ​ที่​เขา​ได้​เลือก‍สรร​ไว้​นั้น​จะ​ล้ม‍ลง​ด้วย​ดาบ และ​ผู้​ที่​รอด​ตาย​จะ​กระ‌จาย​ไป​ตาม​ลม​ทุก​ทิศา‌นุทิศ และ​เจ้า​จะ​รู้​ว่า​เรา​คือ​พระ‍เจ้า​ที่​ได้​ลั่น​วา‌จา​ไว้​แล้ว”

22. พระ‍เจ้า​ตรัส​ดัง‍นี้​ว่า “เรา​เอง​จะ​เอา​แขนง​จาก​ยอด​สูง​ของ​ต้น‍สน​สีดาร์​และ​ปลูก​ไว้ เรา​จะ​หัก​กิ่ง‍อ่อน​ของ​มัน​ออก​เสีย และ​เรา​เอง​จะ​ปลูก​มัน​ไว้​บน​ภูเขา​ยอด​สูง

23. เรา​จะ​ปลูก​มัน​ไว้​บน​ภูเขา​สูง​ของ​อิส‌รา‌เอล เพื่อ​จะ​แตก​กิ่ง​และ​บัง‍เกิด​ผล และ​เป็น​ต้น‍สน​สีดาร์​ที่​มี​เกียรติ และ​นก​ทุก​ชนิด​จะ​มา​อา‌ศัย​อยู่​ใต้​มัน นก​ทุก​อย่าง​จะ​มา​ทำ‍รัง​อยู่​ที่​ร่ม​กิ่ง​ของ​มัน

24. และ​ต้น‍ไม้​ทุก​ต้น​ใน​ทุ่ง​จะ​ทราบ​ว่า เรา​คือ​พระ‍เจ้า​กระ‌ทำ​ต้น‍ไม้​สูง​ให้​ต่ำ​ลง และ​กระ‌ทำ​ต้น‍ไม้​ต่ำ​ให้​สูง​ขึ้น ทำ​ต้น‍ไม้​เขียว​ให้​แห้ง​ไป และ​ทำ​ต้น‍ไม้​แห้ง​ให้​งาม​สด‍ชื่น เรา​คือ​พระ‍เจ้า​ได้​ลั่น​วา‌จา​แล้ว เรา​จะ​กระ‌ทำ​เช่น​นั้น”