บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

เลวี‌นิติ 13 ฉบับ1971 (TH1971)

กฎ‍หมาย​เรื่อง​โรค​เรื้อน

1. พระ‍เจ้า​ตรัส​กับ​โม‌เสส​และ​อา‌โรน​ว่า

2. “ถ้า​ผู้‍ใด​เกิด​อา‌การ​บวม​หรือ​พุ​หรือ​ด่าง​ขึ้น​ที่​ผิว‍หนัง แล้ว​ผิว‍หนัง​ของ​เขา​เป็น​เรื้อน ก็​ให้​พา​ผู้‍นั้น​มา​หา​อา‌โรน​ปุโร‌หิต หรือ​มา​หา​บุตร​คน‍หนึ่ง​คน‍ใด​ของ​เขา​ที่​เป็น​ปุโร‌หิต

3. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ผิว‍หนัง​ตรง​ที่​เป็น​โรค ถ้า​ขน​ใน​ที่​นั้น​หงอก​และ​เห็น​ว่า​โรค​นั้น​อยู่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง​ลง​ไป นับ​ว่า​เป็น​โรค​เรื้อน เมื่อ​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​เสร็จ​แล้ว​ให้​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน

4. ถ้า​ผิว‍หนัง​ตรง​ที่​ป่วย​นั้น​ขาว และ​ปรา‌กฏ​ว่า​กิน​ไม่​ลึก​ไป‍กว่า ผิว‍หนัง​และ​ขน​ใน​บริ‌เวณ​นั้น​ก็​ไม่​หงอก ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​ผู้‍ป่วย​ไว้​เจ็ด​วัน

5. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​อีก​ใน​วัน​ที่​เจ็ด ถ้า​ตาม​สาย‍ตา​ของ​เขา​เห็น​ว่า โรค​นั้น​ทรง​อยู่​ไม่​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​เขา​ต่อ‍ไป​อีก​เจ็ด​วัน

6. พอ​ถึง​วัน​ที่​เจ็ด​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง ถ้า​บริ‌เวณ​ที่​ป่วย​นั้น​จาง​ลง และ​โรค​มิ‍ได้​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด​แล้ว เขา​เป็น​โรค‍พุ​เท่า‍นั้น ให้​เขา​ซัก​เสื้อ‍ผ้า​แล้ว​เขา​ก็​จะ​สะอาด​ได้

7. แต่​ถ้า​หาก​ว่า​ภาย‍หลัง​จาก​ที่​เขา​สำ‌แดง ตัว​แก่​ปุโร‌หิต​เพื่อ​รับ​การ​ชำระ​แล้ว​นั้น ปรา‌กฏ​ว่า​บริ‌เวณ​ที่​พุ​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง เขา​ต้อง​กลับ​ไป​หา​ปุโร‌หิต​อีก

8. ให้​ปุโร‌หิต​ทำ​การ​ตรวจ ถ้า​บริ‌เวณ​พุ​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้‍ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

9. “ถ้า​ผู้‍ใด​เป็น​โรค​เรื้อน​ก็​ให้​พา​เขา​มา​หา​ปุโร‌หิต

10. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ตัว​เขา ถ้า​มี​บริ‌เวณ​บวม​สีขาว​เกิด​ขึ้น​ที่​ผิว‍หนัง ซึ่ง​ทำ​ให้​ขน​ที่‍นั่น​หงอก และ​มี​เนื้อ​แผล‍สด​ใน​ที่​ที่​บวม​นั้น

11. แสดง​ว่า​เป็น​โรค​เรื้อน​เรื้อ‍รัง​ที่​ผิว‍หนัง ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​มล‌ทิน อย่า​กัก​ตัว​เขา​ไว้ เพราะ‍ว่า​เขา​เป็น​มล‌ทิน

12. ถ้า​โรค​เรื้อน​นั้น​ลาม​ไป​ตาม​ผิว‍หนัง ตาม​ที่​ปุโร‌หิต​เห็น​ก็​ปรา‌กฏ​ว่า ลาม​ไป​ตาม​ผิว‍หนัง​ทั่ว​ตัว​ผู้‍ป่วย​ตั้ง‍แต่​ศีรษะ​จน​เท้า

13. ปุโร‌หิต​ต้อง​ตรวจ​ดู ถ้า​เรื้อน​นั้น​แผ่​ไป​ทั่ว​ตัว ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด​ด้วย​โรค​ของ​เขา​แล้ว​ตัว​ของ​เขา​เผือก เขา​สะอาด

