บท

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21
  22. 22
  23. 23
  24. 24
  25. 25
  26. 26
  27. 27
  28. 28
  29. 29
  30. 30
  31. 31
  32. 32
  33. 33
  34. 34
  35. 35
  36. 36
  37. 37
  38. 38
  39. 39
  40. 40

พันธสัญญาเดิม

พันธสัญญาใหม่

อพ‌ยพ 16 ฉบับ1971 (TH1971)

พระ‍เจ้า​ประ‌ทาน​มานา

1. พวก​เขา​ยก​ไป​จาก​เอ‌ลิม และ​ใน​วัน‍ที่​สิบ‍ห้า​เดือน​ที่​สอง นับ​ตั้ง‍แต่​เวลา​ยก​ออก​จาก แผ่น‍ดิน​อียิปต์ ชุม‌นุม​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ทั้ง‍หมด​ก็​มา​ถึง​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​สีน ซึ่ง​อยู่​ระหว่าง​ตำ‌บล​เอ‌ลิม​กับ​ภูเขา​ซีนาย

2. ชุม‌นุม​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ทั้ง‍ปวง​ก็ พา​กัน​บ่น​ต่อ​โม‌เสส​และ​อา‌โรน​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร

3. คน​อิส‌รา‌เอล​กล่าว​แก่​ท่าน​ทั้ง‍สอง​ว่า “พวก​ข้าพ‌เจ้า​ตาย​เสีย​ด้วย​พระ‍หัตถ์​ของ พระ‍เจ้า​ตั้ง‍แต่​อยู่​ใน​ประ‌เทศ​อียิปต์ ขณะ​เมื่อ​นั่ง​อยู่​ใกล้​หม้อ‍เนื้อ​และ รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร​อิ่ม‍หนำ​จะ​ดี‍กว่า นี่​ท่าน​กลับ​นำ​พวก​ข้าพ‌เจ้า​ออก​มา​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​อย่าง‍นี้ เพื่อ​จะ​ให้​ชุม‌นุม‍ชน​ทั้ง‍หมด​หิว​ตาย​เท่า‍นั้น”

4. แล้ว​พระ‍เจ้า​ได้​ตรัส​กับ​โม‌เสส​ว่า “ดู‍เถิด เรา​จะ​ให้​อา‌หาร​ตก‍ลง​มา​จาก ท้อง‍ฟ้าดุจ​ฝน​สำ‌หรับ​พวก​เจ้า ให้​ประ‌ชา‍ชน​ออก​ไป​เก็บ​ทุก‍วัน พอ​กิน​เฉพาะ​วัน‍หนึ่งๆ เพื่อ​เรา​จะ​ได้​ลอง‍ใจ​ว่า เขา​จะ​ปฏิ‌บัติ​ตาม​โอ‌วาท ของ​เรา​หรือ‍ไม่

5. ใน​วัน‍ที่​หก เมื่อ​เขา​เตรียม​ของ​ที่​เก็บ​มา อา‌หาร​นั้น​ก็​จะ​เพิ่ม​เป็น​สอง‍เท่า​ของ​ที่​เขา​เก็บ​ทุกวัน”

6. โม‌เสส​กับ​อา‌โรน​จึง​บอก​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ทั้ง‍ปวง​ว่า “ใน​เวลา‍เย็น​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​จะ​ได้​รู้​ว่า พระ‍เจ้า​เป็น​ผู้​ทรง​นำ​พวก​ท่าน​ออก​จาก​ประ‌เทศ​อียิปต์

7. ใน​เวลา‍เช้า​พวก​ท่าน​จะ​ได้​เห็น​พระ‍สิริ​แห่ง​พระ‍เจ้า เพราะ​คำ‍บ่น​ต่อ‍ว่า​ของ​พวก​ท่าน​ต่อ​พระ‍เจ้า​ทราบ​ถึง​พระ‍องค์​แล้ว เรา​ทั้ง‍สอง​เป็น​ผู้‍ใด​เล่า พวก​ท่าน​จึง​มา​บ่น​ต่อ‍ว่า​เรา”

8. โม‌เสส​กล่าว​ว่า “ใน​เวลา​เย็น​พระ‍เจ้า​จะ​ประ‌ทาน​เนื้อ​ให้​ท่าน​รับ‍ประ‌ทาน และ​ใน​เวลา​เช้า​พวก​ท่าน​จะ​มี​อา‌หาร​รับ‍ประ‌ทาน​จน​อิ่ม เพราะ​พระ‍เจ้า​ทรง​ทราบ​คำ‍บ่น​ของ​ท่าน​ต่อ​พระ‍องค์ เรา​ทั้ง‍สอง​นี้​เป็น​ผู้‍ใด​เล่า พวก​ท่าน​มิ‍ได้​บ่น​ต่อ‍ว่า​เรา แต่​ได้​บ่น​ต่อ‍ว่า​พระ‍เจ้า”

