19. ไม่มีใครตรึกตรองเลย และไม่มีความรู้หรือมีการพินิจพิเคราะห์ ที่จะว่า ข้าเผามันเสียครึ่งหนึ่งในกองไฟ และข้าก็เอาถ่านมันมาปิ้งขนมปัง ข้าย่างเนื้อกินแล้ว และควรที่ข้าจะทำส่วนที่เหลือให้เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังหรือ ควรข้าจะกราบลงต่อท่อนไม้ท่อนหนึ่งไหม
20. เขากินขี้เถ้า ใจที่หลอกหลอนนำเขาให้เจิ่น เขาช่วยกู้ตัวเขาเองหรือพูดว่า “ไม่มีความมุสา อยู่ในมือข้างขวาของข้าหรือ” ก็ไม่ได้
21. โอ ยาโคบเอ๋ย จงจำสิ่งเหล่านี้อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราเราได้ปั้นเจ้า เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราโอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า
22. เราได้ลบล้างการทรยศของเจ้าเสียเหมือนเมฆและลบล้างบาปของเจ้าเหมือนหมอกจงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว
23. โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลง เพราะพระเจ้าทรงกระทำการนี้โอ ห้วงลึกของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงโห่ร้องโอ ภูเขาเอ๋ย จงร้องเป็นเพลงออกมาโอ ป่าไม้เอ๋ย และต้นไม้ทุกต้นในนั้นด้วยเพราะว่าพระเจ้าทรงไถ่ยาโคบและจะทรงรับเกียรติในอิสราเอล
24. พระเจ้าผู้ไถ่ของเจ้าผู้ปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรัสดังนี้ว่า“เราคือพระเจ้า ผู้ทรงสร้างสิ่งสารพัดผู้ทรงขึงฟ้าสวรรค์แต่ลำพังผู้ทรงกางแผ่นดินโลก ผู้ใดอยู่กับเราเล่า
25. ผู้กระทำให้ลางของคนมุสาไม่ขลังและกระทำคนทำนายให้บ้าๆบอๆผู้หันคนฉลาดให้กลับหลังและกระทำให้ความรู้ของเขาเขลาไป
26. ผู้รับรองถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระองค์และให้สัมฤทธิ์ผลตามแผนงานแห่งทูตของพระองค์ผู้กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนอาศัยอยู่’และถึงหัวเมืองยูดาห์ว่า ‘จะมีคนมาสร้างขึ้นและเราจะยกสิ่งปรักหักพังของมันขึ้น’
27. ผู้กล่าวแก่ที่ลึกว่า ‘จงแห้งเสียเราจะให้แม่น้ำของเจ้าแห้ง’
28. ผู้กล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นเมษบาลของเราและเขาจะให้ความมุ่งหมายทั้งสิ้นของเราสำเร็จ’กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนมาสร้างขึ้น’และถึงพระวิหารว่า ‘จะวางรากฐานของเจ้า’ ”