14. ถ้า​มี​เนื้อ​แผล‍สด​ปรา‌กฏ​ขึ้น​มา​เมื่อ‍ไร เขา​ก็​เป็น​มล‌ทิน

15. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ที่​เนื้อ​แผล‍สด และ​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​เป็น​มล‌ทิน เพราะ​เนื้อ​แผล‍สด​นั้น​ทำ​ให้​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

16. ถ้า​เนื้อ​แผล‍สด​นั้น​เปลี่ยน​ไป​อีก​กลาย​เป็น​สีขาว ให้​เขา​มา​หา​ปุโร‌หิต

17. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา และ​ถ้า​โรค​นั้น​กลาย​เป็น​โรค‍เผือก ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า คน​ที่​เป็น​โรค​นั้น​สะอาด เขา​สะอาด

18. “ถ้า​ที่​ร่าง‍กาย​ของ​คน‍ใด​มี​แผล​ฝี​ซึ่ง​หาย​แล้ว

19. ถ้า​ที่​แผล​เป็น​นั้น​มี​สีขาว​บวม​ขึ้น​มา​หรือ​มี​รอย​สี‍แดง​เรื่อๆ​ปรา‌กฏ ก็​ให้​ผู้‍นั้น​ไป​สำ‌แดง​ตัว​ต่อ​ปุโร‌หิต

20. และ​ปุโร‌หิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​ปรา‌กฏ​ว่า​ที่​เป็น​นั้น​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง​และ​ขน​ที่ บริ‌เวณ​นั้น​หงอก​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน โรค​นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน​มัน​พุ​ขึ้น​มา​ที่​แผล​ฝี

21. แต่​ถ้า​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​แล้ว​เห็น​ว่า​ขน​ที่‍นั่น​ก็​ไม่​หงอก และ​เป็น​ไม่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง แต่​จาง ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​เขา​ไว้​เจ็ด​วัน

22. ถ้า​โรค​นั้น​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​แล้ว

23. แต่​ถ้า​บริ‌เวณ​นั้น​คง‍ที่​อยู่​ไม่​ลาม​ออก‍ไป ก็​เป็น​แต่​เพียง​แผล‍เป็น​ของ​ฝี​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด

24. “หรือ เมื่อ​ส่วน​ของ​ร่าง‍กาย​ถูก​ไฟ​ลวก​และ​เนื้อ​แผล‍สด ที่​ตรง​นั้น​เป็น​รอย​สี‍แดง​เรื่อๆ หรือ​สีขาว

25. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู ถ้า​ขน​ใน​บริ‌เวณ​นั้น​หงอก​และ​ปรา‌กฏ​ว่า​เป็น​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง ก็​เป็น​โรค​เรื้อน มัน​พุ​ขึ้น​มา​ที่​แผล​ไฟ​ลวก และ​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

26. แต่​ถ้า​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู เห็น​ว่า​ขน​ใน​บริ‌เวณ​นั้น​ไม่​หงอก และ​เป็น​ไม่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง แต่​จาง ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​เขา​ไว้​เจ็ด​วัน

27. พอ​ถึง​วัน​ที่​เจ็ด​ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​เขา ถ้า​ที่​เป็น​นั้น​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

28. ถ้า​รอย​ที่​เป็น​นั้น​ทรง​อยู่ ไม่​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง แต่​จาง บวม​เพราะ​ไฟ​ลวก ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​สะอาด เพราะ​มัน​เป็น​เพียง​แผล‍เป็น​ของ​ไฟ​ลวก

29. “ถ้า​ชาย​หรือ​หญิง​คน‍ใด​มี​โรค​ที่​ศีรษะ​หรือ​ที่​เครา

30. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​โรค​นั้น ถ้า​ปรา‌กฏ​ว่า​เป็น​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง และ​ผม​ตรง​นั้น​เหลือง​และ​บาง​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน​เขา​เป็น​โรค‍คัน เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​ศีรษะ​หรือ​ที่​เครา

31. และ​ถ้า​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​โรค‍คัน​นั้น และ​ปรา‌กฏ​ว่า​เป็น​ไม่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง และ​ไม่‍มี​ผม‍ดำ​อยู่​ใน​บริ‌เวณ​นั้น ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​บุค‌คล​ที่​เป็น​โรค‍คัน​นั้น​ไว้​เจ็ด​วัน

32. พอ​ถึง​วัน​ที่​เจ็ด​ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​โรค​นั้น ถ้า​อา‌การ​คัน​นั้น​ไม่​ลาม​ออก‍ไป และ​ไม่‍มี​ขน​เหลือง​ใน​บริ‌เวณ​นั้น​และ​ปรา‌กฏ​ว่า​อา‌การ คัน​ไม่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง

