5. โดยกล่าวว่า “เมื่อไรหนอ วันขึ้นค่ำจะหมดไปเราจะได้ขายข้าวของเราเมื่อไรหนอวันสะบาโตจะพ้นไปเราจะได้เอาข้าวสาลีออกขายเราจะได้กระทำทะนานให้ย่อมลงและกระทำเชเขลให้โตขึ้นและหลอกค้าด้วยตาชั่งขี้ฉ้อ
6. เพื่อเราจะได้ซื้อคนจนด้วยเงินและซื้อคนขัดสนด้วยรองเท้าสานคู่หนึ่งและขายกากข้าวสาลี”
7. โดยศักดิ์ศรีของยาโคบ พระเจ้าทรงปฏิญาณว่า“แน่นอนทีเดียว เราจะไม่ลืมการกระทำของเขาสักอย่างเดียวเป็นนิตย์
8. แผ่นดินจะไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องนี้หรือทุกคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นจะไม่ไว้ทุกข์หรือและแผ่นดินนั้นทั้งหมดก็เอ่อขึ้นมาอย่างแม่น้ำไนล์ถูกซัดไปซัดมาและยุบลงอีกเหมือนแม่น้ำไนล์แห่งอียิปต์มิใช่หรือ”
9. พระเจ้าตรัสว่า “และในวันนั้นเราจะกระทำให้ดวงอาทิตย์ตกในเวลาเที่ยงวันกระทำให้โลกมืดไปในกลางวันแสกๆ
10. เราจะให้การเลี้ยงของเจ้าทั้งหลายกลับเป็นการไว้ทุกข์และให้เสียงเพลงทั้งสิ้นของเจ้าเป็นคำคร่ำครวญเราจะนำผ้ากระสอบมาที่เอวของคนทั้งหลายและศีรษะทั่วไปก็จะล้านและเราจะกระทำให้เป็นเหมือนการไว้ทุกข์ให้ บุตรชายคนเดียวของเขาและวาระสุดท้ายก็จะให้เหมือนวันที่ขมขื่น
11. พระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด วันเวลาก็มาถึงเมื่อเราจะส่งทุพภิกขภัยมาที่แผ่นดินไม่ใช่การอดอาหาร หรือการกระหายน้ำแต่จะอดฟังพระวจนะของพระเจ้า
12. เขาทั้งหลายจะท่องเที่ยวจากทะเลนี้ไปทะเลโน้นและจากทิศเหนือไปทิศตะวันออกเขาทั้งหลายจะวิ่งไปวิ่งมา เพื่อแสวงหาพระวจนะของพระเจ้าแต่เขาจะหาไม่พบ
13. “ในวันนั้น สาวพรหมจารีสวยๆ และคนหนุ่มจะสลบไสลเพราะความกระหาย
14. บรรดาผู้ที่สาบานออกนามพระอาชิมาห์แห่งสะมาเรียและกล่าวว่า ‘โอ ดานเอ๋ย พระของท่านมีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’และว่า ‘พระมรรคาของเบเออร์เชบามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด’เขาเหล่านี้จะล้มลง และจะไม่ลุกขึ้นอีกเลย”