3. พระเจ้าทรงเป็นนักรบพระนามของพระองค์คือพระเยโฮวาห์
4. พระองค์ทรงเหวี่ยงรถรบและโยนพลโยธา ของฟาโรห์ลงในทะเลนายทหารรถรบชั้นยอดของฟาโรห์ก็จมในทะเลแดง
5. น้ำท่วมเขาเขาจมลงในทะเลที่ลึก ประดุจก้อนหิน
6. ข้าแต่พระเจ้า พระหัตถ์ขวาของพระองค์ ทรงอานุภาพยิ่งข้าแต่พระเจ้า พระหัตถ์ขวาของพระองค์ทรงทำลายศัตรูให้พินาศไป
7. ด้วยเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงคว่ำปฏิปักษ์ของพระองค์เสียพระองค์ทรงใช้พระพิโรธของพระองค์เผาผลาญเขาเสียอย่างตอฟาง
8. โดยลมที่ระบายจากช่องพระนาสิก10 น้ำก็ท่วมสูงขึ้นไปน้ำท่วมก็ท้นสูงขึ้นน้ำก็แข็งขึ้นในท้องทะเล
9. พวกข้าศึกกล่าวว่า ‘เราจะติดตาม เราจะจับให้ทันเราจะริบสิ่งของมาแบ่งปันกัน เราจึงจะพอใจที่ได้กระทำกับพวกนั้นดังประสงค์เราจะชักดาบออก มือเราจะทำลายเขาเสีย’
10. พระองค์ทรงบันดาลให้ลมพัดมา น้ำทะเลก็ท่วมเขามิดเขาจมลงในกระแสน้ำอันไหลแรงนั้นเหมือนตะกั่ว
11. ข้าแต่พระเจ้า ในบรรดาพระทั้งปวงองค์ไหนจะเป็นเหมือนพระองค์เล่าองค์ไหนจะเหมือนพระองค์ผู้ทรงประกอบด้วยความบริสุทธิ์และน่าเกรงขามเนื่องด้วยพระราชกิจอันรุ่งเรือง และอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ
12. พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ขวาออกแผ่นดินก็กลืนพวกเขาเสีย
13. พระองค์ทรงนำชนชาติ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่ไว้ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์พระองค์ทรงพาเขามาถึงที่สถิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยพระเดชานุภาพ
14. ชนชาติทั้งหลายได้ยินแล้ว ก็พากันสะทกสะท้านชาวประเทศฟีลิสเตียรู้สึกเสียวสยอง
15. ครั้งนั้นพวกเจ้านายในเมืองเอโดมก็พากันหวาดกลัวและพวกหัวหน้าในเมืองโมอับก็สะทกสะท้านชาวเมืองคานาอันทั้งปวงก็ระส่ำระสายไป
16. ความรู้สึกเสียวสยองและความตกใจกลัวอุบัติขึ้นในใจของเขาเนื่องด้วยฤทธานุภาพแห่งพระกรของพระองค์ เขาหยุดนิ่งอยู่เหมือนก้อนหินข้าแต่พระเจ้า จนประชากรของพระองค์ผ่านพ้นไปจนชนชาติซึ่งพระองค์ทรงไถ่ไว้แล้วผ่านไป