33. ก็​ให้​คน​นั้น​โกน​ผม​เสีย แต่​อย่า​โกน​ตรง​บริ‌เวณ​ที่​คัน ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​บุค‌คล​ที่​เป็น​โรค‍คัน​นั้น​ไว้​อีก​เจ็ด​วัน

34. พอ​ถึง​วัน​ที่​เจ็ด ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ตรง​ที่​คัน ถ้า​ที่​คัน​นั้น​ไม่​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง และ​ปรา‌กฏ​ว่า​เป็น​ไม่​ลึก​ไป​กว่า​ผิว‍หนัง ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด ให้​เขา​ซัก​เสื้อ‍ผ้า แล้ว​จะ​สะอาด

35. แต่​ถ้า​เขา​ชำระ​ตัว​แล้ว ยัง​ปรา‌กฏ​ว่า โรค‍คัน​นั้น​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง

36. ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา ถ้า​โรค‍คัน​นั้น​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง​แล้ว ไม่​จำ‍เป็น​ต้อง​มอง‍หา​ขน​สี‍เหลือง เขา​เป็น​มล‌ทิน​แล้ว

37. “แต่​ถ้า​ตาม​สาย‍ตา​ของ​เขา​โรค‍คัน​นั้น​ระ‌งับ​แล้ว และ​มี​ผม‍ดำ​งอก​อยู่​ใน​บริ‌เวณ​นั้น โรค‍คัน​นั้น​หาย​แล้ว​เขา​ก็​สะอาด และ​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด

38. “เมื่อ​ผู้‍ชาย​หรือ​ผู้หญิง​มี​รอย​ขาว​ที่​ผิว‍หนัง

39. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา ถ้า​รอย​ที่​ผิว‍กาย​นั้น​เป็น​สีขาว​หม่น นั่น​เป็น​เกลื้อน​ที่​พุ​ขึ้น​ใน​ผิว‍หนัง เขา​สะอาด

40. “ถ้า​ชาย​คน‍ใด​มี​ผม‍ร่วง​จาก​ศีรษะ เขา​เป็น​คน​ศีรษะ​ล้าน แต่​เขา​สะอาด

41. ถ้า​ชาย​คน‍ใด​มี​ผม​ที่​หน้า‍ผาก​และ​ที่​ขมับ​ร่วง หน้า‍ผาก​ของ​เขา​ล้าน แต่​เขา​สะอาด

42. แต่​ถ้า​ตรง​บริ‌เวณ​ศีรษะ​ล้าน หรือ​หน้า‍ผาก​ล้าน มี​บริ‌เวณ​เป็น​โรค​สี‍แดง​เรื่อๆ เขา​เป็น​เรื้อน​พุ​ขึ้น​ที่​ศีรษะ​ล้าน​หรือ​ที่​หน้า‍ผา​กล้าน​นั้น

43. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​เขา ถ้า​โรค‍บวม​นั้น​สี‍แดง​เรื่อๆ อยู่​ที่​ศีรษะ​ล้าน​หรือ​ที่​หน้า‍ผา​กล้าน​ของ​เขา เหมือน​กับ​โรค​เรื้อน​ที่​ปรา‌กฏ​ตาม​ผิว‍หนัง

44. ชาย​ผู้‍นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน เขา​เป็น​มล‌ทิน ปุโร‌หิต​ต้อง​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน โรค​ของ​เขา​อยู่​ที่​ศีรษะ

45. “ให้​บุค‌คล​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​สวม​เสื้อ‍ผ้า​ที่​ขาด และ​ให้​ปล่อย​ผม และ​ให้​เขา​ปิด​ริม‍ฝี‍ปาก​บน​ไว้​แล้ว​ร้อง​ไป​ว่า ‘มล‌ทิน มล‌ทิน’

46. เขา​จะ​เป็น​มล‌ทิน​อยู่​ตลอด​เวลา​ที่​เขา​เป็น​โรค เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​จะ​ต้อง​อยู่​แต่​ลำ‌พัง​ภาย‍นอก​ค่าย

47. “เมื่อ​ใน​เครื่อง​แต่ง‍กาย​มี​เรื้อน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เครื่อง​แต่ง‍กาย​ขน‍สัตว์​หรือ​ผ้า‍ป่าน

48. อยู่​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง อยู่​ที่​ผ้า‍ป่าน​หรือ​ผ้า​ขน‍สัตว์​หรือ​อยู่​ใน​หนัง หรือ​สิ่ง‍ใดๆ​ทีี่​ทำ​ด้วย​หนัง

