11. ที่นั่นจะได้ยินเสียงบันเทิงและเสียง รื่นเริงและเสียงเจ้าบ่าวและเสียงเจ้าสาว และเสียงบรรดาคนเหล่านั้นที่ร้องเพลง ขณะที่เขานำเครื่องบูชาโมทนาพระคุณ มายังพระนิเวศของพระเจ้า ว่า‘จงถวายโมทนาแด่พระเจ้าจอมโยธาเพราะพระเจ้าประเสริฐเพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็น นิตย์เพราะเราจะให้แผ่นดินนั้นกลับสู่สภาพเดิมพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
12. “พระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า ในสถานที่นี้ซึ่งเป็นที่ทิ้งร้าง ไม่มีมนุษย์หรือสัตว์ และที่ในหัวเมืองทั้งสิ้นของที่นี้ จะเป็นที่อาศัยของผู้เลี้ยงแกะได้พักแกะของเขาทั้งหลายอีก
13. พระเจ้าตรัสว่า ในหัวเมืองแถบแดนเทือกเขา ในหัวเมืองแถบเนินเชเฟลาห์ ในหัวเมืองแถบเนเกบ ในแผ่นดินแห่งเบนยามิน ตามสถานที่รอบกรุงเยรูซาเล็ม ในหัวเมืองยูดาห์จะมีฝูงแกะผ่านใต้มือของผู้ที่นับอีก
14. “พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันนั้นจะมาถึง คือเมื่อเราจะให้คำสัญญาที่เรา กระทำไว้ต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอลและพงศ์พันธุ์ยูดาห์สำเร็จ
15. ในวันเหล่านั้นและในเวลานั้น เราจะให้อังกูรชอบธรรมเกิดมาเพื่อดาวิด และท่านจะให้ความยุติธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น
16. ในกาลครั้งนั้น ยูดาห์จะได้รับการช่วยให้รอด และเยรูซาเล็มจะอาศัยอยู่อย่างมั่นคง และนี่เป็นชื่อซึ่งเขาจะเรียกเมืองนั้นคือ ‘พระเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของเรา’
17. “เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดาวิดจะไม่ขัดสนบุรุษที่จะประทับบน พระที่นั่งแห่งพงศ์พันธุ์อิสราเอล
18. และปุโรหิตเผ่าเลวีจะไม่ขัดสนบุรุษที่อยู่ต่อหน้าเรา เพื่อถวายเครื่องเผาบูชา และเผาเครื่องธัญญบูชา และกระทำการสักการบูชาเป็นนิตย์”
19. พระวจนะของพระเจ้ามายังเยเรมีย์ว่า