9. โม‌เสส​จึง​กล่าว​แก่​อา‌โรน​ว่า “จง​บอก​ชุม‌นุม​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ทั้ง‍ปวง​ว่า ‘เข้า​มา​ใกล้​พระ‍เจ้า เพราะ​พระ‍องค์​ทรง​สดับ​คำ‍บ่น​ของ​ท่าน​แล้ว’ ”

10. ขณะ​ที่​อา‌โรน​กล่าว​แก่​ชุม‌นุม‍ชน​อิส‌รา‌เอล​อยู่​นั้น เขา​ทั้ง‍หลาย​มอง​ไป​ทาง​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร ก็​เห็น​พระ‍สิริ​ของ​พระ‍เจ้า​ปรา‌กฏ​อยู่​ใน​เมฆ

11. พระ‍เจ้า​ตรัส​กับ​โม‌เสส​ว่า

12. “เรา​ได้​ยิน​คำ‍บ่น​ของ​ชน​ชาติ​อิส‌รา‌เอล​แล้ว จง​กล่าว​แก่​เขา​ว่า ‘ใน​เวลา​โพล้‌เพล้ พวก​เจ้า​จะ​ได้​กิน​เนื้อ ทั้ง​ใน​เวลา​เช้า เจ้า​จะ​ได้​อา‌หาร​กิน​จน​อิ่ม แล้ว​เจ้า​จะ​รู้​ว่า เรา​คือ​พระ‍เจ้า​ของ​พวกเจ้า’ ”

13. ครั้น​ถึง​เวลา​เย็น​ฝูง​นก‍คุ่ม​บิน​มา​เต็ม​ค่าย ใน​เวลา​เช้า​ก็​มี​น้ำ‍ค้าง​ตก​รอบ​ค่าย​ที่‍พัก

14. เมื่อ​น้ำ‍ค้าง​ระเหย​ไป​แล้ว ก็​เห็น​สิ่ง​หนึ่ง​เหมือน​เกล็ด​เล็กๆ เท่า​เม็ด​น้ำ‍ค้าง​แข็ง​อยู่​ที่​พื้น‍ดิน​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​นั้น

15. เมื่อ​ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​เห็น​จึง​พูด​กัน​ว่า “นี่​อะไร​หนอ” เพราะ​เขา​ไม่​ทราบ​ว่า​เป็น​สิ่ง‍ใด โม‌เสส​จึง​บอก​เขา​ว่า “นี่‍แหละ​เป็น​อา‌หาร​ที่​พระ‍เจ้า​ประ‌ทาน​ให้​พวก ท่าน​รับ‍ประ‌ทาน

16. นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ‍เจ้า​ทรง​บัญ‌ชา​ไว้​ว่า ‘ให้​ทุก‍คน​เก็บ​เท่า​ที่​พอ​รับ‍ประ‌ทาน​อิ่ม ให้​เก็บ​คน​ละ​โอ‌เมอร์ ตาม​จำ‌นวน​คน​มาก​น้อย ซึ่ง​พัก​อยู่​ใน​เต็นท์​ของ​ตน’ ”

17. ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ก็​กระ‌ทำ​ตาม บาง‍คน​เก็บ​มาก บาง‍คน​เก็บ​น้อย

18. แต่​เมื่อ​เขา​ใช้​โอ‌เมอร์​ตวง คน​ที่​เก็บ​ได้​มาก​ก็​ไม่​มี​เหลือ และ​คน​ที่​เก็บ​ได้​น้อย​ก็​หา​ขาด​ไม่ ทุก‍คน​เก็บ​ได้​เท่า​ที่​คน​หนึ่ง​รับ‍ประ‌ทาน​พอ‍ดี

19. โม‌เสส​จึง​สั่ง​ว่า “อย่า​ให้​ผู้‍ใด​เก็บ​เหลือ​ไว้​จน​รุ่ง‍เช้า”

20. แต่​เขา​มิ‍ได้​เชื่อ​ฟัง​โม‌เสส บาง‍คน​เก็บ​ส่วน​หนึ่ง​ไว้​จน​รุ่ง‍เช้า อา‌หาร​นั้น​ก็​เน่า​เป็น​หนอน และ​บูด‍เหม็น โม‌เสส​จึง​โกรธ​คน​เหล่า‍นั้น

21. เขา​เก็บ​กัน​ทุกๆ​เช้า​เท่า​ที่​คน​หนึ่ง​รับ‍ประ‌ทาน​พอ‍ดี แต่​พอ​แดด‍ออก​ร้อน‍จัด​แล้ว​อา‌หาร​นั้น​ก็​ละลาย​ไป

22. อยู่​มา​เมื่อ​ถึง​วัน‍ที่​หก เขา​เก็บ​อา‌หาร​สอง‍เท่า คือ​คน​ละ​สอง​โอ‌เมอร์ บรร‌ดา​หัว‍หน้า​ของ​ชุม‌นุม‍ชน​จึง​มา​ราย‍งาน​ต่อ​โม‌เสส