49. ถ้า​โรค​นั้น​ทำ​ให้​เครื่อง​แต่ง‍กาย​มี​สี‍เขียวๆ หรือ​แดงๆ​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง ที่​หนัง​หรือ​สิ่ง​ใดๆ​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง นั่น​เป็น​เรื้อน​จะ​ต้อง​นำ​ไป​แสดง​ต่อ​ปุโร‌หิต

50. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​โรค​นั้น และ​ให้​กัก​สิ่ง​ที่​เป็น​โรค​นั้น​ไว้​เจ็ด​วัน

51. พอ​ถึง​วัน‍ที่​เจ็ด​ก็​ให้​ตรวจ​ดู​โรค​นั้น​อีก ถ้า​โรค​นั้น​ลาม​ไป​ใน​เสื้อ‍ผ้า​เครื่อง​แต่ง‍กาย ไม่​ว่า​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง เป็น​ที่​หนัง‍สัตว์ หรือ​สิ่ง‍ใด​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์ โรค​นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน​อย่าง​ร้าย นับ​ว่า​เป็น​มล‌ทิน

52. ให้​ปุโร‌หิต​เผา​เครื่อง​แต่ง‍กาย​นั้น​เสีย​ไม่​ว่า เป็น​โรค​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน หรือ​เส้น‍พุ่ง​เป็น​ที่​ผ้า‍ขน‍สัตว์​หรือ​ผ้า‍ป่าน หรือ​สิ่ง​ใดๆ​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์ เพราะ​เป็น​โรค​เรื้อน​ที่​ร้าย จึง​ให้​เผา​เสีย​ใน​ไฟ

53. “และ​ถ้า​ปุโร‌หิต​นั้น​ตรวจ​ดู และ​โรค​นั้น​มิ‍ได้​ลาม​ไป​ใน​เสื้อ​ทั้ง​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง หรือ​ใน​สิ่ง‍ใด​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์

54. ก็​ให้​ปุโร‌หิต​บัญ‌ชา​ให้​เขา​ซัก​ตัว​ที่​เป็น​โรค​นั้น​เสีย และ​ให้​กัก​ไว้​อีก​เจ็ด​วัน

55. เมื่อ​ซัก​แล้ว​ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ตัว​ที่​เป็น​โรค​นั้น​อีก ถ้า​บริ‌เวณ​ที่​เป็น​โรค​ไม่​เปลี่ยน​สี แม้‍ว่า​โรค​นั้น​ไม่​ลาม​ไป ก็​เป็น​มล‌ทิน เจ้า​จง​เอา​ใส่​ใน​ไฟ เผา​เสีย ไม่​ว่า​บริ‌เวณ​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​นั้น​จะ​อยู่​ข้าง‍ใน​หรือ​ข้าง‍นอก

56. “ถ้า​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​เมื่อ​ซัก​แล้ว เห็น​ว่า​โรค​นั้น​จาง ก็​ให้​ฉีก​บริ‌เวณ​นั้น​ออก‍เสีย​จาก​เสื้อ​หรือ​หนัง‍สัตว์ หรือ​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง

57. ถ้า​ปรา‌กฏ​ขึ้น​อีก​ใน​เครื่อง​แต่ง‍กาย​ไม่​ว่า​ที่ ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง หรือ​ใน​สิ่ง​ใดๆ​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์ โรค​นั้น​ลาม​ไป​แล้ว เจ้า​จง​เผา​สิ่ง​ที่​เป็น​โรค​นั้น​ด้วย​ไฟ

58. ถ้า​เสื้อ​ทั้ง​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง หรือ​สิ่ง​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์ ซึ่ง​เมื่อ​ซัก​แล้ว​โรค​นั้น​หมด​ไป ก็​ให้​ซัก​อีก​เป็น​ครั้ง​ที่​สอง สะอาด​ได้​แล้ว”

59. นี่​เป็น​กฎ​ว่า​ด้วย​โรค​เรื้อน​ใน เสื้อ​ที่​ทำ​ด้วย​ขน‍สัตว์​หรือ​ผ้า‍ป่าน ไม่​ว่า​เป็น​ที่​ด้าย​เส้น‍ยืน​หรือ​เส้น‍พุ่ง หรือ​เป็น​ที่​สิ่ง​ใดๆ​ที่​ทำ​ด้วย​หนัง‍สัตว์ เพื่อ​ให้​พิจาร‌ณา​ว่า​อย่าง‍ใด​สะอาด อย่าง‍ใด​เป็น​มล‌ทิน