17. “เจ้าอย่าหล่อรูปพระไว้สำหรับตัวเองเลย
18. “เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลกินขนมปัง ไร้เชื้อ จงกินขนมปังไร้เชื้อ ให้ครบเจ็ดวันตามกำหนดในเดือนอาบีบตามที่เราบัญชาเจ้า เพราะเจ้าออกจากอียิปต์ในเดือนอาบีบ
19. ทุกสิ่งซึ่งออกจากครรภ์ครั้งแรกเป็นของเรา คือสัตว์ตัวผู้ทั้งหมดของเจ้า ลูกหัวปีของโคและของแกะ
20. ส่วนลูกลาหัวปีนั้นเจ้าจงนำลูกแกะมาไถ่ไว้ ถ้าแม้เจ้ามิได้ไถ่ก็จงหักคอมันเสีย บุตรหัวปีทั้งหลายของพวกเจ้านั้นจะต้องไถ่ไว้ ด้วย อย่าให้ผู้ใดมาเฝ้าเรามือเปล่าเลย
21. “เจ้าจงทำการงานในกำหนดหกวัน แต่วันที่เจ็ดจงพัก แม้ว่าในฤดูไถนาและฤดูเกี่ยวข้าวก็จงพัก
22. จงถือเทศกาลสัปดาห์ คือเทศกาลเลี้ยงฉลองผลต้นฤดูเกี่ยวข้าวสาลี และถือเทศกาลเลี้ยงฉลองการเก็บผลิตผลในปลาย ปี
23. บรรดาผู้ชายทั้งหลายของพวกเจ้าต้องมาประชุมกันต่อ พระพักตร์พระเจ้าแห่งอิสราเอลปีละสามครั้ง
24. เพราะเราจะขับไล่ชนชาติทั้งหลายออกไปให้พ้นหน้าพวกเจ้า และจะขยายเขตแดนเมืองของเจ้าให้กว้างออกไป เมื่อพวกเจ้าจะขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าของเจ้าปีละสามครั้งนั้น จะไม่มีใครอยากได้แผ่นดินของเจ้าเลย
25. “อย่าถวายเลือดบูชา พร้อมกับขนมปังมีเชื้อ และเครื่องบูชาอันเกี่ยวกับเทศกาลเลี้ยงปัสกานั้น อย่าให้เหลือไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น
26. จงคัดพืชผลแรกจากผลรุ่นแรกในไร่นามาถวายใน พระนิเวศพระเจ้าของเจ้า อย่าต้มเนื้อลูกแพะด้วยน้ำนมแม่ของมันเลย”
27. พระเจ้าตรัสกับโมเสสอีกว่า “คำเหล่านี้จงเขียนไว้ เพราะเราทำพันธสัญญาไว้กับเจ้า และพวกอิสราเอลตามข้อความเหล่านี้แล้ว”
28. ฝ่ายโมเสสเฝ้าพระเจ้าอยู่ที่นั่นสี่สิบวันสี่สิบคืน มิได้รับประทานอาหารหรือน้ำเลย และท่านจารึกคำพันธสัญญาไว้ที่แผ่นศิลา คือพระบัญญัติสิบประการ
29. อยู่ต่อมาเมื่อโมเสสได้ลงมาจากภูเขาซีนาย ถือแผ่นพระโอวาทสองแผ่นมาด้วย เวลาที่ลงมาจากภูเขานั้น โมเสสก็ไม่ทราบว่าผิวหน้าของตนทอแสงเนื่องด้วย พระเจ้าทรงสนทนากับท่าน
30. เมื่ออาโรนและคนอิสราเอลทั้งปวงมองดูโมเสส ก็เห็นว่าผิวหน้าของท่านทอแสง และเขาก็กลัวไม่กล้าเข้ามาใกล้ท่าน