15. เราจะทิ้งภูเขาและเนินให้ร้างและให้พืชผักบนนั้นแห้งไปเราจะให้แม่น้ำกลายเป็นเกาะและให้สระแห้งไป
16. เราจะจูงคนตาบอดไปในทางที่เขาทั้งหลายไม่รู้จักเราจะนำเขาไปในทางทั้งหลายที่เขาไม่รู้จักเราจะให้ความมืดข้างหน้าเขากลับเป็นสว่างที่ขรุขระให้เป็นที่ราบสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควรจะกระทำและเราจะไม่ละทิ้งสิ่งเหล่านี้
17. เขาทั้งหลายจะหันกลับ และต้องขายหน้าอย่างที่สุดคือผู้ที่วางใจในรูปแกะสลักผู้ที่กล่าวแก่รูปเคารพหล่อว่า“ท่านเป็นพระของเรา”
18. ท่านผู้หูหนวกเอ๋ย ฟังซิและท่านผู้ตาบอดเอ๋ย มองซิ เพื่อท่านจะเห็นได้
19. ใครเป็นคนตาบอด ก็ผู้รับใช้ของเราน่ะซิหรือใครหูหนวกอย่างกับทูตของเราที่เราใช้ไปใครตาบอดอย่างผู้ที่รับมาครบแล้วหรือตาบอดอย่างผู้รับใช้ของพระเจ้า
20. เจ้าเห็นหลายอย่าง แต่มิได้สังเกตหูของเขาผึ่ง แต่เขามิได้ยิน
21. เพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์ พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะเชิดชูพระธรรมและกระทำให้พระธรรมนั้นมีเกียรติ
22. แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกขโมยและถูกปล้นเขาทุกคนติดอยู่ในรูและซ่อนอยู่ในคุกเขาตกเป็นเหยื่อซึ่งไม่มีผู้ใดช่วยให้รอดเป็นของริบซึ่งไม่มีผู้ใดพูดว่า “คืนซิ”
23. ผู้ใดในพวกเจ้าจะเงี่ยหูฟังในเรื่องนี้ที่จะมุ่งหน้าตั้งใจฟัง
24. ใครมอบยาโคบให้แก่ผู้ริบและอิสราเอลให้แก่ผู้ปล้นไม่ใช่พระเจ้าหรือ ผู้ซึ่งเราได้ทำบาปต่อซึ่งเขาไม่ยอมดำเนินในทางของพระองค์และซึ่งเขามิได้เชื่อฟังพระธรรมของพระองค์
25. ฉะนั้นพระองค์จึงทรงหลั่งความโกรธจัดลงมาบนเขาและหลั่งอานุภาพของสงครามทำให้เขาติดเพลิงอยู่โดยรอบ แต่เขาไม่เข้าใจมันไหม้เขา แต่เขามิได้เอาใจใส่