5. และเชื่อฟังถ้อยคำของบรรดาผู้รับใช้ของเรา คือบรรดาผู้เผยพระวจนะ ซึ่งเราได้ส่งไปหาเจ้าอย่างไม่หยุดยั้ง ถึงเจ้าจะมิได้เชื่อฟัง
6. แล้วเราจะกระทำให้พระนิเวศนี้เหมือนอย่างชิโลห์ และเราจะกระทำให้เมืองนี้เป็นที่สาปแก่บรรดาประชาชาติทั่วโลก”
7. บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ และประชาชนทั้งสิ้นได้ยินเยเรมีย์ พูดถ้อยคำเหล่านี้ในพระนิเวศของพระเจ้า
8. และเมื่อเยเรมีย์ได้จบคำพูดทั้งสิ้น ซึ่งพระเจ้าได้บัญชาท่านให้พูดแก่ประชาชนนั้น บรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะและประชาชน ทั้งสิ้นได้จับเยเรมีย์กล่าวว่า “เจ้าจะต้องตาย
9. ทำไมเจ้าจึงเผยพระวจนะในพระนามของพระเจ้าว่า ‘พระนิเวศนี้จะเหมือนชิโลห์และเมืองนี้จะร้างเปล่า ไม่มีชาวเมืองอยู่’ ” และประชาชนทั้งสิ้นก็ รวบรวมกันเข้ามาหาเยเรมีย์ที่พระนิเวศของพระเจ้า
10. เมื่อบรรดาเจ้านายแห่งยูดาห์ได้ยินสิ่งเหล่านี้แล้ว ท่านก็ขึ้นมาจากพระราชวังถึงพระนิเวศของพระเจ้า และมานั่งในทางเข้าประตูใหม่แห่งพระนิเวศของพระเจ้า
11. แล้วบรรดาปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะจึงทูล เจ้านายและบอกประชาชนทั้งปวงว่า “ชายคนนี้ควรแก่การตัดสินลงโทษถึงความตาย เพราะเขาเผยพระวจนะกล่าวโทษเมืองนี้ ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยินกับหูของท่านเองแล้ว”
12. เยเรมีย์จึงทูลเจ้านายทั้งสิ้นและบอกประชาชนทั้งปวงว่า “พระเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาเผยพระวจนะต่อพระนิเวศ และเมืองนี้ ตามถ้อยคำทั้งสิ้นซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินมา
13. เพราะฉะนั้น บัดนี้ท่านทั้งหลายจงแก้ไขพฤติการณ์ และการกระทำของท่านทั้งหลายและ เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และพระเจ้าจะทรงกลับพระทัยจากโทษ ซึ่งพระองค์ได้ทรงกำหนดให้ท่าน
14. แต่ส่วนตัวข้าพเจ้า ดูเถิด ข้าพเจ้าอยู่ในมือของท่านทั้งหลาย ท่านจงกระทำแก่ข้าพเจ้าตามที่ท่านเห็นดีและเห็นชอบ
15. ขอแต่เพียงให้ทราบแน่ว่า ถ้าท่านประหารข้าพเจ้าที่คนไร้ความผิดต้องตายนั้น ตัวท่านเองและเมืองนี้และชาวเมืองนี้ต้องรับผิดชอบ เพราะความจริงพระเจ้าทรงใช้ให้ข้าพเจ้ามาพูด ถ้อยคำเหล่านี้ทั้งสิ้นให้เข้าหูของท่าน”