23. โม‌เสส​บอก​เขา​ว่า “พระ‍เจ้า​ทรง​พระ​บัญ‌ชา​ว่า ‘พรุ่ง‍นี้​เป็น​วัน​หยุด‍งาน เป็น​สะ‌บา‌โต วัน‍บริ‌สุทธิ์​ของ​พระ‍เจ้า จะ​ปิ้ง​อะไร​ก็​ให้​ปิ้ง จะ​ต้ม​อะไร​ก็​ให้​ต้ม​เสีย และ​ส่วน​ที่​เหลือ​ทั้ง‍หมด​จง​เก็บ​ไว้​จน​ถึง​วัน​รุ่ง‍ขึ้น’ ”

24. เมื่อ​เขา​เก็บ​ไว้​จน​ถึง​วัน​รุ่ง‍ขึ้น ตาม​โม‌เสส​สั่ง อา‌หาร​นั้น​ก็​มิ‍ได้​บูด‍เหม็น​เป็น​หนอน​เลย

25. โม‌เสส​จึง​บอก​ว่า “วัน‍นี้​จง​กิน​อา‌หาร​นั้น เพราะ‍ว่า​วัน‍นี้​เป็น​วัน​สะ‌บา‌โต​ของ​พระ‍เจ้า วัน‍นี้​ท่าน​จะ​ไม่​พบ​อา‌หาร​อย่าง‍นั้น​ใน​ทุ่ง​เลย

26. จง​เก็บ​หก​วัน แต่​ใน​วัน‍ที่​เจ็ด​ซึ่ง​เป็น​สะ‌บา‌โต​จะ​ไม่​มี​เลย”

27. อยู่​มา​เมื่อ​วัน‍ที่​เจ็ด มี​บาง‍คน​ออก​ไป​เก็บ แต่​ไม่​ได้​พบ

28. พระ‍เจ้า​ตรัส​กับ​โม‌เสส​ว่า “พวก​เจ้า​จะ​ขัด‍ขืน​บัญ‌ญัติ​และ​กฎ‍หมาย​ของ​เรา​นาน​สัก​เท่าไร

29. ดู‍ซิ พระ‍เจ้า​ทรง​กำ‌หนด​วัน​สะ‌บา‌โต​ให้​เจ้า​คือ​ใน​วัน‍ที่​หก พระ‍องค์​จึง​ประ‌ทาน​อา‌หาร​ให้​พอ​รับ‍ประ‌ทาน​สอง​วัน ให้​ทุก‍คน​พัก​อยู่​ใน​ที่​ของ​ตน อย่า​ให้​ผู้‍ใด​ออก​จาก​ที่​พัก​ใน​วัน‍ที่​เจ็ด​นั้น​เลย”

30. เหตุ​ฉะนั้น​ประ‌ชา‍ชน​ทั้ง‍ปวง​จึง​ได้​พัก‍งาน​ใน​วัน‍ที่​เจ็ด

31. เหล่า​วงศ์‍วาน​ของ​อิส‌รา‌เอล เรียก​ชื่อ​อา‌หาร​นั้น​ว่า​มานา เป็น​เม็ด​ขาว​เหมือน​เมล็ด​ผัก‍ชี มี​รส​เหมือน​ขนม​แผ่น​ประ‌สม​น้ำ‍ผึ้ง

32. โม‌เสส​กล่าว​ว่า “พระ‍เจ้า​มี​รับ‍สั่ง​ว่า ‘จง​ตวง​มานา​โอ‌เมอร์​หนึ่ง เก็บ​ไว้​ตลอด​ชั่ว​ชาติ​พันธุ์​ของ​เจ้า เพื่อ​เขา​ทั้ง‍หลาย​จะ​ได้​เห็น​อา‌หาร ซึ่ง​เรา​เลี้ยง​เจ้า​ใน​ถิ่น​ทุร‌กัน‌ดาร​นี้ เมื่อ​เรา​นำ​พวก​เจ้า​ออก​จาก​แผ่น‍ดิน​อียิปต์’ ”

33. โม‌เสส​บอก​อา‌โรน​ว่า “เอา​ไห​ลูก‍หนึ่ง ตวง​มานา​ให้​เต็ม​โอ‌เมอร์​หนึ่ง เก็บ​ไว้​ต่อ​พระ‌พักตร์​พระ‍เจ้า​ชั่ว​ชาติ​พันธุ์​ของ​ท่าน”

34. อา‌โรน​ก็​วาง​มานา​นั้น​ลง​หน้า​หีบ​พระ‌โอ‌วาท เพื่อ​รัก‌ษา​ไว้​ตาม​พระ‍ดำ‌รัส​ที่​พระ‍เจ้า​ทรง​บัญ‌ชา​แก่​โม‌เสส

35. ชน‍ชาติ​อิส‌รา‌เอล​ได้​กิน​มานา​สี่‍สิบ​ปี​จน​เขา​มา​ถึง เมือง​ที่​จะ​อา‌ศัย​อยู่ พวก​เขา​กิน​มานา​จน​มา​ถึง​ชาย‍แดน​แคว้น​คา‌นา‌อัน

36. (หนึ่ง​โอ‌เมอร์​เท่า‍กับ​หนึ่ง​ใน​สิบ​ของ​เอ‌ฟาห์)