3. เสียงหนึ่งร้องว่า“จงเตรียมมรรคาแห่งพระเจ้าในถิ่นทุรกันดารจงทำทางหลวงสำหรับพระเจ้าของเราให้ตรงไป29ในทะเลทราย
4. หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกขึ้นภูเขาและเนินทุกแห่งจะให้ต่ำลงที่ลุ่มๆดอนๆ จะให้เสมอและที่สูงๆต่ำๆ ให้เป็นที่ราบ
5. และจะเผยพระสิริของพระเจ้าและมนุษย์ทั้งสิ้นจะได้เห็นด้วยกันเพราะพระโอษฐ์ของพระเจ้าตรัสไว้แล้ว”
6. เสียงหนึ่งร้องว่า “ร้องซิ”และข้าพเจ้าว่า “ข้าจะร้องว่ากระไร”บรรดามนุษย์และสัตว์ก็เป็นเหมือนต้นหญ้าและความงามทั้งสิ้นของมันก็เหมือนดอกไม้แห่งทุ่งนา
7. หญ้านั้นก็เหี่ยวแห้ง ดอกไม้นั้นก็ร่วงโรยไปเมื่อพระปัสสาสะของพระเจ้าเป่ามาถูกมันมนุษยชาติเป็นหญ้าแน่ทีเดียว
8. หญ้านั้นก็เหี่ยวแห้ง ดอกไม้นั้นก็ร่วงโรยไปแต่พระวจนะของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์
9. โอ ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี30เจ้าจงขึ้นไปบนภูเขาสูง โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี31จงเปล่งเสียงของเจ้าด้วยเต็มกำลังจงเปล่งเสียงเถิด อย่ากลัวเลยจงกล่าวแก่หัวเมืองแห่งยูดาห์ว่า“ดูเถิด นี่พระเจ้าของเจ้า”
10. ดูเถิด พระเจ้าเสด็จมาด้วยอานุภาพและพระกรของพระองค์ครอบครองเพื่อพระองค์ดูเถิด รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์และค่าตอบแทนของพระองค์ก็อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
11. พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะพระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวงและทรงค่อยๆนำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป
12. ผู้ใดได้เคยตวงน้ำทั้งสิ้นด้วยอุ้งมือของตนและวัดฟ้าสวรรค์ด้วยคืบเดียวบรรจุผงคลีของแผ่นดินโลกไว้ในถังเดียวและชั่งภูเขาในตาชั่งและชั่งเนินด้วยตราชู
13. ผู้ใดได้ให้กำหนดแก่พระวิญญาณของพระเจ้าหรือเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ให้คำแนะนำแก่พระองค์
14. พระองค์ทรงปรึกษาผู้ใดเพื่อพระองค์จะทรงรู้แจ้งและผู้ใดสอนทางแห่งความยุติธรรมให้พระองค์และสอนความรู้แก่พระองค์และสำแดงให้พระองค์เห็นทางแห่งความเข้าใจ
15. ดูเถิด บรรดาประชาชาติก็เหมือนน้ำหยดหนึ่งจากถังและนับว่าเหมือนผงบนตาชั่งดูเถิด พระองค์ทรงหยิบเกาะทั้งหลายขึ้นมาเหมือนผงคลี